แม่ร่ำไห้ ร้องกองปราบ ลูกสาวตุ๋นเงิน หลอกโอนรายวัน นาน3ปี สูญกว่า 8.8 ล้าน
แม่ร่ำไห้ ร้องกองปราบ ลูกสาวตุ๋นเงิน หลอกโอนรายวัน นาน3ปี สูญกว่า 8.8 ล้าน
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 28 มิถุนายน ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายธมนันท์ แตงทิม หรือ “จ่าคิงส์ สะพานใหม่” พา นางรัตน์ตะวัน อายุ 48 ปี อาชีพ ผู้รับเหมาก่อสร้าง เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ชวรินทร์ แหล่งสะท้าน รอง สว.(สอบสวน) กก.1 บก.ป. เพื่อร้องขอความเป็นธรรมหลังถูก น.ส.ส้ม อายุ 30 ปี บุตรสาวแท้ๆ หลอกเงินไปลงทุนจนหมดตัวกลายเป็นหนี้ รวมเป็นเงินกว่า 8.8 ล้านบาท
นางรัตน์ตะวัน กล่าวว่า เมื่อปี 2564 น.ส.ส้ม ลูกสาวของตนได้มาขอเงินไปลงทุนเปิดร้านขายวัสดุก่อสร้าง เห็นว่าเป็นแนวคิดที่ดีที่ลูกจะสร้างตัว จึงลงทุนให้ แต่ตลอดระยะเวลาที่เปิดร้านตั้งแต่ปี 2564 ถึงปัจจุบัน น.ส.ส้ม มักจะส่งข้อความมาขอเงินตลอดเวลา อ้างว่ามีลูกค้าสั่งของเข้ามาจำนวนมาก แต่ไม่มีเงินซื้อของมาสต๊อกไว้ ด้วยความที่เห็นว่าธุรกิจกำลังไปได้ดี ประกอบกับความเป็นแม่ที่ต้องซัพพอร์ตลูกทุกอย่าง จึงหลงเชื่อโอนเงินให้ กระทั่งระยะหลังเริ่มพบความผิดปกติ เพราะเห็นว่าบัญชีที่โอนเงินไปให้นั้นไม่ใช่บัญชีบริษัทคู่ค้า แต่เป็นบัญชีของบุคคลอื่น อีกทั้งตนยังไม่สามารถเข้าดูบัญชีธนาคารของร้านได้ จึงเอะใจพยายามทวงถามเงินกลับคืน แต่ก็ถูกบ่ายเบี่ยงเรื่อยมา ก่อนจะมาถูกลูกตัดขาดการติดต่อเมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา
ภาพประกอบข่าว
“นับตั้งแต่ปี 2564 จนถึง 2567 โอนเงินให้ลูกสาวไปแล้วกว่า 100 ครั้ง ส่วนใหญ่ครั้งละ 3 – 4 หมื่นบาท มีบ้างในครั้งที่โอนเงินให้เป็นเงินหลักแสน สูงสุดที่เคยโอนให้จะอยู่ที่ 499,000 บาท ตั้งแต่วันแรกจนถึง ตอนนี้รวมเงินที่โอนให้ลูกสาวคนนี้ไปกว่า 8.8 ล้านบาท ตอนนี้ตนได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เพราะเอาเงินที่เก็บหอมรอมริบทั้งชีวิตมาให้ลูกจนหมด ไม่มีเงินไปลงทุนธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง รวมถึงปัจจุบันตนต้องกลายเป็นหนี้สินเพราะไปกู้เงินมาให้ลูกอีกกว่า 2 ล้านบาท “นางรัตน์ตะวัน กล่าว
นางรัตน์ตะวัน กล่าวต่อว่า หากเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์มาหลอกเงิน จะไม่รู้สึกเสียใจมากเช่นนี้ แต่นี่กลับเป็นลูกสาวแท้ๆที่ตนรักและเป็นห่วงมาหลอกเงินเสียเอง ทั้งๆที่รู้ว่าเงินแต่ละบาทกว่าจะได้มาตนต้องทำงานเหนื่อยากอย่างหนัก เป็นเงินที่เก็บมาทั้งชีวิต อยากรู้ว่าตอนที่ “ส้ม” มาหลอกให้แม่โอนเงินให้ เคยนึกถึงหัวอกคนเป็นแม่บ้างหรือไม่ ตอนนี้ตนไม่หวังว่าเขาจะมีเงินมาคืน แต่ขอแค่เข้ามาพูดคุยกัน เจรจากันจะดีกว่า
ด้าน นายธมนันท์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามหลังนางรัตน์ตะวัน เชื่อว่าถูกลูกสาวแท้ๆหลอกเงินไป ได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สน.หนองจอก เมื่อวันที่ 29 พ.ค. แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้าทางคดีแต่อย่างใด จึงตัดสินใจมาร้องตนเพื่อขอให้พาเข้าร้องทุกข์กับทางตำรวจกองปราบในวันนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเสร็จสิ้นการให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน น้องสาวนางรัตน์ตะวัน ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้าแท้ของ น.ส.ส้ม ได้ลองโทรศัพท์ติดต่อไปหา น.ส.ส้ม เพื่อนัดหมายให้มาพูดคุยกันที่กองบังคับการปราบปราม แต่ก็ได้รับคำตอบในเชิงแบ่งรับแบ่งสู้ อ้างว่าตอนนี้ไม่มีรถ จะพยายามหารถเดินทางมาพูดคุย
ขณะเดียวกัน น้าสาวของ น.ส.ส้ม ยังเผยอีกด้วยว่า สาเหตุที่ “ส้ม” ต้องหลอกเงินแม่นั้น ส่วนตัวเชื่อว่าน่าจะเกี่ยวกับพนันออนไลน์ หรือ ไม่ก็ปัญหาหนี้นอกระบบ เนื่องจากทราบว่าก่อนหน้านี้เคยมีกลุ่มชายฉกรรจ์หลายคนที่เป็นแก๊งเงินกู้ มาข่มขู่ทวงหนี้ที่หน้าร้าน แต่ทั้งหมดก็เป็นเพียงข้อสันนิษฐาน แต่ทางออกที่ดีที่สุดคืออยากให้ส้มออกมาเจรจาพูดคุยกับทางแม่จะดีกว่า เพื่อที่จะได้ช่วยกันหาทางแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำผู้ร้อง ก่อนนำไปประมวลเรื่องราวควบคู่กับพยานหลักฐานต่างๆ ก่อนส่งต่อให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป
ภาพประกอบข่าว
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : แม่ร่ำไห้ ร้องกองปราบ ลูกสาวตุ๋นเงิน หลอกโอนรายวัน นาน3ปี สูญกว่า 8.8 ล้าน
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th