Jeremy Renner เผยใจ หลังประสบอุบัติเหตุเฉียดตาย ทำให้รู้สึกไม่มีพลังรับบทบาทท้าทายยาก ๆ อีกต่อไป

ณ ตอนนี้จะเรียกว่าเป็นช่วงฟ้าหลังฝนของนักแสดงหนุ่ม เจเรมี เรนเนอร์ (Jeremy Renner) นักแสดงที่คุ้นหน้ากันจากบทบาท คลินต์ บาร์ตัน (Clint Barton) หรือฮอว์กอาย (Hawkeye) แห่งจักรวาล MCU เพราะหลังจากที่เขาตัดสินใจกระโดดปีนขึ้นไปหยุดรถไถหิมะที่กำลังเคลื่อนตัวเข้าทับรถบรรทุกของหลานชาย แต่กลับพลาดท่าถูกรถไถหิมะทับในวันขึ้นปีใหม่ของปี 2023 จนทำให้เขาประสบอุบัติเหตุเฉียดตาย

แม้ตอนนี้จะมีข่าวดีที่ว่า ร่างกายของเขาฟื้นตัวจนสามารถเริ่มกลับไปรับงานการแสดงได้เหมือนปกติอีกครั้ง และเมื่อต้นปีที่ผ่านมาหลังจากพักฟื้นมาอย่างยาวนาน เขาก็เริ่มกลับไปถ่ายทำซีซันที่ 3 ของซีรีส์อาชญากรรมทริลเลอร์ ‘Mayor of Kingstown’ ที่เพิ่งเข้าฉายทาง Paramount+ เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา

แต่ดูเหมือนว่าอุบัติเหตุจะส่งผลกระทบในระดับที่ลึกกว่านั้นมาก นักแสดงวัย 53 ปีได้มีโอกาสให้สัมภาษณ์กับพอดแคสต์ SmartLess ที่เขาได้เปิดใจเป็นครั้งแรกว่า อุบัติเหตุนั้นไม่ได้แค่ส่งผลต่อร่างกาย แต่ยังส่งผลที่ทำให้เขารู้สึกว่า ตัวเขาเองยังไม่พร้อมที่จะกลับไปรับบทบาทยาก ๆ ที่มีความท้าทาย และต้องใช้พลังงานในการแสดงเยอะ ๆ ในเวลานี้ เพราะเขายังคงต้องมุ่งเน้นไปที่การฟื้นฟูทั้งด้านจิตใจและร่างกายให้กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง

Jeremy Renner

“ผมแค่รู้สึกว่าตอนนี้ตัวผมเองไม่มีพลังที่จะทำมัน ผมไม่มีพลังงานที่จะทำมันเลย ผมต้องใช้พลังงานที่ผมมีมากมายไปกับการอยู่กับความเป็นจริง อยู่กับร่างกายของผมทั้งหมดนี้ เพราะแบบนี้ผมเลยไม่สามารถกลับไปรับบทบาทที่ต้องสมมติได้ในตอนนี้ เพราะมันต้องใช้เวลามากมายในการเตรียมตัวให้พร้อมในแต่ละวัน เพื่อให้ผมมีความคิดที่เป็นบวก ที่จะทำให้ผมมีพัฒนาการและมีการเติบโตอยู่เสมอ”

วันที่ 1 มกราคม ปี 2023 ในระหว่างที่เรนเนอร์ใช้รถกวาดหิมะเพื่อเปิดทางให้กับรถบรรทุกของหลานชาย ด้วยการใช้โซ่คล้องรถบรรทุกและดึงออกมา แต่รถกวาดหิมะน้ำหนักกว่า 14,000 ปอนด์ (ประมาณ 6 ตัน) กำลังไถลไปชนกับรถบรรทุก เรนเนอร์จึงพยายามหยุดรถด้วยการปีนขึ้นรถไถหิมะ แต่กลับพลาดท่า ตัวของเขาตกลงมายังพื้นก่อนจะถูกรถไถหิมะทับ จนต้องนำส่งเข้า ICU โดยด่วน อาการของเขาเข้าขั้นวิกฤติ กระดูกหักทั่งทั้งร่างกาย ตั้งแต่กระดูกไหปลาร้า ไหล่ ซี่โครง หน้าแข้ง ข้อเท้า ปอดแฟบ และบริเวณอื่น ๆ รวมกว่า 30 จุด

แม้เขาจะได้กำลังใจที่ดี ทั้งจากอดีตภรรยา ซอนนี ปาเชโก (Sonni Pacheco) อดีตภรรยา และเอวา (Ava) ลูกสาววัย 10 ขวบ รวมทั้งนักแสดงในวงการ และโรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ (Robert Downey Jr.) เพื่อนร่วมจักรวาล MCU ที่โทรมาให้กำลังใจเขาด้วยการเล่นมุกบอกให้เขาหายเร็ว ๆ เพราะเขาและภรรยาชอบดูซีรีส์ ‘Mayor of Kingstown’ มาก ๆ จนกระทั่งในอีก 1 ปีต่อมา หลังจากทำกายภาพบำบัดและพักฟื้นมาอย่างยาวนาน เขาก็สามารถฟื้นตัวและกลับไปเริ่มต้นถ่ายทำซีซันที่ 3 ได้อีกครั้ง

ในด้านร่างกาย เขาสามารถกลับมาทำงานได้อย่างแทบจะปกติ แต่ในแง่ของจิตใจ เขาเองยอมรับแบบเปิดใจว่า เขาตัดสินใจกลับมารับบทเป็นนายกเทศมนตรี ไมก์ แม็กลัสกี ผู้ใช้เส้นสายอำนาจทางการเมืองเพื่อแสวงหาผลประโยชน์จากเรือนจำท้องถิ่นของเมืองคิงส์ทาวน์อีกครั้ง ก็เพราะความคุ้นเคยกับบทบาทที่เขารู้สึกมั่นใจว่าจะถ่ายทอดออกมาได้ดี

Jeremy Renner

แต่เขาจะรู้สึกหวั่นเกรงที่จะกลับมาอยู่ต่อหน้ากล้องอีกครั้ง หากต้องกลับไปรับบทที่ต้องอาศัยพลังในการแสดงและต้องการการเข้าถึงบทอย่างมาก

“บางทีผมก็ยังต้องต่อสู้กับมันอยู่บ้าง บางครั้งผมก็ไม่ได้จริงจังกับมันมากนัก ผมรับเล่น (‘Mayor of Kingstown’) เพราะเป็นเรื่องราวที่ผมรู้จักดีมากอยู่แล้ว และเป็นตัวละครที่ผมรู้สึกว่าผมทำได้ดี ดังนั้นมันจึงง่ายมากที่ผมจะกลับมารับบทนี้อีกครั้ง ไม่ใช่ว่าบทนี้ไม่ท้าทายนะ แต่ถ้าผมต้องกลับไปเล่นบทที่มีความท้าทายมาก ๆ เช่น รับบทเป็นเจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ (‘Dahmer’,2002) หรือบทบาทอะไรที่ไกลจากตัวผมมาก ผมคงไม่สามารถทำได้”

“ที่ผมกลัวคือ ผมกลัวว่าผมแ-่งต้องฝืนทำตัวให้เหมือนเป็นตัวละครในนิยายน่ะ ผมกำลังพยายามที่จะใช้ชีวิตอยู่กับความเป็นจริง ผมพยายามที่จะมีชีวิตตามความเป็นจริง มันจึงเป็นเรื่องยากสำหรับผมที่จะก้าวข้ามเส้นตรงนั้นไป มันเป็นอะไรที่เกินจะเอื้อมมาก มันเป็นความท้าทายอย่างมากในจิตใจของผมที่จะเอาชนะสิ่งนี้ไปให้ได้”

เรนเนอร์เล่าประสบการณ์ขำ ๆ ตอนอยู่ในกองถ่าย ‘Mayor of Kingstown’ ในช่วงสัปดาห์แรกของการกลับไปถ่ายทำ เขาเคยเผลอสัปหงกคากล้องในระหว่างที่กำลังถ่ายทำด้วย

“พอพวกเขาสั่ง ‘แอ็กชัน !’ แล้วผมก็หลับป๊อกไปเลย รู้ตัวอีกทีก็คือ พวกเขาใช้งานผมหนักเกินไป ทำงานหลายชั่วโมงเกินไป หลายวันติดต่อกันมากเกินไป คือมันก็เป็นสิ่งที่ผมเต็มใจทำนะครับ แต่ว่าผมจะทำได้ไหมนั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง”

“พวกเขาต้องปฏิบัติกับผมเหมือนเป็นนักแสดงเด็กน่ะ นายกเทศมนตรีเมืองคิงส์ทาวน์ตอนนี้ก็คือเด็กอายุ 14 ดี ๆ นี่แหละ” (หัวเราะ)