แม่เจสซี่ ปล่อยโฮ! ลูกแอบกดเงินบัญชีพ่อ 1.3 ล้านบาท
แม่เจสซี่ ปล่อยโฮ! ลูกแอบกดเงินบัญชีพ่อ 1.3 ล้านบาท
แม่ของเจสซี่ หนุ่มลูกครึ่งวัย 17ปี ที่ขโมยเงินของพ่อไปเปย์สาว ถึงกับปล่อยโฮ ทรุดลงกับพื้น หลังจากเห็นสเตทเม้นท์และยอดเงินสุทธิในบัญชี พบว่าเจสซี่ไม่ได้กดเงินแค่ 8 แสนบาท แต่ถอนออกไปมากกว่านั้น โดยยอดสุทธิอยู่ที่ 1.3 ล้านบาท เธอทั้งร่ำไห้และตัดพ้อ ไม่คิดว่าลูกชายจะทำกับครอบครัวได้ขนาดนี้
โดยวันนี้ 15 มิ.ย. 2567 เธอพร้อมลูกชายคนโต เดินทางไปที่มูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อนำหลักฐานทั้งหมดมาปรึกษาคดี
“เจสซี่” เปิดใจยอมกลับไปอยู่กับแม่-แต่ยังห่วงกานต์ สรุปโดนข้อหาทุกคน!
“กานต์” ปรากฏตัวครั้งแรก ยันกับ “เจสซี่” เป็นแค่ “คนคุย”
ซึ่งก่อนหน้านี้แม่ของเจสซี่ได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.หนองปรือ จังหวัดชลบุรี เพื่อเอาผิดครอบครัวของพิมพ์ เบียร์ กาน ซึ่งเป็นครอบครัวคู่กรณีที่เจสซี่ นำเงินของพ่อไปให้ โดยแจ้งความไป 3 ข้อหา คือรับซื้อของโจร พรากผู้เยาว์และหลักทรัพย์
ส่วนกรณีที่ทนายรัชพล สิริสาคร ทนายความฝั่งครอบครัวคู่กรณีได้ออกมา เปิดเผยว่าจะฟ้องเจสซี่ ในข้อหาคบชู้ และจะฟ้องดำเนินคดีกับทางพ่อและแม่ของเจสซี่ ที่เป็นผู้ปกครอง แม่ของเจสซี่ เปิดเผยว่า รู้สึกตกใจอย่างมาก แล้วได้ถามเรื่องนี้กับเจสซี่ แต่เจสซี่ ยืนยันว่าครอบครัวฝั่งนั้นไม่ฟ้องอย่างแน่นอน
ส่วนในวันที่ทางครอบครัวฝั่งคู่กรณีพร้อมด้วยทนายรัชพลเดินทางไปที่ สภ. หนองปรือ อ้างว่าแม่เจสซี่ไม่ไปตามนัดและไม่ยอมมาไกล่เกลี่ย แม่เจสซี่ ยืนยันว่า ก่อนหน้านี้เธอไม่รู้ว่าที่โทรมาต้องการที่จะไกล่เกลี่ย เนื่องจากทางฝั่งคู่กรณีไปคุยกับพ่อของเจสซี่ โดยที่เธอไม่ได้รับรู้เรื่องราวด้วย เธอยืนยันว่าจะไม่มีการไกล่เกลี่ยเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
หลังจากที่แม่ของเจสซี่ ได้สัมภาษณ์สักพักหนึ่งก็รู้สึกเครียดและกดดัน โดยเฉพาะตอนที่พูดถึงเรื่องจำนวนเงินที่เจสซี่ กดออกไปใช้ ก็ยิ่งรู้สึกเครียดจนต้องลุกออกไปอาเจียนระหว่างที่สัมภาษณ์พร้อมร้องไห้ออกมาว่าทนไม่ไหวกับพฤติกรรมของลูกชายและไม่คิดว่าลูกชายจะทำแบบนี้กับตนได้
ขณะที่นายชาญชัย ฉายบุ ที่ปรึกษามูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม จะอธิบายบัญชีทั้ง 3 บัญชี โดยบัญชีแรกจะเป็นบัญชีที่พ่อเจสซี่จะเอาไว้ฝากเงินเกษียณ โดยจะนำเงินจากบัญชีนี้โอนเข้าไปที่บัญชีที่ 2 บัญชีนี้เป็นบัญชีการใช้จ่ายของครอบครัว ซึ่งปกติพ่อของเจสซี่จะไว้ใจให้เจสซี่เป็นคนถอนเงินสดให้กับครอบครัวเข้าบัญชีนี้เป็นประจำ
จนกระทั่งวันที่ 1 พ.ค. 2566 เริ่มพบพฤติกรรมที่ผิดปกติ เจสซี่เริ่มกดเงินออกมาเกินจำนวนเช่นถ้าครอบครัวต้องการใช้เงิน 20,000 บาทเจสซี่ก็จะกดออกมา 30,000 บาท และ เริ่มขโมยบัตรเครดิตของพ่อไปกดโดยที่ไม่บอกคนในครอบครัว ก่อนที่เจสซี่ จะไปเปิดบัญชีส่วนตัวและมีเส้นทางการโอนเงินไปให้ครอบครัวฝั่งคู่กรณีทั้งสามคนเป็นยอดเงินรวม 386,413 และถ้ารวมกับยอดที่เจสซี่ แอบกดเงินสดออกไปก่อนหน้านี้เป็นเงิน 1,318,390 บาท ที่เจสซี่เอาไปใช้
ส่วนนายดีแลน พี่ชายของเจสซี่ ฝากไปถึงครอบครัวของฝั่งคู่กรณีว่า เป็นเพียงแค่คนนอกแต่ทำไมถึงทำให้ครอบครัวของตนต้องแตกแยก และตอนนี้ครอบครัวก็ไม่เหลือเงินเหลือ เงินที่พ่อของพวกเขาทำมาทั้งหมดที่ต้องการใช้จ่ายในครอบครัวก็ต้องไปเสียให้กับครอบครัวของฝั่งคู่กรณี จนตอนนี้ทำให้ เงินติดบัญชีของพ่อเหลือเพียงแค่ 2,000 บาท ซึ่งตนเองกับแม่ก็มีเงินติดตัวมาแค่ 500 บาท ไม่รู้ว่าหลังจากนี้ครอบครัวจะต้องทำอย่างไรต่อไป
ขณะที่ทนายรณณรงค์ และนายชาญชัย ได้ฝากไปถึงทนายรัชพล ว่าทางครอบครัวเจสซี่มีหลักฐานหรือเส้นทางการโอนเงินที่ชัดขนาดนี้ยังจะช่วยครองครัวของฝั่งพิม กาน และเบียร์อยู่หรือไม่ ยืนยันว่ายังไงครอบครัวของฝั่งคู่กรณีก็จะต้องโดนข้อหารับซื้อของโจร รวมถึงนางกานจะต้องโดยข้อหาพรากผู้เยาว์
และยังมีหลักฐานที่สำคัญแต่ไม่สามารถเปิดเผยได้เนื่องจากจะต้องเอาไว้ใช้ในชั้นศาล ซึ่งวันนี้เป็นวันที่ทางครอบครัวคู่กรณีได้มีการตกลงมาจะนำเงินมาคืน โดยมีหลักฐานเป็นบันทึกประจำที่ไปลงที่สถ.หนองปรือ จึงอยากให้ครอบครัวขอฝั่งคู่กรณีรีบมาคืนเงินตามที่ตกลงกันไว้ด้วย