เศรษฐา ชิมเนื้อวากิวสุรินทร์ จ่อดันเป็นสินค้า GI ตื่นเต้นข้าวตันละแสน สั่งพัฒนาแหล่งน้ำ รับฝน-แล้ง
นายกฯ ชิมเนื้อวากิวสุรินทร์ เตรียมดันเป็นสินค้า GI ตื่นเต้นข้าวผกาอำปึล หรือข้าวดอกมะขาม ตันละแสน สั่งกรมชล-สทนช.เร่งพัฒนาแหล่งน้ำรองรับน้ำหน้าฝนกักน้ำหน้าแล้ง-พร้อมเน้นย้ำปัญหายาเสพติด สั่งผู้ว่าฯ-ศธ.จังหวัด บรรจุให้ความรู้นักเรียนในกิจกรรมต่างๆ
เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานภารกิจ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในการลงพื้นที่อีสานใต้ วันที่ 3 หลังนายกรัฐมนตรีพักค้างคืนจังหวัดศรีสะเกษ โดยเมื่อเวลา 09.30 น. นายกรัฐมนตรีเดินทางต่อมายังจังหวัดสุรินทร์ เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ณ อ่างเก็บน้ำห้วยแก้ว ตำบลรัตนบุรี อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คมนาคม นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม และคณะ
จากนั้นเวลา 10.10 น. วันที่ 30 มิถุนายน ที่โรงเรียนรัตนบุรี อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ เพื่อร่วมประชุมหารือแผนพัฒนาจังหวัดสุรินทร์ โดยมี นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์เขต 5 พรรคเพื่อไทย นายชูชัย มุ่งเจริญพร ส.ส.สุรินทร์เขต 2 พรรคเพื่อไทย ให้การต้อนรับ
โดยเมื่อเดินทางถึง นายกรัฐมนตรีได้ทักทายประชาชนที่พร้อมใจตะโกนว่า “เรารักนายกฯ เศรษฐา” บางคนชอบว่าหล่อมาก
จากนั้นนายกฯ ได้พบปะพูดคุยกันพร้อมสอบถามทหารผ่านศึก ถึงชีวิตความเป็นอยู่หลังจากที่ได้ไปสู้รบรับใช้ชาติมา ทั้งนี้ ตัวแทนทหารผ่านศึกได้สอบถามเรื่องของเงินผดุงเกียรติทหารผ่านศึกเดือนละ 3,000 บาท ซึ่งนายกรัฐมนตรีกล่าวว่าจะไปประสานและติดตามให้
นอกจากนี้ นายกฯ เยี่ยมชมแม่พันธุ์โคเนื้อ ของกัปตันฟาร์มวากิว ซึ่งเป็นเครือข่ายโคเนื้อสุรินทร์วากิว โดยนายกรัฐมนตรีสอบถามถึงการเลี้ยง และการพัฒนาคุณภาพเนื้อ เพื่อให้เทียบเท่ากับต่างประเทศซึ่งมีราคาสูงสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร
จากนั้นนายกฯ ได้แวะเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์จากเนื้อวากิว พร้อมชิมเนื้อวากิวย่างก่อนจะชมว่าอร่อย เนื้อดี ก่อนสอบถามราคาว่าผลิตภัณฑ์แปรรูปแช่แข็งราคาเท่าไหร่ พร้อมนำเนื้อวากิวย่างแจกให้คณะที่ติดตามได้ลองชิมด้วย ก่อนที่นายกฯ จะเดินเยี่ยมชมบูธผลิตภัณฑ์สินค้าเกษตรต่างๆ รวมทั้งผลิตภัณฑ์แปรรูป ทั้งนี้ ก็ได้ซื้อผ้าไหมสุรินทร์ไปเป็นที่ระลึก
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ให้ความสนใจคุณประโยชน์ข้าวผกาอำปึล หรือ ปกาอำปึล ข้าวจ้าว พื้นถิ่นเมืองสุรินทร์ หรือข้าวดอกมะขามข้าว ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้บริโภคจำนวนมากเนื่องจากมีประโยชน์ เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน โดยปัจจุบันราคาขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 100 บาทตกตันละ 100,000 บาททำให้นายกฯ รู้สึกตื่นเต้น
ทั้งนี้ จังหวัดสุรินทร์เสนอประเด็นปัญหาและความต้องการในการพัฒนาพื้นที่ เพื่อแก้ไขปัญหาของประชาชนต่อรัฐบาล ได้แก่ การพัฒนาเพิ่มศักยภาพแหล่งน้ำทั้งระยะเร่งด่วนและระยะยาว ขุดลอกอ่างเก็บน้ำที่สำคัญของจังหวัดสุรินทร์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการกักเก็บน้ำให้เพียงพอต่อการอุปโภคบริโภคของประชาชนชาวจังหวัดสุรินทร์และแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำที่ใช้สำหรับทำการเกษตร รวม 6 โครงการ การพัฒนาด่านพรมแดนช่องจอม โดยการก่อสร้างอาคารพร้อมสิ่งปลูกสร้างประกอบบนเนื้อที่ประมาณ 27 ไร่ 2 งาน 70 ตารางวา แต่มีข้อจำกัดในการใช้พื้นที่ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ การศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งสนามบินสุรินทร์ เพื่อรองรับการขยายตัวด้านการค้า การลงทุน ทั้งภาคอุตสาหกรรม การท่องเที่ยวและการเกษตร สร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับพื้นที่และอำนวยความสะดวกในการเดินทาง และการพัฒนายกระดับสินค้าปศุสัตว์มูลค่าสูง คือโคสายพันธุ์วากิว ซึ่งเป็นโคที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่า เป็นโคสายพันธุ์ดี เนื้อนุ่ม มีปริมาณไขมันแทรกในเนื้อสูง เพื่อเพิ่มมูลค่า สร้างโอกาส สร้างรายได้ให้เกษตรกรมากยิ่งขึ้น
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เรื่องการบริหารจัดการน้ำชัดเจนชาวสุรินทร์ทั้งหมดพึ่งการเกษตรกรดังนั้นการบริหารจัดการน้ำไม่ท่วมไม่แล้งจึงเป็นเรื่องสำคัญเราจะทำให้ดีที่สุด แต่จังหวัดสุรินทร์เป็นทางผ่านน้ำไม่ค่อยท่วม แต่มีปัญหาเรื่องน้ำแล้งมีทุกปี ดังนั้นการขุดลอกบ่อน้ำจึงเป็นเรื่องสำคัญ ขณะเดียวกันให้กรมชลประทานและ สทนช.เร่งดำเนินการแก้ปัญหาต่อไปเพราะใกล้จะถึงหน้าฝนแล้วจะสามารถรองรับปัญหาน้ำท่วมและกักเก็บน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้ง
นายเศรษฐากล่าวว่า ส่วนการพัฒนาศักยภาพการค้าชายแดนขอให้กรมศุลกากรหาแนวทางร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาด่านช่องจอม พิจารณาความเหมาะสมและความเป็นไปได้เพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจ สำหรับสนามบินสุรินทร์เข้าใจว่ามีความเป็นไปได้ขอให้กระทรวงคมนาคมรับไปศึกษาความเป็นไปได้ที่จะพัฒนาสร้างสนามบินจังหวัดสุรินทร์
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เรื่องของการพัฒนาโคสายพันธุ์โคสุรินทร์กิวยังมีอีก 2-3 เรื่องที่จะต้องผลักดันให้ครบวงจร แม้พัฒนาสายพันธุ์ไปถึงจุดหนึ่งแล้ว ตัวหนึ่งมีกำไร 4,000-5,000 บาท ซึ่งถือว่าสูง แต่หากระยะกลางระยะยาวสามารถการพัฒนาสายพันธุ์ไปถึงเนื้อมัตสึซากะได้ก็จะดีมาก แต่เหนือสิ่งอื่นใดเวลาที่เรามีของที่ดีเราอย่าไปคำนึงถึงแค่กำไรระยะสั้น เพราะเป็นการทุบหม้อข้าวตนเองเราต้องคำนึงถึงมาตรฐานของสินค้า เช่น เนื้อวากิว มาจากญี่ปุ่นซึ่งมีมาตรฐาน จากเนื้อธรรมดากิโลกรัมละ 200 เป็นเนื้อวากิวขายได้กิโลกรัมละ 2,000-3,000 บาท แต่ต้องมีคุณภาพทั้งรสชาติและความนุ่ม เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญพร้อมที่รัฐบาลพร้อมจะสนับสนุนโดยเฉพาะเรื่องของโรงเชือดที่ยังมีไม่เพียงพอ ส่วนตลาดรองรับไม่ต้องห่วงโดยเฉพาะตะวันออกกลางมีตลาดรองรับมากเพียงพอ แต่สิ่งสำคัญคือต้องได้มาตรฐาน จึงอยากจะให้เราเร่งพัฒนาให้ได้ระดับมาตรฐาน ดันให้เนื้อวากิวสุรินทร์เป็นสินค้า GI ของจังหวัดสุรินทร์
นายเศรษฐาเรื่องของยาเสพติด นายกรัฐมนตรีเชื่อว่าการปลูกฝังให้เห็นถึงผลร้ายต้องปลูกฝังที่โรงเรียนก่อน จึงฝากผู้ว่าราชการและศึกษาธิการจังหวัดบรรจุเข้าไปในทุกๆ กิจกรรมของนักเรียน ขณะเดียวกันอยากให้ทุกระดับตั้งแต่กำนัน ผู้ใหญ่บ้านหามาตรการช่วยให้ชุมชนมีความเข้มแข็ง ส่วนเรื่องของการปราบปรามก็ต้องทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร เพราะจะพัฒนาอะไรก็แล้วแต่ แต่ถ้าประชาชนยังติดยาเสพติดก็ไม่เป็นผลดี
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : เศรษฐา ชิมเนื้อวากิวสุรินทร์ จ่อดันเป็นสินค้า GI ตื่นเต้นข้าวตันละแสน สั่งพัฒนาแหล่งน้ำ รับฝน-แล้ง
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th