‘ยิ่งชีพ’ ทึ่ง 50-70 แต้มเก่งเกิน! ขุดประวัติ ‘3 ผู้สมัคร’ ส่อหลุดส.ว. ฝาก กกต.ตามสืบฮั้ว
‘ยิ่งชีพ’ ซูมปรากฏการณ์บุรีรัมย์-เลย ทึ่ง 50-70 แต้มเก่งเกิน! ขุดประวัติ ‘3ผู้สมัคร’ ส่อขาดคุณสมบัติ ส.ว ฝาก กกต.ตามสืบฮั้ว
เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน เวลา 09.00 น. ที่ห้อง 322 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ โครงการอินเตอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน หรือ iLaw ร่วมกับ เครือข่ายเยาวชนสังเกตการณ์การเลือกตั้งเพื่อประชาธิปไตย (We Watch) และคณะนิติศาสตร์ มธ. จัดเวทีเสวนา “ทางข้างหน้า? จากสิ่งที่เห็น” โดยแบ่งเป็น 2 หัวข้อ “เลือก ส.ว.จะได้ประกาศผลหรือไม่ ปัญหาการฮั้วกกต.จะสอยอย่างไร?” และ วงแชร์ประสบการณ์ “เห็นกันตำตากับบทเรียนในระดับประเทศ”
บรรยากาศช่วงแรกก่อนเริ่มเสวนา มีการเปิดข้อค้นพบจากการวิเคราะห์ผลการลงคะแนน โดย ทีมงาน iLaw
นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้อำนวยการไอลอว์ กล่าวว่า เราได้ติดตามกระบวนการเลือก ส.ว.มาโดยตลอด และชักชวนประชาชนเข้าร่วม ซึ่งบัดนี้รู้ผลแล้ว ตนไม่เห็นว่ามีเหตุผลอะไรที่ กกต.จะประกาศผลไม่ได้ แต่มีปัญหามากมายเกิดขึ้นในกระบวนการเลือก ส.ว.ที่ผ่านมา
มีตัวเลขที่ชี้ให้เห็นชัดเจนของการได้มาซึ่ง ส.ว.ในระบบนี้ที่ไม่ปกติ คนที่ได้เป็น ส.ว.แต่ละท่าน ฝ่าฟันระบบนี้อย่างชาญฉลาดและสนุกสนาน โดยจะขอแกะรอยจาก 8 จังหวัด ที่เรียกว่า ‘ท็อป 8’ ที่มีผู้เข้ารอบเลือกไขว้ผิดปกติ ยังไม่นับว่าได้เป็น ส.ว.หรือไม่
ภาพประกอบข่าว
จากนั้นตัวแทนไอลอว์เผยผลและข้อสังเกตโดยละเอียด โดย นายยิ่งชีพกล่าวว่าตอนหนึ่งว่า สาเหตุที่เปรียบเทียบกับภูมิใจไทยเพราะเป็นพรรคเดียวที่มี ส.ส.อยู่ในทั้ง 8 จังหวัดที่ท็อป ตนตั้งคำถามว่าจังหวัดเหล่านี้ได้คนมาเยอะ แปลว่าอำเภอไม่แข่งขันกัน เป็นเพื่อนกันหมดเลยหรือ จึงไปดูสถิติในแต่ละอำเภอ ว่าผู้สมัครแต่ละอำเภอมีความเป็นมาอย่างไรบ้าง
นายยิ่งชีพหยิบยก จ.บุรีรัมย์ ที่มี 18 อำเภอ ซึ่งพบว่าไม่ได้มีผู้สมัครจากทุกอำเภอที่ผ่านรอบจังหวัด มีเพียแค่ 8 อำเภอเท่านั้น ที่ผ่านเข้ารอบจังหวัด หรือผ่านมาแค่ครึ่งเดียว
“อำเภอสตึก เข้าเยอะมาก 4 คน แต่ได้เป็น ส.ว. แค่ 2 คน ขณะที่อำเภอเมืองเข้า 7 เป็น ส.ว. 3 อำเภอห้วยราช เข้า 4 เป็น ส.ว. 4 คน ซึ่งเข้ามาเป็นคู่ เช่น อำเภอหนองกี่ ก็จะเหมากลุ่ม 3 การศึกษา อำเภอห้วยราช ก็จะเหมา 5-6 ทำนาทำสวน อำเภอหนองหงส์ ก็จะเหมา 7 กลุ่มลูกจ้างพนักงาน เป็นจริงไหมว่า ทั้งจังหวัดบุรีรัมย์ มีคำทำนาทำสวน อยู่แค่อำเภอห้วยราช หรือเป็นลูกจ้างแค่อำเภอหนองหงส์ ซึ่งไม่น่าจะจริง”
“อำเภอสตึกก็จะเหมาเป็นคู่ ทั้ง 2 คนจากกลุ่ม 9, 10, 11, 14, 15 และ 18 เป็นอำเภอสตึก และทั้งหมดทั้งมวลจะวนอยู่แค่ 8 อำเภอนี้ ส่วนอำเภออื่น ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร คุณก็ไม่ได้เข้า” นายยิ่งชีพชี้
จากนั้น เผยผลคะแนนแบบเลือกกันเอง รอบแรก ของ จ.บุรีรัมย์ ที่เข้ามา 40 คน แสดงให้เห็นว่า จริงๆ เขาคาดหวังว่าจะเอาหมด จะให้เข้ารอบเลือกไขว้ ทั้งที่ 40 คน แต่ดันมีความผิดพลาดบ้าง
“2 คนที่ไม่เข้ารอบ ได้ 9 แต้ม และ 13 แต้ม ซึ่งจริงๆ น่าจะเข้าแต่คนนี้พลาดไป ส่วนคนที่ชนะได้เป็น ส.ว.จากคะแนนเลือกไขว้ ใครที่ชนะก็ชนะเลย 50 60 70 แต้ม โอ้โห โคตรเก่ง ส่วนคนที่แพ้ ก็แพ้เลย 0 2 1 4 3 แต้มบ้าง เพราะในรอบไขว้พวกเขาไม่ได้แข่งกันเอง ขณะที่เรารู้ว่าคนอื่นๆ ที่ไม่ได้มาจากจังหวัดนี้ ในรอบไขว้ 10 กว่าแต้มก็ได้เป็น ส.ว.แล้ว แต่บุรีรัมย์ที่ได้ คือ 50 60 70”
นายยิ่งชีพกล่าวต่อว่า เช่นเดียวกับ จ.เลย มี 14 อำเภอ ผ่านเข้ารอบประเทศ 7 อำเภอ และมีผู้สมัคร ส.ว.จาก อ.ภูเรือ เข้ามามากถึง 17 คน ไม่ได้เป็น ส.ว.เลย วิธีการมาก็เหมือนกับบุรีรัมย์ คือคนทำนา ทำสวน มีแต่ผู้สมัครจาก อ.ภูเรือ เหมาเป็นคู่ๆ คือ 9 11 14 15 16 กลุ่มเหล่านี้มาจากอำเภอเดียว ส่วนกลุ่ม 2 10 17 มาจาก อ.ด่านซ้ายทั้งหมด ส่วนกลุ่ม 7 อ.วังสะพุงทั้งหมด กลุ่ม 3 อ.ท่าลี่ ทั้งหมดกลุ่ม 4 อ.นาแห้ว กลุ่ม 19 มาจาก อ.เมือง ทั้ง 2 คน
แต่เมื่อเข้าไปในระดับประเทศ รอบเลือกกันเอง แต่ต่างจาก จ.บุรีรัมย์ คือผ่านไปได้ 37 คนตกรอบ 3 คน ทุกคนที่ผ่านไปได้คะแนนค่อนข้างลอยลำ ได้ 20-30 กันหมด ส่วนคนที่ตกรอบ ได้ 4 และ 0 คะแนน
“คือตอนเดินไปเลือกกันเอง พวกเขาไม่มีลุ้นอะไรเลย คนที่จะเข้าก็เข้า เขารู้อยู่แล้ว คนที่จะตกก็รู้ ไม่เลือกตัวเองด้วยซ้ำ เราไม่ได้มีปัญหากับคนที่ได้ 0 แต่เขารู้อยู่แล้วว่าจะตก ไม่ต้องลุ้น”
ในรอบเลือกไขว้ ปรากฏการณ์ของ จ.เลย ก็ชัดเจน คนที่ชนะก็ได้ 59 60 46 55 คะแนน ซึ่งเป็นคะแนนเกาะกลุ่มที่สูงมาก ส่วนคนที่แพ้ก็ได้ 2 1 0 2 1 8 4 เป็นต้น แบบนี้เขาไม่ได้ฮั้วกัน?” นายยิ่งชีพกล่าว
นายยิ่งชีพกล่าวว่า เมื่อสักครู่คือคณิตศาสตร์ ต่อไปคือสังคมศาสตร์ ตัวเลขทั้งหมดไม่ได้บอกว่า ใครไม่ควรจะเป็น ส.ว. แต่บอกว่า เรามี ส.ว. 2 แบบ คือมี ส.ว.จากจังหวัดท็อป 8 ที่คะแนนเกาะกลุ่ม ขาดรอย หายห่วง รอบแรก 35 40 รอบที่ 2 ได้ 60 70 อย่างไรก็ได้เป็น ซึ่งนอกจากท็อป 8 ก็ยังมีทั้งจาก จ.สงขลา และอีกหลายจังหวัด ที่เป็นลักษณะนี้
“ผมขอยืนยันอีกทีว่า การทำการบ้าน เตรียมกันว่าใครจะลงคะแนนให้ใคร ไม่ได้ผิดกฎหมายในระบบนี้ แต่อาจจะผิดสามัญสำนึกว่า ไปฮั้วกันแบบนี้ได้อย่างไร จะผิดก็ต่อเมื่อมีผลประโยชน์แลกเปลี่ยน ว่าถ้าลงตามสูตรนี้ จะได้รางวัลอะไร ซึ่งเรามองไม่เห็นหรอก ก็ฝาก กกต.ไปตามหาว่าจะเจอหรือเปล่า ว่ามีร่องรอยการให้ผลประโยชน์อย่างไร ซึ่งมันจะมีอีกร่องรอยหนึ่ง ที่เห็นถึงระบบการลงคะแนนที่ซักซ้อมกันมาอย่างดี” นายยิ่งชีพกล่าว
นายยิ่งชีพกล่าวถึงในแง่ข้อกฎหมาย ว่าการลงคะแนนเป็นแพทเทิร์น ไม่ได้ทำให้ใครไม่เป็น ส.ว. แต่การจะเป็นได้ ต้องมีคุณสมบัติครบถ้วน หากคุณสมบัติขาด หรือมีลักษณะต้องห้าม ควรจะถูกตัดสิทธิการเป็น ส.ว. และไม่ควรประกาศรายชื่อของเขาออกมาในการรับรองผล วันที่ 2 ก.ค.นี้
คุณสมบัติมีหลายอย่าง ซึ่งมีบางท่านที่ขาดคุณสมบัติ เพราะมีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมาย เช่น คุณปุณณภา จินดาพงษ์ กลุ่ม จาก จ.เลย ได้รับเลือกเป็น ส.ว.กลุ่ม 12 อุตสาหกรรม ซึ่งดูจากประวัติ สว.3 ก็คิดว่าดี
“แต่เราก็ไปค้นเจอ ประกาศ ป.ป.ช. เมื่อปี พ.ศ.2563 ซึ่งคุณปุณณภา เป็นสมาชิกองค์การบริการส่วนจังหวัดเลย ปี 2563 และยังเป็นอยู่
ประกาศ ป.ป.ช.ฉบับนี้บอกว่า คุณปุณณภา ต้องยื่นบัญชีรายการทรัพย์สิน รวมแล้วนับถึงตอนนี้ก็ 4 ปี ยังไม่ถึง 5 ปี แต่ พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว.มาตรา 14 (24) บอกว่าใครที่เคยเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่น ไม่สามารถเป็น ส.ว.ได้ เว้นแต่พ้นจากการเป็นสมาชิกมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี จนถึงวันรับสมัคร
ดังนั้น ถ้าหากประกาศ ป.ป.ช.ไม่ด้ทำข้อมูลผิดพลาด หรือปลอมแปลงขึ้นมา คุณปุณณภา ก็ขาดคุณสมบัติ ตามมาตรา 14 (24) การเป็น ส.ว. ฝาก กกต.ไปตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย”
นายยิ่งชีพชี้ว่า คนที่ 2 นายกิตติศักดิ์ หมื่นศรี จาก จ.ปราจีนบุรี ได้รับเลือกเป็น ส.ว. กลุ่ม 19 อิสระ ซึ่งมีข่าวเมื่อ ก.ย.2560 โดยสำนักข่าวอิศรา ว่าศาลพิพากษาให้มีความผิด ตามกฎหมาย ป.ป.ช.ไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน มีโทษปรับและจำคุก โดยให้รอลงอาญาซึ่งใน ม.14 (11) เป็นลักษณะต้องห้ามเคยต้องคำพิพากษาของศาล
“เท่ากับรอลงอาญา ไม่รู้ว่าแบบนี้มีคุณสมบัติหรือเปล่าเดี๋ยวรอฟัง กกต.”
คนที่ 3 นายสมชาย เล่งหลัก จาก จ.สงขลา ได้รับเลือกเป็น ส.ว.กลุ่ม 19 อิสระ ซึ่งมีข่าวในไทยรัฐ ที่ กตต.เพิ่งแจกใบดำ-ใบแดง เพราะว่าเคยเป็นผู้สมัคร ส.ว.ภูมิใจไทย ซึ่งอันนี้ตนค่อนข้างชัวร์ว่า นายสมชาย ยังไม่ขาดคุณสมบัติ เพราะเพิ่งมีการยื่นให้ศาลฎีกาวินิจฉัย ไปก่อนช่วงเลือก ส.ว.นี้เอง จึงต้องลุ้นว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ‘ยิ่งชีพ’ ทึ่ง 50-70 แต้มเก่งเกิน! ขุดประวัติ ‘3 ผู้สมัคร’ ส่อหลุดส.ว. ฝาก กกต.ตามสืบฮั้ว
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th