ดร.นิเวศน์ เปิดเหตุผล “ต่างชาติ” ขายหุ้นไทย 6 เดือน เกือบแสนล้าน

ดร.นิเวศน์ เปิดเหตุผล “ต่างชาติ” ขายหุ้นไทย 6 เดือน เกือบแสนล้าน

ภาพประกอบข่าว

ดร.นิเวศน์ ต้นแบบนักลงทุนวีไอ เปิดเหตุผล “ต่างชาติ” ขายหุ้นไทย 6 เดือน เกือบแสนล้าน ชี้โครงสร้างที่เป็นเสาหลักในการเติบโตทางเศรษฐกิจและตลาดหุ้นเสื่อมโทรมลงมาอย่างรวดเร็ว การรัฐประหารเมื่อ 10 ปีที่แล้วแทบจะทำให้การพัฒนาหรือปรับปรุงโครงสร้างโดยเฉพาะทางการเมืองสะดุดหยุดลงอย่างสิ้นเชิง

วันที่ 15 มิถุนายน 2567 ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร นักลงทุนรายใหญ่สายเน้นคุณค่า (Value Investor) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงเร็ว ๆ นี้ ผมคิดว่านักลงทุนจำนวนมากรู้สึก “ท้อแท้” และ “สิ้นหวัง” เหตุผลในภาพใหญ่อาจจะเป็นเรื่องที่ดัชนีตลาดหุ้นตั้งแต่ต้นปีที่ 1,416 จุด ตกลงมาตลอดจนเหลือ 1,306 จุด ในวันที่ 14 มิถุนายน 2567 หรือลดลงมาประมาณ 7.8% ซึ่งเป็นตลาดหุ้นที่ตกลงมามากที่สุดในโลกประเทศหนึ่งหลังจากปีที่แล้วที่ดัชนีตลาดก็ “แย่ที่สุดในโลก” แบบเดียวกัน และที่แย่ลงไปอีกก็คือ หุ้นไทยนั้นตกต่ำลงทั้ง ๆ ที่ตลาดหุ้นต่างประเทศหลัก ๆ ต่างก็ปรับตัวขึ้นอย่างทั่วหน้า อานิสงส์จากการที่เศรษฐกิจโลกปรับตัวขึ้นโดดเด่น ในขณะที่เศรษฐกิจไทยถดถอยลงมาก

ดร.นิเวศน์ เปิดเหตุผล “ต่างชาติ” ขายหุ้นไทย 6 เดือน เกือบแสนล้าน

ภาพประกอบข่าว

ต่างชาติขายหุ้นไทยเกือบแสนล้าน

มองจากเหตุผลระยะสั้นแบบเทคนิคก็คือ หุ้นไทยตกเพราะนักลงทุนต่างชาติ “ขายสุทธิ” หุ้นในตลาดค่อนข้างมาก และเป็นการขายต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันนี้สูงถึงเกือบแสนล้านบาทแล้วในเวลาไม่ถึง 6 เดือน ซึ่งก็เป็นการขายสุทธิที่สูงมากเมื่อเปรียบเทียบกับอดีตในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ที่ต่างชาติขายเฉลี่ยปีละประมาณ 1 แสนล้านบาท รวมแล้วขายมาแล้วประมาณ 1 ล้านล้านบาท

แต่การขายสุทธิโดยตัวของมันเองก็ไม่ได้แปลว่าหุ้นจะต้องลงเสมอไป ตัวอย่างเช่น หุ้นในเอเชียส่วนใหญ่ในช่วงนี้ต่างก็ถูกขายสุทธิเช่นเดียวกัน แต่ตลาดหุ้นก็ไม่ได้ลง ว่าที่จริงตลาดหุ้นเวียดนามในช่วงนี้ก็ถูกขายสุทธิจากต่างชาติหนักมาก แต่ดัชนีหุ้นยังปรับตัวขึ้นถึงประมาณ 13% นับจากต้นปี หรืออย่างดัชนีฮั่งเส็งของตลาดฮ่องกงเองก็ปรับตัวขึ้นประมาณ 6% ทั้ง ๆ ที่มีปัญหาตกลงมาหนักถึงประมาณ 10% ในช่วงต้นปี

เก็งกำไรยาก โอกาสขาดทุนสูง

การที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยตกลงมาประมาณ 7-8% ในเวลาประมาณ 6 เดือนนั้น ถ้ามองจากสถิติในอดีต ก็อาจจะบอกว่าไม่ถึงกับรุนแรงมากนัก และส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยมีใคร “ถอดใจ” และเกิดความ “ท้อแท้” หรือ “สิ้นหวัง” กับตลาดหุ้น เหตุผลสำคัญก็คือ นักลงทุนส่วนบุคคลรายย่อยส่วนใหญ่ก็เป็น “นักเทรด” หรือซื้อขายหุ้นระยะสั้น ที่สามารถทำกำไรในตลาดหุ้นได้แม้ในยามหุ้นตก กล่าวคือ ช่วงระยะเวลาที่หุ้นตกนั้น มักจะมีช่วงเวลาที่หุ้นจะเด้งหรือดีดตัวขึ้นอาจจะพอ ๆ กัน

ดังนั้น พวกเขาก็สามารถช้อนซื้อหุ้นในช่วงหุ้นตกและขายในช่วงที่หุ้นขึ้นทำกำไรได้เสมอ แต่ในช่วงนี้ ดูเหมือนว่า ช่วงที่หุ้นจะปรับตัวขึ้นนั้น สั้นมาก บางทีแค่ 2-3 ชั่วโมงในตอนเช้า โอกาสที่จะทำกำไรน้อย แต่โอกาสขาดทุนสูง ทำให้หมดกำลังใจที่จะเล่น

ในส่วนของนักลงทุนระยะยาว “แนว VI” ซึ่งก็มักจะเป็นนักลงทุนรายใหญ่ขึ้นมาและเน้นการลงทุนโดยอิงกับพื้นฐานของกิจการนั้น ในอดีตแม้ว่าตลาดหุ้นโดยรวมอาจจะไม่ดีนัก แต่ตลอดเวลาก็มีบริษัทหรือหุ้นที่มีผลประกอบการที่ดีหรือมีพัฒนาการหรือสตอรี่ที่ดี ที่ทำให้นักลงทุนแห่เข้าไปเล่น ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นได้โดดเด่นเหนือดัชนีมาก ทำกำไรให้กับนักลงทุนรายใหญ่ได้เป็นกอบกำ ในขณะที่นักลงทุนรายย่อยจำนวนมากที่เข้าไปร่วม “เก็งกำไร” ก็สามารถทำกำไรได้ “ทุกวัน”

แต่ในช่วงเวลานี้ ดูเหมือนว่าหุ้นที่เคยวิ่งกันคึกคักและราคาปรับตัวขึ้น บางตัวเหมือนติดจรวดเพราะบริษัทมีสตอรี่ที่ดี มีผลประกอบการที่เติบโตอย่างโดดเด่นต่อเนื่องมาหลายไตรมาสหรือหลายปี จนทำให้หุ้นมีมูลค่าหรือ Market Cap. สูงลิ่วเกินกว่าพื้นฐานเพราะหุ้นถูก “Corner” กลับตกลงมาต่อเนื่องแบบ “คอร์เนอร์แตก” ราคาหุ้นลดลงมาเกิน 30-40% และไม่รู้จะหยุดตกเมื่อไร

ความหวังของนักลงทุนที่เน้นแนวหุ้นพื้นฐานในช่วงเร็ว ๆ นี้ก็แทบจะเหลือเพียงอย่างเดียว นั่นก็คือ ผลประกอบการของบริษัทหรือหุ้นที่ตนเองลงทุนอยู่ที่จะออกมาดีพอที่จะขับเคลื่อนราคาหุ้นให้กลับมาเป็นขาขึ้นใหม่ ความเชื่อของพวกเขาก็คือ หุ้นเหล่านั้นเป็นหุ้นที่ดีและยังมีโอกาสกลับมาเติบโตใหม่เมื่อสภาวะเศรษฐกิจดีขึ้นตามสภาวะเศรษฐกิจโลก หรือไม่บริษัทก็เก่งขึ้น สามารถกินส่วนแบ่งตลาดจากคู่แข่งได้เพิ่มขึ้น

ผลประกอบการที่ออกมาตั้งแต่ช่วงต้นปีสำหรับหลาย ๆ บริษัทนั้น เรียกว่าแทบจะเป็น “หายนะ” บางบริษัทก็อาจจะมีปัญหาหนี้สินที่เป็นหุ้นกู้ที่อาจจะไม่สามารถชำระได้ ดังนั้นหุ้นก็ถล่มทลายหลังจากที่ทยอยลดลงมาต่อเนื่องยาวนานแล้ว

อีกหลาย ๆ บริษัทที่เคยถูกมองถึงว่าจะเป็น “ซุปเปอร์สต็อก” นั้น ผลประกอบการออกมา ไม่ได้หายนะ แต่ “น่าผิดหวัง” เพราะนักลงทุนเคยหวังไว้สูงว่าอย่างน้อยกำไรจะต้องโต “สองหลัก” และไม่ลดลง

แต่ผลที่ออกมาก็คือ การเติบโตลดลงอย่างเห็นได้ชัด และก็เป็นการลดลงต่อเนื่องมาอาจจะหลายไตรมาสแล้ว เช่นเดียวกับราคาหุ้นที่ก็ทยอยลดลงมาสอดคล้องกัน หุ้นมีอาการ “คอร์เนอร์แตก” มาก่อนแล้ว และดังนั้น การที่บริษัทก็ยังมีกำไรที่ดีอยู่ เพียงแต่โตช้าลงหรือไม่โต จึงไม่สามารถที่จะหยุดการตกลงมาของหุ้นได้

ปริมาณซื้อขายหุ้นลดลงต่อเนื่อง

หุ้นขนาดใหญ่บางตัวที่เป็นเป้าหมายการขายหุ้นของนักลงทุนต่างชาตินั้น ประกาศผลประกอบการที่ดีและเติบโตน่าประทับใจมาก ซึ่งก็ช่วยให้คนที่ลงทุนถืออยู่มีความหวังว่าจะทำให้ราคาหุ้นที่ซบเซามาตลอดนั้นคึกคักขึ้น เพราะนั่นก็คือความหวังเดียวที่เหลืออยู่ แต่ข้อเท็จจริงกลับกลายเป็นว่าราคาหุ้นกลับตกลงมาแรง ความเชื่อที่ว่าผลประกอบการของบริษัทเป็น “พ่อทุกสถาบัน” ในวงการหุ้น นั่นคือ ถ้าผลประกอบการดีมาก หุ้นจะต้องวิ่งอย่างแรง ถูกทำลายอย่างสิ้นเชิงในยามนี้

และถ้าผลประกอบการไม่สามารถที่จะทำให้หุ้นขึ้นได้ หุ้นจะไปได้อย่างไร เราจะรออะไรได้อีก และทั้งหมดก็คือ ความท้อแท้-สิ้นหวัง ในตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้ ซึ่งก็แสดงออกผ่านปริมาณการซื้อขายหุ้นต่อวันที่ลดลงมาเรื่อย ๆ และผมเชื่อว่าลดลงในทุกกลุ่มตั้งแต่นักเล่นหุ้นรายวัน ไปจนถึงรายใหญ่และเหล่า VI แม้แต่คนที่ถือยาวแบบไม่คิดจะขาย

ปัญหาหุ้นไทย ไม่ใช่ปัญหาชั่วคราว

ประเด็นสำคัญก็คือ สถานการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้เป็น “เรื่องชั่วคราว” แค่ไหน นี่เป็นช่วงเวลา “ตีสี่” อย่างที่คนพูดกันในวงการหุ้นหรือไม่ ความหมายก็คือ เป็นเวลาที่ “มืดมิดที่สุด” แต่ก็ “ใกล้ถึงเวลาสว่าง” แล้ว นักเล่นหุ้น “ระดับเซียน” จะต้องเข้ามาช้อนซื้อหุ้นก่อนเพื่อที่จะทำกำไรงดงามเมื่อถึงวันใหม่ที่ “ฟ้าสดใส” หุ้นก็จะขึ้นมโหฬารอย่างที่ “ไม่มีใครคาดคิด” หรือไม่

แต่ส่วนตัวผมเองนั้น มองว่าปัญหาของหุ้นไทยอาจจะไม่ใช่ปัญหาชั่วคราว แต่เป็นปัญหาถาวรที่เกิดจากโครงสร้างที่แก้ไขยาก โครงสร้างเหล่านั้น เดิมทีเป็นสิ่งที่เอื้ออำนวยต่อเศรษฐกิจไทยและตลาดหุ้นมาก แต่เมื่อเวลาผ่านไปเมื่อสิ่งแวดล้อมเปลี่ยนไปอย่างช้า ๆ แต่แน่นอน ในขณะที่เราไม่ได้ตระหนักและไม่ได้ปรับโครงสร้างตามที่ควรจะเป็น ผลก็คือ เรากำลังอยู่ในสภาวะที่ไม่เอื้ออำนวยให้เศรษฐกิจเติบโตต่อไปได้ ซึ่งก็ส่งผลให้ตลาดหุ้นเติบโตไปได้ยาก และก็จะเป็นแบบนั้นไปยาวนานและไม่สามารถกลับไปสู่สภาวะเดิมได้อีกเลย

โครงสร้างเศรษฐกิจ-ตลาดหุ้นเสื่อมโทรม

โครงสร้างแรกที่กำลังส่งผลอย่างรุนแรงและชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ก็คือเรื่องของประชากรที่แก่ตัวลงอย่างรวดเร็ว ในขณะที่จำนวนคนเกิดใหม่น้อยลงอย่างรวดเร็วยิ่งกว่า ผลก็คือ จำนวนคนทำงานสร้างผลผลิตหรือ GDP ลดลง และจะลดลงไปเรื่อย ๆ เช่นเดียวกับประสิทธิภาพที่จะลดลงเพราะคนทำงานที่แก่ตัวลงและมีความรู้ทางเทคโนโลยีไม่พอ

โครงสร้างที่สองก็คือเรื่องของระบบการปกครองประเทศที่จะเป็นเครื่องจักรสำคัญในการนำและปรับเปลี่ยนกฎเกณฑ์และแนวทางในการบริหารโดยเฉพาะทางเศรษฐกิจและการเมืองของประเทศให้สอดคล้องกับยุคสมัย ในความเห็นผมก็คือ โครงสร้างที่เป็นอยู่นั้น น่าจะค่อนข้างล้าสมัยและก็ไม่สามารถปรับเปลี่ยนไปได้รวดเร็วพอ เฉพาะอย่างยิ่งก็คือ ระบบของเราไม่สามารถตอบสนองต่อเจตจำนงเสรีของประชาชนที่แท้จริงได้เพียงพอ และรัฐบาลก็ไม่สามารถมีเสถียรภาพเพียงพอที่จะปฏิบัติตามเจตจำนงนั้น และทั้งสองอย่างนั้น เปลี่ยนยากมาก

โครงสร้างที่สามก็คือ โครงสร้างของบริษัทซึ่งก็เป็นผู้เล่นหลักในเศรษฐกิจ ที่ประกอบไปด้วยอุตสาหกรรมยุคเก่าหรือยุคปัจจุบันที่กำลังอิ่มตัว บริษัทใหญ่ ๆ ในตลาดหลักทรัพย์ไม่ได้มีการสร้างธุรกิจที่ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ที่จะสร้างเอสเคิร์บหรือการเติบโตใหม่ ๆ ขึ้น หรือพยายามก็ยังไม่สำเร็จ ในขณะที่คู่แข่งซึ่งก็คือ ประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนที่เคยเป็นรองไทยในอุตสาหกรรมรุ่นเก่า ขณะนี้กลับนำไทยในอุตสาหกรรมใหม่ ๆ

ข้อสรุปก็คือ โครงสร้างที่เป็นเสาหลักในการเติบโตทางเศรษฐกิจและตลาดหุ้นของเรานั้น เริ่มเสื่อมโทรมลงมาอย่างรวดเร็ว อาจจะประมาณ 10-15 ปีมาแล้ว การรัฐประหารเมื่อ 10 ปีที่แล้วแทบจะทำให้การพัฒนาหรือปรับปรุงโครงสร้างโดยเฉพาะทางการเมืองสะดุดหยุดลงอย่างสิ้นเชิง

สิ่งที่ยิ่งน่าห่วงก็คือ การเสื่อมลงนั้นยังไม่หยุดและอาจจะแย่ลงเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในด้านของประชากรที่ทัศนคติของคนไทยเปลี่ยนไปมากในแง่ที่ไม่อยากมีลูก ซึ่งก็อาจจะส่งผลไปถึงการลดลงของแรงขับดันที่จะสร้างอนาคต และจบลงที่การขาดความฝันและความหวังที่จะสร้างตัวหรือความมั่งคั่งให้กับตนเอง และนั่นก็คือ การจบลงของการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างแท้จริง

และแม้ว่ามุมมองทางเศรษฐกิจในระยะยาวจะไม่ดีเลย แต่ราคาหุ้นของไทยก็ยังไม่ถูกพอแบบในตลาดหุ้นจีน ดังนั้น เหตุผลของการซื้อหุ้นไทยจึงน่าจะมีน้อยมาก โดยเฉพาะในสายตาของนักลงทุนต่างประเทศที่มีโอกาสเลือก และนั่นก็คือเหตุผลที่พวกเขาขายหุ้นไทยมาตลอด และก็คงจะยังขายต่อไป

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ดร.นิเวศน์ เปิดเหตุผล “ต่างชาติ” ขายหุ้นไทย 6 เดือน เกือบแสนล้าน

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่

– Website : https://www.prachachat.net

OTHER NEWS

1 hour ago

บีจี เปิดตัว กาคุโตะ โนสึดะ กองกลางชาวญี่ปุ่นเสริมทัพโควตาเอเชีย ลุยซีซั่นใหม่

1 hour ago

21 มิถุนายน 2567 "วันครีษมายัน" ช่วงเวลา "กลางวัน" ยาวนานที่สุดในรอบปี

1 hour ago

ค่าเงินบาทวันนี้ 21 มิ.ย. 67 ‘แข็งค่า‘ ตามBOEส่งสัญญาณดอกเบี้ยผ่อนคลาย

1 hour ago

คุ้มครองช็อปปิ้งออนไลน์ สคบ. ออกกฎหมาย เช็กของก่อนจ่าย-ขอเงินคืนได้ใน 5 วัน

1 hour ago

สุดงง เจ้าอาวาส เปิดลำโพงด่าหยาบลั่นตอนตี 4 แตกตื่นทั้งวัด ขอตรวจฉี่ไม่ยอม

2 hrs ago

สุดเศร้า อาลัยนักแสดงอาวุโส แอ๊ด โฉมฉาย ฉัตรวิไล จากไปอย่างสงบ ในวัย 73 ปี

2 hrs ago

ตลาดอสังหาฯ สหรัฐชะลอตัว หลังดอกเบี้ยเงินกู้ระยะยาว พุ่งสูงสุดรอบ 22 ปี

2 hrs ago

เงินเฟ้อญี่ปุ่นพุ่ง 2.8% กดดัน BOJ ขึ้น’ดอกเบี้ย’ กระทบเยนอ่อนค่า 6 วันติด

2 hrs ago

10 หุ้นเสี่ยงค้ำมาร์จินพุ่ง 50% 'GLORY- SCM -YGG 'สูงสุด

2 hrs ago

ญาติโทรให้ไปรับศพ กู้ภัยเปิดดูผงะ ใช้น้ำแข็งดอง เริ่มมีกลิ่น สวดไปแล้ว 4 คืน

2 hrs ago

ผลบอลยูโร 2024 เซอร์เบีย ตีเสมอ สโลวีเนีย นาทีบาป ยังลุ้นเข้ารอบทั้งคู่

2 hrs ago

อาลัย “โฉมฉาย ฉัตรวิไล” นักแสดงรุ่นใหญ่ จากไปอย่างสงบในวัย 73 ปี

2 hrs ago

ผลบอลโคปา อเมริกา 2024 อาร์เจนตินา เปิดสวยอัด แคนาดา 2-0 "เมสซี" จัดแอสซิสต์

2 hrs ago

ผ่าสมรภูมิอบจ.อุดรฯ 'ทุนแดง' เป็นต่อ 'ทุนส้ม'

2 hrs ago

สหรัฐขายอาวุธชุดใหม่ให้ไต้หวัน มูลค่ากว่า 1.3 หมื่นล้าน อ้างเพื่อรักษาสเถียรภาพในภูมิภาค

2 hrs ago

โฉมฉาย ฉัตรวิไล นักแสดงรุ่นเก๋า เสียชีวิต อายุ 73 ปี

2 hrs ago

เปิดขั้นตอนใช้สิทธิ 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว 46 จังหวัด

2 hrs ago

ตามรอย 11 ปี บนเส้นทางหนีภัยสงครามของเด็กชาวซีเรีย ก่อนลงหลักปักฐานที่ยุโรป

2 hrs ago

เซ้ง-เบส-เจ้านาย-โนเกีย จาก Knock Knock Boys ชวนเก็บภาพประทับใจ

2 hrs ago

"โรบินสัน ศรีนครินทร์" ประกาศเตรียมปิดถาวร หลังเปิดให้บริการมานาน 30 ปี

2 hrs ago

หุ้นไทยวันนี้ 21 มิ.ย.67 ขาดปัจจัยหนุน เสี่ยงการเมืองยืด ส่งออกอ่อนแอ แนวรับ ต้าน 1290-1310 จุด

2 hrs ago

เซาธ์เกต ชี้จุดอ่อนสิงโตคำรามเพราะหาตัวแทน คาลวิน ฟิลลิปส์ ไม่ได้?

2 hrs ago

วันหยุดเดือนกรกฎาคม 2567 เช็กวันสำคัญ วันหยุดยาว ที่นี่

2 hrs ago

เจ้าของผับเรียกตักเตือนการ์ด สุดท้ายบานปลาย ปืนลั่นเสียชีวิตคาร้าน!

2 hrs ago

“วิโรจน์”ชำแหละงบกลาโหม จัดสรรให้ "นายพล" กินหรูอยู่สบาย

2 hrs ago

หน้ากากพร้อมแล้ว! เอ็มบัปเป้ ลงซ้อมเต็มรูปแบบพร้อมลงเล่นดวล เนเธอร์แลนด์

2 hrs ago

ราคาทองวันนี้ 21 มิ.ย.67 ดีดขึ้นแรงกว่าเดิม รีบตัดสินใจ เทียบราคาวานนี้

2 hrs ago

บราซิลพบฟอสซิลสัตว์เลื้อยคลานยุคก่อนไดโนเสาร์

3 hrs ago

“ใบหม่อน กิตติยา” โพสต์สปอยล์ ฟิตร่างกาย เตรียมคลอด “น้องคากิ” ด้วยวิธีธรรมชาติ

3 hrs ago

EV จีน เอ็กซ์เผิง ตั้ง 12 พาร์ทเนอร์ เสริมแกร่ง เตรียมส่งมอบ XPENG G6 ไตรมาส 3 ปีนี้

3 hrs ago

#แบนเที่ยวเกาหลี เป็นเหตุ 4 เดือนแรก ยอดคนไทยไปเกาหลีใต้ดิ่ง 21.1% เหตุไม่พอใจตม. ชอบส่งกลับ

3 hrs ago

“ธนกร” ชม “สุทิน” แจงชัดเจน เข้าใจงานทหาร เย้ย “วิโรจน์” มีสีสันแต่ไม่สร้างสรรค์

3 hrs ago

สหรัฐฯ เล็งเปิดทางยูเครนขยายวงโจมตีรัสเซีย

3 hrs ago

กระทรวงท่องเที่ยวฯ หนุนกฎหมายสมรสเท่าเทียม

3 hrs ago

เคาะวันแล้ว! ตะวันฉาย รีแมตช์ โจ ณัฐวุฒิ ภาคสามสะเทือนแอตแลนตา

3 hrs ago

22 มิ.ย. 67!กฟน.ประกาศ “ดับไฟ” 28 พื้นที่ ใน กทม.- นนทบุรี-สมุทรปราการ

3 hrs ago

นายกฯไม่ปลื้มคำว่า "เจ๊ง” ความหมายค่อนข้างรุนแรง-เป็นเพียงวาทกรรม

3 hrs ago

ล่าฆาตกรโหด ฉุนขอเหล้าไม่ให้ ราดน้ำมันผู้ป่วยติดเตียง จุดไฟเผาทั้งเป็นดับสลด สาหัสอีก 2

3 hrs ago

ราคาทองวันนี้ (21 มิ.ย. 67) พุ่งขึ้น 400 บาท ทองรูปพรรณบาทละ 41,500 บาท

3 hrs ago

รีบใช้บาป! ‘พระพยอม’ จวกยับ ‘พระวี’ ทำชั่ว – ‘เพื่อน’ พ่อแม่ไม่สั่งสอน