สว่างจ้า! หลอดไฟหน้ายุคใหม่ กินไฟน้อย แต่สว่างมาก ไม่แยงตาชาวบ้าน

สว่างจ้า! หลอดไฟหน้ายุคใหม่ กินไฟน้อย แต่สว่างมาก ไม่แยงตาชาวบ้าน

หนึ่งในบรรดาหลอดไฟหน้า ที่ให้ความสว่างมากมาย แต่กินกระแสไฟน้อยกว่าหรือเท่ากับหลอดไฟแบบ HALOGEN เดิม ๆ นั้น ก็ได้แก่ หลอดไฟหน้าแบบ HID หรือ HIGH INTENSITY DISCHARGE และ หลอดไฟแอลอีดี LED หรือ Light Emitting Diode ซึ่งหลอดไฟหน้าจำพวกนี้ จะให้แสงสว่างที่ขาวนวลและสว่างกว่าหลอดไฟหน้า HALOGEN ประมาณ 2 – 3 เท่าตัว แต่จะกินกระแสไฟน้อยกว่า เกินครึ่งต่อครึ่ง

หลอดไฟหน้า HALOGEN

อย่างเช่น หลอดไฟหน้าแบบ HALOGEN ขนาด 55 วัตต์ จะกินกระแสไฟฟ้าประมาณ 4.5 แอมป์ ขณะที่หลอดไฟหน้าจำพวก HID ในขนาด 55 วัตต์เท่ากัน จะกินกระแสไฟเพียง 2.5 แอมป์เท่านั้น นอกจากหลอดไฟหน้าจำพวก HID จะมีความโดดเด่นกว่าหลอดไฟหน้าแบบ HALOGEN ตรงที่กินกระแสไฟน้อยกว่า แต่ให้ความสว่างที่เท่าเทียมกันหรือเหนือกว่าแล้ว จุดเด่นอีกอย่างหนึ่ง ก็คือ อายุการใช้งานที่ยาวนานกว่านั่นเอง

หลอดไฟหน้า XENON

หลายคนอาจจะสงสัยว่า แล้วหลอดไฟหน้าแบบ HID เป็นหลอดไฟประเภทใดกันแน่ ถึงมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าหลอดไฟหน้าแบบ HALOGEN ถ้าจะบอกว่า หลอดไฟหน้าแบบ XENON เป็นหลอดไฟในกลุ่ม HID หลายคนคงร้อง อ๋อ!!…ถึงบางอ้อกันซะที! ด้วยลักษณะพิเศษของหลอดไฟแบบ XENON ที่ให้แสงสว่างโดยไม่ต้องพึ่งพาไส้หลอดเหมือนกับหลอดไฟหน้าประเภทอื่นๆ แต่ให้แสงสว่างออกมาโดยอาศัยจากการเกิดปฏิกิริยา ในขณะที่อิเล็กตรอนกระโดดผ่านกลุ่มก๊าซ XENON ทำให้เกิดเป็นแสงสว่างขึ้นมา ไม่จำเป็นต้องใช้ไส้หลอดไฟแต่อย่างใด

แต่ด้วยลักษณะพิเศษของหลอดไฟ XENON นี้ ทำให้ขั้นตอนการผลิตยุ่งยากมากกว่าการผลิตหลอดไฟธรรมดาทั่ว ๆ ไป ทั้งยังต้องมีอุปกรณ์เพิ่มเติมเข้ามาอีกหลายชิ้น ในระบบไฟหน้าแบบ XENON จึงมีราคาสูงกว่าหลอดไฟธรรมดาหลายเท่า

หลอดไฟหน้า LED

ทีนี้ มาว่ากันถึง หลอดไฟหน้ารถยนต์ที่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน คือ แบบ LED รถยนต์ส่วนใหญ่นิยมใช้กันอยู่ ซึ่งหลอดไฟแอลอีดี (LED) ย่อมาจาก Light Emitting Diode โดยกำเนิดแสงในรูปแบบการให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านสารกึ่งตัวนำ (Diode) ต่างจากหลอดไส้ที่ใช้การกำเนิดความร้อนเพื่อกระตุ้นก๊าซ ให้แสงสว่างแทนลวด HALOGEN ในหลอดนีออน

หลอดไฟ LED นั้นยังถูกนำใช้ในวงการอุตสาหกรรม มีบทบาทสำคัญในการใช้งานภาคครัวเรือน เนื่องจากความสว่างมากกว่าหลอดไส้แบบเดิม แสงสว่างขาวสะอาดตา ให้ความสว่างสูงมาก จนสามารถนำมาให้แสงสว่างแทนหลอดไฟแบบเดิมได้ ส่องสว่างแบบมีทิศทางได้ในระยะไกล ทนทาน เสื่อมสภาพช้า เปิดสว่างทันที ไม่ปล่อยรังสียูวี ไร้สารปรอท รังสีความร้อน ไม่เกิดความร้อน กินไฟต่ำ ใช้พลังงานน้อยกว่าหลอดไฟประเภทอื่น ทนต่อแรงสั่นสะเทือน จึงถูกนิยมนำมาใช้ติดตั้งเป็นไฟของรถยนต์ในปัจจุบัน เพราะขับเคลื่อนอยู่ตลอดเวลา

เปลี่ยนไปใช้แบบ LED

สำหรับผู้ที่สนใจ อยากเปลี่ยนไฟหน้ารถจากเดิมมาเป็นแบบ LED ก็ต้องทำการติดตั้งให้ถูกต้องตามกฎหมายกำหนด โดยไม่ให้ค่าความสว่างให้อยู่ในระดับที่สูงจนเกินไป ความเข้มของแสงต้องไม่เกิน 55 วัตต์ แสงไฟสว่างเกินค่ามาตรฐาน สามารถแยงสายตาผู้ร่วมถนน นอกจากไม่ปลอดภัยแล้วยังสามารถทำให้เกิดอันตรายต่อสายตาและอาจะเกิดอุบัติเหตุได้ ซึ่งจะต้องมีเพียง 2 สีเท่านั้น เป็นเหลืองอ่อน และสีขาว สีอื่นๆ มีความผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 มาตรา 12 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท

ที่สำคัญเวลาไฟหน้าไม่สว่างเท่าเดิม อย่าโทษที่หลอดไฟเพียงอย่างเดียวนะ เพราะความสว่างของไฟหน้ารถลดน้อยลงกว่าเดิม ไม่ใช่มีสาเหตุจากหลอดไฟเพียงอย่างเดียว แต่อาจจะมาจากแบตเตอรี่เริ่มเสื่อมคุณภาพ หรือเป็นที่ตัวโคมไฟหน้าเองก็ได้ เนื่องจากใช้งานมานาน อาจจะเสื่อมประสิทธิภาพลงไป เพราะฉะนั้นต้องดูให้ดีเช่นกัน

อ่านข่าวต้นฉบับ:

อมรินทร์ทีวี ทันข่าวได้ที่

เว็บไซต์:www.amarintv.com

เรื่องธุรกิจที่ :ติดตาม SPOTLIGHT มองขาดทุกโอกาสธุรกิจ