ใครโกหก? เทียบข้อเท็จจริง ศึกดีเบตแรก ‘ไบเดน-ทรัมป์’
ภาพประกอบข่าว
ใครโกหก? เทียบข้อเท็จจริง ศึกดีเบตแรก ‘ไบเดน-ทรัมป์’
ดีเบตแรกระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน และอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ทั่วโลกจับตามองจบลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ที่น่าสนใจคือข้อมูลใดที่ว่าที่ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันพูดในหลายประเด็น อะไรคือข้อมูลเท็จ หรือข้อมูลที่ผิดพลาดคลาดเคลื่อน สำนักข่าวเอพีสรุปภาพรวมมาให้ได้รับทราบกันดังต่อนี้
ประเด็นเศรษฐกิจ
ทรัมป์: “เรามีเศรษฐกิจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์”
ข้อเท็จจริง: มันไม่ใช่ข้อมูลที่ถูกต้อง ประการแรก การระบาดใหญ่ของโควิด-19 ทำให้เกิดภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในช่วงที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี รัฐบาลสหรัฐต้องกู้ยืมเงิน 3.1 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2020 เพื่อรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจ เมื่อทรัมป์มีพ้นจากทำเนียบขาว ชาวอเมริกันมีงานทำน้อยกว่าตอนที่เขาเข้ามารับตำแหน่ง
ภาพประกอบข่าว
อย่างไรก็ดี หากนำประเด็นปัญหาที่เกิดจากโควิด-19 ออกไป การเติบโตทางเศรษฐกิจในช่วงสามปีแรกของทรัมป์ มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 2.67% ซึ่งถือได้ว่าค่อนข้างแข็งแกร่ง แต่มันไม่ได้ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ย 4% ในช่วงการดำรงตำแหน่ง 2 สมัยของประธานาธิบดีบิล คลินตัน ระหว่างปี 1993-2001
หากดูตามข้อมูลของสำนักวิเคราะห์เศรษฐกิจ ในความเป็นจริงแล้ว การเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่งขึ้นภายใต้การนำของไบเดนมากกว่าทรัมป์
อัตราการว่างงานในยุคทรัมป์อยู่ที่เพียง 3.5% ก่อนเกิดโรคระบาด แต่อัตราการมีส่วนร่วมของแรงงานอายุ 25-54 ปี ซึ่งเป็นประชากรวัยทำงานหลักของสหรัฐในยุคไบเดนและคลินตันนั้นสูงกว่ายุคทรัมป์
ทรัมป์ชอบพูดว่าอัตราเงินเฟ้อในยุคของเขาต่ำเพียงใด น้ำมันเบนซินร่วงลงต่ำสุดที่ 1.77 ดอลลาร์ต่อแกลลอน แต่ราคาที่ลดลงนั้นเกิดขึ้นในช่วงล็อกดาวน์โควิด-19 ไม่ใช่จากการดำเนินนโยบายของทรัมป์แต่อย่างใด
ประเด็นการทำแท้ง
ทรัมป์: “ปัญหาคือพวกเขาหัวรุนแรง เพราะพวกเขาจะคร่าชีวิตเด็กในเดือนที่แปด เดือนที่เก้า และแม้กระทั่งหลังคลอด”
ข้อเท็จจริง: ทรัมป์กล่าวถึงการทำแท้งหลังคลอดอย่างไม่ถูกต้อง เพราะการฆ่าทารกถือเป็นความผิดทางอาญาในทุกรัฐ และไม่มีรัฐใดผ่านกฎหมายที่อนุญาตให้ฆ่าทารกหลังคลอดได้
ผู้สนับสนุนสิทธิในการทำแท้งพูดถึงคำเช่นนี้ และยังพูดถึง “การทำแท้งระยะหลัง” ที่จะสร้างมลทินเกี่ยวกับการทำแท้งในระยะท้ายของการตั้งครรภ์ ในความเป็นจริงแล้วมันเกิดขึ้นน้อยมาก ในปี 2020 มีการทำแท้งน้อยกว่า 1% ในสหรัฐอเมริกาที่เกิดขึ้นในหรือหลังมีอายุครรภ์ 21 สัปดาห์ ตามข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค
ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์กล่าวว่า การทำแท้งในภายหลังในการตั้งครรภ์มักเป็นผลมาจากภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น ความผิดปกติของทารกในครรภ์ ซึ่งทำให้ชีวิตของสตรีหรือทารกในครรภ์ตกอยู่ในความเสี่ยง
ประเด็นโควิด 19
ไบเดน: ทรัมป์บอกให้ชาวอเมริกัน “ฉีดสารฟอกขาว” เข้าแขนเพื่อรักษาโควิด-19
ข้อเท็จจริง: ไบเดนพูดเกินจริง แต่ทรัมป์ก็ถามว่าเป็นไปได้ไหมที่จะฉีดยาฆ่าเชื้อเข้าปอด โดยบอกในงานแถลงข่าวเดือนเมษายน 2020 ว่า “ผมเห็นยาฆ่าเชื้อ ซึ่งสามารถกำจัดมันออกไปได้ภายในหนึ่งนาที มีวิธีที่เราจะทำแบบนั้นได้ด้วยการฉีดเข้าไปภายใน เพราะคุณเห็นว่ามันเข้าไปในปอดและส่งผลอย่างมากต่อปอด ดังนั้นเป็นเรื่องน่าสนใจที่จะการตรวจสอบมัน แต่คุณจะต้องใช้แพทย์ด้วย แต่ฟังดูน่าสนใจสำหรับผม นอกจากนี้ยังมีแนวคิดเกี่ยวกับแสง วิธีที่แสงสามารถฆ่ามันได้ภายในหนึ่งนาที มันเป็นความคิดที่ค่อนข้างทรงพลังเช่นกัน”
ประเด็นผู้อพยพ
ทรัมป์กล่าวถึงไบเดน: “เขาคือคนที่ฆ่าผู้คนด้วยการบริหารจัดการพรมแดนที่ไม่ดี และทำให้ผู้คนหลายแสนคนต้องเสียชีวิต และยังฆ่าพลเมืองของเราเมื่อพวกเขาเข้ามาด้วย”
ข้อเท็จจริง: การหลั่งไหลของผู้อพยพจำนวนมากที่เข้ามาในสหรัฐอเมริกาอย่างผิดกฎหมายข้ามชายแดนทางใต้ นำไปสู่การกล่าวอ้างที่เป็นเท็จและทำให้เข้าใจผิดหลายครั้งโดยทรัมป์ ทั้งนี้ ทรัมป์มักอ้างว่าประเทศอื่นๆ กำลังทำให้เรือนจำและสถาบันโรคจิตว่างเปล่าเพื่อส่งคนไปยังสหรัฐ โดยไม่มีหลักฐานสนับสนุนเรื่องดังกล่าว
ทรัมป์ยังแย้งว่าการไหลเข้าของผู้อพยพทำให้เกิดอาชญากรรมเพิ่มขึ้นในสหรัฐ แม้ว่าสถิติจริงจะแสดงให้เห็นว่าอาชญากรรมรุนแรงในสหรัฐกำลังลดลงก็ตาม
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ใครโกหก? เทียบข้อเท็จจริง ศึกดีเบตแรก ‘ไบเดน-ทรัมป์’
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th