แลกหมัด! ดีเบตแรก ‘ไบเดน-ทรัมป์’ ซัดกันนัว ประเด็น ‘ศก.-ทำแท้ง’
ภาพประกอบข่าว
แลกหมัด! ดีเบตแรก ‘ไบเดน-ทรัมป์’ ซัดกันนัว ประเด็น ‘ศก.-ทำแท้ง’
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ วัย 81 ปี ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต และอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ วัย 78 ปี ผู้ท้าชิงจากพรรครีพับลิกัน เข้าร่วมในดีเบตแรกที่จัดขึ้นโดยซีเอ็นเอ็น ในวันที่ 27 มิถุนายน ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งทั้งคู่ต่างวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างเต็มที่ในสารพัดเรื่องราว
ภาพประกอบข่าว
เอพีรายงานว่าไบเดนได้เริ่มการอภิปรายด้วยการพูดผิดหลายครั้งในช่วงต้น โดยเสียงของเขาฟังดูแหบพร่า ทำให้เขาต้องพยายามกระแอมไอซ้ำหลายครั้งเพื่อเรียกเสียงกลับมา ซ้ำยังต้องหยุดชะงักลงชั่วคราวเมื่อเขาพยายามจะพูดเพื่อปกป้องข้อมูลเกี่ยวกับเศรษฐกิจและวิพากษ์วิจารณ์ทรัมป์
ดูเหมือนไบเดนจะลืมสิ่งที่คิดระหว่างตอบคำถามเพียงคำถามเดียว โดยเขาเปลี่ยนจากการพูดถึงนโยบายด้านภาษีไปสู่นโยบายด้านสุขภาพ ถึงจุดหนึ่งเขาพูดว่า “โควิด” และบอกตามมาว่า “ขอโทษด้วย ในการจักการกับ” แล้วเขาก็หลงลืมอีกครั้ง ก่อนจะสรุปด้วยคำพูดว่า “ดูสิ ในที่สุดเราก็เอาชนะเมดิแคร์ได้” (โครงการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติของสหรัฐ) ก่อนที่เวลาของเขาจะหมดลง
ภาพประกอบข่าว
ทรัมป์คว้าเอาคำพูดสุดท้ายของไบเดนมาขยายผลทันที โดยกล่าวว่า “ใช่แล้ว เขาเอาชนะเมดิแคร์ เขาทุกมันจนตาย และเขาคือผู้ทำลายเมดิแคร์” ก่อนที่จะกล่าวหาไบเดนแบบผิดๆ ว่าเป็นผู้ที่กำลังทำให้โครงการบริการสังคมอ่อนแอลง จากการที่มีผู้อพยพเข้ามาในสหรัฐ
ไบเดนซึ่งพยายามแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นหลังเขาเข้ารับตำแหน่งต่อจากทรัมป์ ย้ำถึงสถานการณ์ขณะที่เขาสืบทอดตำแหน่งต่อจากทรัมป์ ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยระบุว่า เมื่อทรัมป์พ้นจากตำแหน่ง หลายสิ่งตกอยู่ท่ามกลางความสับสนวุ่นวาย
ขณะที่ทรัมป์ยืนยันว่า ระหว่างที่เขาดำรงตำแหน่งในทำเนียบขาว ทุกอย่างกำลังเป็นไปได้สวย พร้อมโจมตีการถอนทหารอเมริกันออกจากอัฟกานิสถานของไบเดนว่า “มันเป็นวันที่น่าอับอายที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศของเรา”
ทรัมป์ยังกล่าวหาไบเดนด้วยการกล่าวอ้างว่า ผู้อพยพได้ก่ออาชญากรรม และพรรคเดโมแครตสนับสนุนการสังหารเด็กทารก ขณะที่ไบเดนกล่าวโทษทรัมป์ว่าทำให้เกิดการยกเลิกสิทธิทำแท้งทั่วประเทศโดยการตั้งฝ่ายอนุรักษ์นิยมในศาลฎีกาสหรัฐ ซึ่งประเด็นที่สร้างความเสียหายให้กับพรรครีพับลิกันอย่างหนักนับตั้งแต่ปี 2022
ทรัมป์แย้งว่าไบเดนไม่ได้สนับสนุนข้อจำกัดใดๆ ในการทำแท้ง และยืนยันว่าการส่งประเด็นนี้กลับไปให้แต่ละรัฐเป็นผู้พิจารณาเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว
ทรัมป์ยังกล่าวหาไบเดนว่าล้มเหลวในการรักษาชายแดนทางตอนใต้ของสหรัฐ ส่งผลให้มีอาชญากรรมจำนวนมาก ที่ทรัมป์บอกว่า เขาเรียกมันว่าอาชญากรรมผู้อพยพของไบเดน ทำให้ไบเดนโต้กลับว่า “เป็นอีกครั้งที่เขาพูดเกินจริง เขาโกหก”
เมื่อถูกถามว่าทรัมป์จะทำให้การดูแลเด็กมีราคาถูกลงได้อย่างไร ทรัมป์กลับกล่าวโจมตีไบเดนว่าเป็นประธานาธิบดีที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ และหากไบเดนชนะการเลือกตั้ง อเมริกาจะไม่มีโอกาสออกมาจากหล่มที่กำลังติดอยู่ และเราอาจไม่มีประเทศสหรัฐเหลืออยู่เลยด้วยซ้ำ ทำให้ไบเดนออกมาสวนกลับว่าการสำรวจของนักประวัติศาสตร์บอกว่าทรัมป์เป็นประธานาธิบดีที่แย่ที่สุด และอ้างว่าทรัมป์ไม่ได้ทำอะไรเลยในเรื่องการดูแลเด็กตลอดการเป็นประธานาธิบดี เราควรที่จะเพิ่มเงินลดหย่อนภาษีในเรื่องการดูแลเด็ก ทำให้พ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวสามารถกลับไปทำงานต่อได้มากขึ้น และผลักดันให้บริษัทต่างๆ มีศูนย์การดูแลเด็ก
ทีมรณรงค์หาเสียงของไบเดนออกมาชี้แจงในเวลาต่อมาว่า เหตุที่เสียงของไบเดนแหบแห้งเป็นผลมาจากที่เขาป่วยเป็นหวัดในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านามา แต่ทีมข่าวของบีบีซีตั้งข้อสังเกตว่า ทีมหาเสียงของไบเดนรอให้การอภิปรายผ่านพ้นไปนาน 45 นาที ถึงจะออกมาชี้แจงถึงอาการป่วยของประธานาธิบดีไบเดน
การดีเบตรอบแรกระหว่างคู่ท้าชิงประธานาธิบดีสหรัฐครั้งนี้ ซึ่งกินเวลานาน 90 นาที เกิดขึ้นเร็วกว่าการโต้วาทีระหว่างคู่ท้าชิงในอดีต หรือเกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้งในวันที่ 5 พฤศจิกายน มากกว่า 4 เดือน
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : แลกหมัด! ดีเบตแรก ‘ไบเดน-ทรัมป์’ ซัดกันนัว ประเด็น ‘ศก.-ทำแท้ง’
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th