'โจ๊ก' ลุยฟ้อง "กูรู" ยศ "พล.ต.ต." เรียก 10 ล้าน ปมหมิ่นประมาท ลั่นพูดเอามัน
'โจ๊ก' ลุยฟ้อง "กูรู" ยศ "พล.ต.ต." เรียก 10 ล้านบาท ปมหมิ่นประมาท ลั่นพูดเอามัน ไม่รู้กฎหมายจริง ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้อง 16 ก.ย.นี้
วันที่ 28 มิ.ย. 2567 ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เดินทางมายื่นฟ้อง "กูรูด้านกฎหมาย" ซึ่งเป็นอดีตตำรวจยศ "พล.ต.ต." ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา จากกรณีจงใจใส่ความต่อบุคคลที่ 3 ทำให้ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ทำให้ประชาชนเข้าใจผิด พร้อมเรียกค่าเสียหาย 10 ล้านบาท
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า กูรูท่านนี้ถือเป็นคนที่ 2 ที่ฟ้อง หลังจากนี้จะเดินหน้าฟ้องกูรูอีก 2 คน รวมถึงนายกรัฐมนตรี โดยจะเร่งให้แล้วเสร็จภายใน 2 สัปดาห์ พร้อมฝากเตือนกูรูว่าการจะสัมภาษณ์อะไรก็แล้วแต่ แต่เป็นการพูดเอามัน โดยไม่รู้กฎหมายที่แท้จริง กระทบสิทธิ์ของตน ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย โดยเฉพาะกูรูที่อายุมากแล้ว ไม่ควรพูดให้สังคมสับสน แต่ควรอยู่ให้เป็นที่เคารพสักการะของเด็กรุ่นใหม่
ภาพประกอบข่าว
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า สาเหตุที่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร รอง ผบ.ตร. ไม่ยอมเพิกถอนคำสั่ง เพราะทำใจไม่ได้ ว่าตนทำผิดไปแล้ว อายเขา จึงไม่กล้ากลืนน้ำลายตัวเอง แต่เมื่อกฎหมายใหม่ออกมาก็ควรยึดตามกฎหมายใหม่ ไม่ใช่ไปยึดตามกฎหมายเก่า ส่วนตนจะได้กลับไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือมีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์หรือไม่นั้น ตนก็สู้ตามหลักกฎหมาย จะได้กลับหรือไม่ได้กลับก็ขึ้นอยู่กับหลักกฎหมาย
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ตนไม่ได้ไปขอร้อง หรือร้องไห้ให้นายกรัฐมนตรีหรือบุคคลใดมาช่วย ตนเพียงเดินตามหลักกฎหมาย ครั้งที่แล้วที่ตนถูกโยกย้ายไปช่วยสำนักนายกรัฐมนตรี ครั้งนั้นถือว่าหนักกว่าครั้งนี้ เพราะตนต้องไปเป็นข้าราชการพลเรือนเลย ตนไม่เคยขอให้ใครช่วยเช่นกัน
"มองว่าไม่ได้เป็นการแพ็กรวมเอาทั้งองค์กรมาสู้กับผมเพียงคนเดียว เพราะในแพ็กมีอยู่ไม่กี่คน แม้ในแพ็กนี้จะเป็นผู้มีอำนาจ แต่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ทุกวันนี้โดนรุมกินโต๊ะจีนอยู่แล้ว ต่อสู้อย่างโดดเดี่ยวอยู่แล้ว แต่มีไม่กี่คนที่ทำ ปัจจุบันประชาชนเริ่มมองเห็นแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น ผมก็ต้องต่อสู้ ถ้าไม่ต่อสู้ ผมก็คงต้องกลับบ้าน"
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ทำหนังสือชี้แจงแย้งคำอุทธรณ์ของตนส่งกลับไปให้คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ หรือ ก.พ.ค.ตร. นั้น ทาง ก.พ.ค.ตร. ได้ส่งคำแย้งกลับมาให้แล้ว อยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียดในวันอังคารที่จะถึงนี้ ตนจะทำความเห็นแย้งส่งกลับไปให้คณะกรรมการอย่างแน่นอน ส่วนการพิจารณาของ ก.พ.ค.ตร. จะแล้วเสร็จภายใน 30 วันตามที่นายกรัฐมนตรีหรือไม่นั้น เชื่อว่าจะจบภายใน 120 วัน เพราะเป็นการพิจารณาตามข้อกฎหมาย ไม่ได้ใช้ดุลพินิจ
ภาพประกอบข่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ศาสตราจารย์พิเศษ วิชา มหาคุณ คณะบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ออกมาแสดงความคิดเห็นผ่านสื่อมวลชนว่า คำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ออกจากราชการ เป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นไปตามขั้นตอน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า อาจารย์วิชาอาจเข้าใจผิดเรื่องคณะกรรมการที่ตรวจสอบวินัย อาจจะดูข้อมูลเร็วๆ ทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน ไม่ใช่ว่าไม่เข้าใจ เพราะอาจารย์วิชาเป็นนักกฎหมายที่เก่ง และเป็นถึงอดีตคณะกรรมการ ป.ป.ช. ย่อมรู้เรื่องกฎหมายดี แต่กฎหมายตำรวจมี พ.ร.บ.เฉพาะ
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ยืนยันว่าจะไม่ฟ้องกลับอาจารย์วิชา ส่วนเหตุผลที่ตนเลือกมายื่นฟ้องที่ศาลอาญากรุงเทพใต้นั้น เพราะตนสะดวก ใกล้บ้าน และใกล้สถานที่ออกกำลังกาย ไม่ได้รู้จักบุคคลใดที่ศาลเป็นการส่วนตัว
โดยคดีนี้ ศาลอาญากรุงเทพใต้ นัดไต่สวนมูลฟ้อง ในวันที่ 16 ก.ย.นี้ เวลา 09.00 น.
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : 'โจ๊ก' ลุยฟ้อง "กูรู" ยศ "พล.ต.ต." เรียก 10 ล้าน ปมหมิ่นประมาท ลั่นพูดเอามัน
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th