ด่วน! เจอเรือน้ำมันเถื่อนของกลาง 3 ลำแล้ว ตร.ส่งชุดประกบ นำกลับ จ.สงขลา
ด่วน! เจอเรือน้ำมันเถื่อนของกลาง 3 ลำแล้ว อยู่ระหว่างนำกลับ จ.สงขลา
จากกรณีที่กองบังคับการตำรวจน้ำ (บก.รน.) รายงานว่า เรือบรรทุกน้ำมันของกลางขนาดใหญ่จำนวน 3 ลำ ซึ่งบรรจุน้ำมันรวมกว่า 3.3 แสนลิตร หายไปจากท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ จ.ชลบุรี จนมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.รน. จำนวน 4 นาย ย้ายมาช่วยราชการ ปฏิบัติหน้าที่ประจำศูนย์ปฏิบัติการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยให้ขาดจากต้นสังกัด มีผลนับตั้งแต่วัน 13 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
ล่าสุด ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสนธิกำลังทุกภาคส่วนเร่งติดตามหาเรือน้ำมันของกลาง จำนวน 3 ลำ จนกระทั่งวันนี้ (16 มิ.ย.67) พบเรือน้ำมันของกลาง 3 ลำ เป็นที่เรียบร้อยแล้วอยู่ระหว่างนำกลับมาที่ จ.สงขลา สามารถติดตามการแถลงข่าวเกี่ยวกับรายละเอียดคดีนี้ได้ในวันพรุ่งนี้ (17 มิ.ย.67)
เบื้องต้น อยู่ระหว่างส่งชุดไปประกบ พร้อมควบคุมเข้ามาที่ท่าเทียบเรือ จ.สงขลา โดยคาดว่าวันพรุ่งนี้จะมีความชัดเจน ส่วนจะนำกลับมาดำเนินคดีที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี หรือไม่ รวมถึงน้ำมันของกลางยังมีอยู่หรือไม่ รอความชัดเจนและประเมินอีกครั้ง
ภาพประกอบข่าว
ขณะที่ พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผบก.รน. เปิดเผยความคืบหน้าว่า คดีนี้ในส่วนของความบกพร่องต่อหน้าที่นั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. กำลังสอบสวนและดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำที่มีหน้าดูแลรับผิดชอบการดูแลของกลางที่สูญหายไป รวมทั้งการติดตามเพื่อดำเนินคดีกับบรรดาลูกเรือที่หายไปกับเรือด้วย โดยส่วนนี้ทราบว่าทีมสืบสวนของกองปราบกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการ
พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์กล่าวว่า ส่วนหน้าที่ของ บก.รน.คือการติดตามหาเรือของกลางที่สูญหายไปทั้ง 3 ลำ ซึ่งมีการประสานข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาตลอด
กรณีที่มีรายงานข่าวว่า มีผู้พบเห็นเรือน้ำมันของกลางทั้ง 3 ลำไปอยู่ในน่านน้ำของประเทศกัมพูชานั้น พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์กล่าวว่า เรื่องนี้มีการตรวจสอบแล้วยังไม่ปรากฏข้อเท็จจริง ล่าสุดจากการประสานกันระหว่าง 4 ประเทศ ที่มีน่านน้ำติดกันคือกัมพูชา, เวียดนาม, มาเลเซีย และประเทศไทย จนทำให้พอจะทราบว่าเรือทั้ง 3 ลำน่าจะยังลอยลำอยู่ในน่านน้ำที่เป็นเขตเศรษฐกิจจำเพาะ ค่อนออกไปทางทะเลหลวงใกล้ๆ กับน่านน้ำทะเลของประเทศมาเลเซีย ซึ่งได้สั่งการให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วนแล้ว
เมื่อถามว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่ลูกเรือจะพาเรือไปถ่ายน้ำมันออกแล้วยอมทิ้งเรือไว้ พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์กล่าวว่า จากสมมุติฐานราคาน้ำมันของกลาง 3 แสนลิตร ถ้าขายอยู่ในวงการน้ำมัน ราคาอยู่ที่ลิตรละ 10-12 บาทเท่านั้น ตีราคาทั้งหมดราคาทั้งหมดราวๆ 3 ล้านบาท ซึ่งถ้าในวงการจะกันรู้ว่าไม่ได้เยอะมาก แต่เรือของกลาง จากสภาพล่าสุดพบว่าราคาสูง อยู่ที่ประมาณ 5 ล้านบาทต่อลำ จึงเป็นไปได้ยากที่จะเอาแต่น้ำมัน แล้วทิ้งเรือไว้ เพราะมันไม่คุ้มค่า และน่าจะตัดประเด็นนี้ทิ้งได้เลย
พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์กล่าวถึงกรณีการพบเห็นคราบสีดำคล้ายๆ กับคราบน้ำมันลอยอยู่ในทะเลแถวพัทยาและหาดจอมเทียน จนเกิดข้อสงสัยว่าจะเกี่ยวข้องกับกรณีเรือน้ำมันเถื่อนสูญหายหรือไม่นั้นว่า ได้สั่งการให้ตรวจสอบแล้ว ทราบว่าคราบสีดำที่พบเห็นลอยอยู่ในทะเลนั้นปรากฏว่าเป็นน้ำเสียที่ถูกลักลอบปล่อยมาลงทะเล ซึ่งจะมีหน่วยงานที่รับผิดชอบเข้ามาดูแลในเรื่องนี้ต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติเปิดเผยความคืบหน้าการสืบสวนคดีเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อน 3 ลำของเครือข่าย “โจ้ ปัตตานี” หายไปจากสะพานตำรวจน้ำ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยระบุว่า เบื้องต้นคาดว่าเส้นทางหลังจากที่เรือบรรทุกน้ำมันหายไป น่าจะล่องมุ่งหน้าไปทางน่านน้ำประเทศกัมพูชา ผ่านเวียดนาม ก่อนจะล่องลงใต้ เพื่อให้พ้นน่านน้ำของประเทศไทนโดยเร็วที่สุด ซึ่งได้ประสานทางการของประเทศต่างๆ โดยรอบทุกประเทศในการติดตามเรือบรรทุกน้ำมันทั้ง 3 ลำแล้ว พบว่ามีแนวโน้มไปในทางที่ดี และกำลังกดดันให้ผู้ต้องหาที่นำเรือไป นำเรือมาคืน แต่เบื้องต้นก็ยังอยู่ระหว่างเร่งรัด ซึ่งเจ้าหน้าที่ขอเวลาทำงานอีก 3 วัน หากวันพุธที่ 19 มิ.ย.ยังไม่มีความคืบหน้า ก็จะเร่งหาแผนดำเนินการอื่น
ส่วนที่จะออกหมายเรียกลูกเรือ 16 คนที่เหลือ ที่ไม่ได้ไปกับเรือบรรทุกน้ำมันที่หายไป มาสอบปากคำที่ บก.ปอศ.ในวันจันทร์นี้นั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติบอกว่า ได้ออกหมายเรียกไปเรียบร้อยแล้ว นัดหมายช่วงเช้า แต่จะมาครบหรือไม่ ยังไม่สามารถยืนยันได้ ซึ่งหากไม่มา และไม่แจ้งเหตุผลที่เหมาะสม ก็จะต้องบังคับใช้กฎหมายตามขั้นตอนต่อไป ส่วนจะมีการออกหมายจับบุคคลใดเพิ่มเติมหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน โดยยืนยันว่าหากพยานหลักฐานสาวถึงใคร จะต้องดำเนินคดีทั้งหมด เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ตนเองยอมไม่ได้ เป็นกลุ่มผู้มีอิทธิพลมากระทำเช่นนี้ เหมือนล้วงคองูเห่า
พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าวว่า ขณะที่ผลการตำรวจสอบวินัยตำรวจน้ำที่ดูแลรับผิดชอบเรือบรรทุกน้ำมันดังกล่าวนั้น ตามกรอบกำหนดให้ 30 วัน แต่ได้กำชับให้ผู้บังคับการตำรวจน้ำเร่งสอบสวนให้มีความคืบหน้าภายใน 7 วัน โดยหากส่วนใดที่คืบหน้า หรือพบการกระทำความผิด ก็จะให้ทยอยดำเนินการเบื้องต้นไปก่อนตามพยานหลักฐานที่สาวไปถึง แต่เบื้องต้นพบว่าตำรวจน้ำ 3-4 นายน่าจะเข้าข่ายบกพร่อง ทำให้เสียหายต่อราชการอย่างร้ายแรง ส่วนจะเข้าข่ายความผิดใดอื่นอีกหรือไม่ ต้องรอการตรวจสอบ แต่ยืนยันคดีนี้ไม่ล่าช้า ไม่ปล่อยให้ยืดยาวแน่นอน ต้องตอบคำถามสังคมให้ได้
ส่วนกรณีที่มีคลิปวิดีโอลูกเรือคนหนึ่งอ้างว่ามี “เสธ” คนหนึ่งยังไม่ให้เอาเรือออกนั้น พล.ต.ต จรูญเกียรติบอกว่า ต้องขอตรวจสอบก่อน เนื่องจากคำว่า เสธ ประชาชนทั่วไปอาจใช้เรียกบุคคลธรรมดาที่ไม่ใช่ เสธ จริงๆ ก็ได้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ด่วน! เจอเรือน้ำมันเถื่อนของกลาง 3 ลำแล้ว ตร.ส่งชุดประกบ นำกลับ จ.สงขลา
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th