เตือนนายจ้าง! “วันแรงงานแห่งชาติ” ต้องให้ลูกจ้างหยุด-รับค่าแรงตามปกติ
เตือนนายจ้าง! “วันแรงงานแห่งชาติ” ต้องให้ลูกจ้างหยุด-รับค่าแรงตามปกติ
เนื่องด้วยวันที่ 1 พฤษภาคมของทุกปี คือ “วันแรงงานแห่งชาติ” ถือเป็นวันหยุดประจำปีที่มีผลมาจากการเคลื่อนไหวของสหภาพแรงงาน เพื่อเฉลิมฉลองผลงานทางเศรษฐกิจและสังคมของผู้ใช้แรงงาน
นางโสภา เกียรตินิรชา อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) จึงออกมาย้ำเตือนว่า นายจ้าง สถานประกอบกิจการต้องปฏิบัติตามกฎหมายพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานอย่างเคร่งครัด โดยจัดให้ลูกจ้างได้หยุดงานในวันแรงงานแห่งชาติและจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างเท่ากับค่าจ้างในวันทำงาน
1 พฤษภาคม “วันแรงงานแห่งชาติ” เปิดที่มาของวันหยุดสำคัญประจำปี ไขข้อสงสัย “วันแรงงาน” ราชการไม่ได้หยุด ทั้งที่เป็นวันของคนทำงานทั่วโลก
นางโสภา เปิดเผยว่า ด้วยพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ได้กำหนดให้นายจ้างประกาศกำหนดวันหยุดตามประเพณีให้ลูกจ้างทราบเป็นการล่วงหน้าปีหนึ่งไม่น้อยกว่า 13 วันโดยรวมวันแรงงานแห่งชาติ ซึ่งก็คือวันที่ 1 พฤษภาคมของทุกปี กรณีที่วันแรงงานแห่งชาติตรงกับวันหยุดประจำสัปดาห์ของลูกจ้าง ให้ลูกจ้างได้หยุดชดเชยวันหยุดตามประเพณีในวันทำงานถัดไป
นางโสภา เปิดเผยอีกว่า ในกรณีที่นายจ้างไม่อาจให้ลูกจ้างหยุดงานในวันดังกล่าวได้เนื่องจากลูกจ้างทำงานในกิจการโรงแรม สถานมหรสพ ร้านขายอาหาร ร้านขายเครื่องดื่ม สโมสร สมาคม สถานพยาบาล สถานบริการการท่องเที่ยว งานในป่า งานในที่ทุรกันดาร งานขนส่ง และงานที่มีลักษณะงานหรือสภาพของงานต้องทำติดต่อกันไปถ้าหยุดจะเสียหายแก่งานนั้น ให้นายจ้างตกลงกับลูกจ้างว่าจะหยุดชดเชยในวันอื่นแทนหรือให้นายจ้างจ่ายค่าทำงานในวันหยุดให้ก็ได้
นางโสภา เปิดเผยเพิ่มเติมอีกว่า หากนายจ้างให้ลูกจ้างทำงานในวันแรงงานแห่งชาติ นายจ้างต้องจ่ายค่าทำงานในวันหยุดให้แก่ลูกจ้างเพิ่มขึ้นจากค่าจ้างอีกไม่น้อยกว่า 1 เท่าของอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมงในวันทำงาน ตามจำนวนชั่วโมงที่ทำ หรือไม่น้อยกว่า 1 เท่าของอัตราค่าจ้างต่อหน่วยในวันทำงานตามจำนวนผลงานที่ทำได้สำหรับลูกจ้างซึ่งได้รับค่าจ้างตามผลงานโดยคำนวณเป็นหน่วย
และหากนายจ้างให้ลูกจ้างทำงานล่วงเวลาในวันแรงงานแห่งชาติ นายจ้างต้องจ่ายค่าล่วงเวลาในวันหยุดให้แก่ลูกจ้างในอัตราไม่น้อยกว่า 3 เท่าของอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมงในวันทำงาน ตามจำนวนชั่วโมงที่ทำ หรือไม่น้อยกว่า 3 เท่าของอัตราค่าจ้างต่อหน่วยในวันทำงานตามจำนวนผลงานที่ทำได้สำหรับลูกจ้างซึ่งได้รับค่าจ้างตามผลงานโดยคำนวณเป็นหน่วย
หากนายจ้างหรือลูกจ้างมีข้อสงสัยเพิ่มเติม หรือต้องการร้องเรียนกรณีที่นายจ้างไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย สามารถติดต่อได้ที่ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดทุกจังหวัด และสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครทั้ง 10 พื้นที่ รวมไปถึงเว็บไซต์และเฟซบุ๊ก กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน หรือโทรสายด่วน 1506 กด 3 หรือเบอร์ 1546
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน