ททท. อ้อนของบเขย่าตลาดเที่ยวไทยระยะไกล หวังปั้นรายได้เพิ่ม 2 แสนล้าน
ภาพประกอบข่าว
ททท. อ้อนของบเขย่าตลาดเที่ยวไทยระยะไกล หวังปั้นรายได้เพิ่ม 2 แสนล้าน ไต่เป้าของรัฐบาล
นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า วางเป้าหมายตลาดระยะไกล ต้องสร้างรายได้จากตลาดต่างชาติรวมอยู่ที่ 40% จำนวนอยู่ที่ 30% ซึ่งถือว่ามากกว่าปี 2562 ช่วงปกติก่อนเกิดโควิด-19 ที่มีส่วนแบ่งตลาดรวมในด้านจำนวนอยู่ที่ 23% และรายได้ 33% โดยยืนยันไม่ว่ารายได้รวมหรือจำนวนจะขยับไปสูงเท่าใด ส่วนแบ่งของตลาดระยะไกลจะต้องไม่น้อยกว่าที่วางไว้ โดยหากรัฐบาลตั้งเป้าหมายสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวไทยสูงขึ้น อยู่ที่ 3.5 ล้านล้านบาท จากเดิมที่ ททท.วางเป้าไว้ที่ 3 ล้านล้านบาท จะต้องวางแผนดึงดูดเม็ดเงินจากการท่องเที่ยวให้ได้อีกประมาณ 5 แสนล้านบาท เพื่อไปให้ถึงเป้าหมายที่วางไว้ โดยตลาดระยะไกลทั้งยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา จะสร้างรายได้ในสัดส่วน 2 แสนล้านบาท จาก 5 แสนล้านบาทที่ต้องทำเพิ่มขึ้น ผ่านการทำโปรร่วมสายการบิน ซึ่งส่วนนี้ต้องของบประมาณเพิ่มเติม เพื่อทำโปรร่วมกับภาคเอกชน หลังที่ผ่านมาเป็นฝ่ายประสานกับพันธมิตรให้ช่วยทำตลอด
นายศิริปกรณ์กล่าวว่า ขณะนี้ ททท.อยู่ระหว่างการทำโปรโมชั่นร่วมกับสายการบินและโรงแรม อาทิ จองโรงแรม 10 คืน พักฟรี 1 คืน หรือจองโรงแรม 5 คืน ฟรีดินเนอร์ เพื่อส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวกลุ่มพักระยะยาว อยู่พักในไทยนานขึ้นอีก เกิดการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นตาม เนื่องจากกลุ่มนี้เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีกำลังซื้ออยู่แล้ว โดย ททท.ได้หารือแนวทางนี้ก่อนที่รัฐบาลจะประกาศขยายเวลาพำนักในไทยจาก 30 วัน เป็น 60 วัน ทำให้เมื่อรัฐบาลขยายวันพำนักเป็น 60 วัน ถือเป็นผลดีในการสนับสนุนให้ต่างชาติพักไทยนานขึ้น หลังมีมาตรการสนับสนุนที่ ททท. กำลังดำเนินการร่วมกับพันธมิตรอยู่ ซึ่งรัฐบาลยังไม่ประกาศขยายระยะเวลาพักเป็น 60 วัน จึงได้คุยไว้ในการเข้าเที่ยวไทยและพักนานสุด 21 วัน จากระยะพักนานสุด 30 วัน ซึ่งการพักเฉลี่ย 21 วัน จะมีค่าใช้จ่ายกว่า 168,000 บาทต่อทริป (วันละ 8 พัน) และเมื่อมีมาตรการใหม่ประกาศใช้ก็จะดันค่าใช้จ่ายมากขึ้นอีก รวมถึง ททท.มีแผนในการหารือร่วมกับสายการบินเพื่อหาแนวทางส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวพักให้นานที่สุดประมาณ 30-45 วัน จากวันพักสูงสุด 60 วัน
นายศิริปกรณ์กล่าวว่า ตลาดระยะไกลในตอนนี้ สามารถแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ 1.ตลาดดาวรุ่ง ประกอบด้วย รัสเซีย อังกฤษ อเมริกา เยอรมนี ฝรั่งเศส แม้มีสัดส่วนเฉลี่ยเยอะมาก 2-3 ล้านคน จำนวนและรายได้เฉลี่ยอยู่ในระดับ 70% แต่ตลาดระยะไกลจะต้องมีตลาดดาวรุ่งเข้ามาเสริมในส่วนของรายได้ จากปี 2566 ที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 28 ล้านคน เพื่อให้ปีนี้ไปถึงเป้าหมายที่ 35 ล้านคน ส่วนการเติบโตจะต้องมีสัดส่วนการเติบ 25% จากปีก่อน และ 2.ตลาดดาวฤกษ์คือตลาดที่เทียบสัดส่วนการเติบโตปี 2567 กับปี 2566 แล้วมีจำนวนเติบโตสูง รวมถึงประเทศที่ได้รับมาตรการสนับสนุนเชิงนโยบายจากรัฐบาล เศรษฐกิจภายในประเทศดี แม้จำนวนรายได้ภายในประเทศไม่มากนัก มีเที่ยวบินเชื่อมต่อที่มีความพร้อม ได้แก่ แคนาดา อิตาลี คาซัคสถาน โปแลนด์ เดนมาร์ก ซาอุดีอาระเบีย ที่จะเข้าไปทำตลาดอย่างต่อเนื่อง
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ททท. อ้อนของบเขย่าตลาดเที่ยวไทยระยะไกล หวังปั้นรายได้เพิ่ม 2 แสนล้าน
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th