นักธุรกิจแห่ลงสนามชิง สว. กลุ่ม‘สิ่งแวดล้อม-พลังงาน’ดุเดือด
การเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ระดับประเทศจะมีขึ้นในวันที่ 26 มิ.ย.2567 ที่อิมแพค ฟอรัม เมืองทองธานี โดยมีผู้ผ่านการคัดเลือกระดับอำเภอและระดับจังหวัดเข้ามา 3,000 ราย แบ่งเป็นชาย 2,164 ราย และหญิง 836 ราย
สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ได้แบ่งเป็น 20 กลุ่ม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการแบ่งตามลักษณะกลุ่มอาชีพ โดยมีนักธุรกิจสนใจสมัครกระจายในหลายกลุ่มตามคุณสมบัติที่กำหนด
กระบวนการเลือกตั้งในระดับอำเภอและระดับจังหวัดในช่วงที่ผ่านมาค่อนข้างเงียบเมื่อเทียบกับความสำคัญของตำแหน่ง สว.ที่จะมาทำหน้าที่ในฝ่ายนิติบัญญัติ แต่เมื่อกระบวนการเข้าสู่ระดับประเทศแล้วจะเป็นที่จับตาเพิ่มมากขึ้น เพราะผู้ที่ผ่านในรอบนี้ไปได้ 200 คน จะได้รับการแต่งตั้งเป็น สว.ที่มาจากตัวแทนของแต่ละกลุ่มรวม 20 กลุ่ม
ขณะที่การเลือกตั้งของกลุ่ม 8 กลุ่มผู้ประกอบอาชีพด้านสิ่งแวดล้อม ผังเมือง อสังหาริมทรัพย์ สาธารณูปโภค พลังงาน เป็นกลุ่มที่น่าจับตามองเพราะรวมกลุ่มอาชีพหลายกลุ่มเข้ามาไว้ในกลุ่มเดียวกัน ซึ่งทำให้มีนักธุรกิจจากหลายวงการเข้ามาสมัคร
ต่างจากบางกลุ่มที่แยกวิชาชีพเฉพาะ เช่น กลุ่มที่ 9 กลุ่มผู้ประกอบกิจการขนาดกลางขนาดย่อม , กลุ่มที่ 11 กลุ่มผู้ประกอบธุรกิจหรืออาชีพด้านการท่องเที่ยว , กลุ่มที่ 12 กลุ่มผู้ประกอบอุตสาหกรรม โดยผู้ที่ผ่านเข้าสู่การเลือกตั้งระดับประเทศ ดังนี้
กลุ่ม 8 กลุ่มผู้ประกอบอาชีพด้านสิ่งแวดล้อม ผังเมือง อสังหาริมทรัพย์ สาธารณูปโภค พลังงาน อาทิ ว่าที่ ร.ต.วรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี ตัวแทน จ.หนองบัวลำภู ซึ่งเป็นกรรมการ บริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) และอดีตผู้อำนวยการธนาคารออมสิน
นายปฏิมา จีระแพทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ จำกัด ตัวแทนกรุงเทพมหานคร
นายสิทธิชัย กฤชวิวรรธน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทโซลาร์ตรอน จำกัด (มหาชน) ตัวแทน จ.นนทบุรี
นายไตรวินิจ ตู้จินดา ผู้จัดการฝ่ายรัฐกิจสัมพันธ์ บริษัท ไพร์ม โรด เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ตัวแทน จ.สมุทรสาคร
นายธนินท์รัฐ ภักดีภิญโญ ตัวแทน จ.อุดรธานี ปัจจุบันเป็นอาจารย์และผู้เชี่ยวชาญธุรกิจค้าปลีก เคยเป็นผู้บริหารของบริษัท คาเธ่ย์ทรัสต์ จำกัด, บริษัท นิคมอุตสาหกรรม 304 ปราจีน หลังจากนั้น เข้ามาบริหาร ศูนย์การค้าเซ็นทรัล อุดรธานี รามอินทรา และเซ็นทรัลเวิลด์
นายนิรัตน์ อยู่ภักดี ตัวแทน จ.ชัยภูมิ เป็นนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ผู้พัฒนาคอนโด BOI ในกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยราคาถูกของบริษัท รีเจ้นท์ กรีน เพาเวอร์ จำกัด และเคยเป็น สว.ชัยภูมิ ชุดที่มาจากการเลือกตั้งเมื่อปี 2544
กลุ่มที่ 9 กลุ่มผู้ประกอบกิจการขนาดกลางขนาดย่อม มีผู้ผ่านเข้าสู่ระดับประเทศ เช่น นายโชคสมาน สีลาวงษ์ ตัวแทน จ.อุดรธานี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในรัฐบาลนายชวน หลีกภัย อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.อุดรธานี พรรคกิจสังคม และอดีตสมาชิกวุฒิสภา จ.อุดรธานี โดยการเลือกตั้งปี 2566 สมัครในนามพรรคก้าวไกล แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง
กลุ่มที่ 11 กลุ่มผู้ประกอบธุรกิจหรืออาชีพด้านการท่องเที่ยว มีผู้ผ่านเข้าสู่ระดับประเทศ เช่น นายเทียนประสิทธิ์ ไชยภัทรานันท์ ตัวแทนกรุงเทพมหานคร และปัจจุบันเป็นนายกสมาคมโรงแรมไทย รวมทั้งเป็นกรรมการบริหาร เครือแกรนด์ ไดมอนด์ และคณะกรรมการส่งเสริมและกำกับธุรกิจโรงแรม กระทรวงมหาดไทย, คณะกรรมการสมาคมการค้ากลุ่มท่องเที่ยว สุขภาพ MICE และกีฬา
นายพันธ์เลิศ ใบหยก ตัวแทน จ.แม่ฮ่องสอน เป็นนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง ประธานกรรมการเครือโรงแรมใบหยก มีกิจการที่เป็นที่รู้จักอย่างตึกใบหยก 1 และตึกใบหยก 2 ในอดีตเคยร่วมงานการเมืองกับพรรคไทยรักไทยในตำแหน่งรองเลขาธิการพรรค รวมทั้งเคยเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงอุตสาหกรรมในรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ปี 2546
กลุ่มที่ 12 กลุ่มผู้ประกอบอุตสาหกรรม มีผู้ผ่านเข้าสู่ระดับประเทศ เช่น นางประพีร์ สรไกรกิติกูล รองประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการบริษัท แพรนด้า จิวเวลรี่ จำกัด (มหาชน) ตัวแทน จ.สุมทรปราการ
นายวิวัฒน์ ทีฆะคีรีกุล ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท คาร์มาร์ท จำกัด (มหาชน) ตัวแทนกรุงเทพมหานคร
นายชัชชัย ชินธรรมมิตร ตัวแทน จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นทายาทตระกูลธุรกิจ “ชินธรรมมิตร”
นายชัชชัย ชินธรรมมิตร เป็นผู้ถือหุ้น แต่มิใช่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ที่มีอำนาจในการบริหารงานของ บริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) หรือ KSL Group”
ทั้งนี้ นายชัชชัย ชินธรรมมิตร ดำรงตำแหน่ง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ประจวบอุตสาหกรรม จำกัด หรือ โรงงานน้ำตาลประจวบอุตสาหกรรม ซึ่งตั้งอยู่ใน อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี
นายสรสิทธิ์ ชลิศราพงศ์ อดีตประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดลำพูน ตัวแทน จ.ลำพูน
กลุ่มที่ 13 กลุ่มผู้ประกอบอาชีพด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีการสื่อสารการพัฒนานวัตกรรม มีผู้ผ่านเข้าสู่ระดับประเทศ เช่น
นายภาวุธ พงษ์วิทยภานุ ตัวแทน จ.กาญจนบุรี โดยเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง Creden.co, PaySolutions ผู้คร่ำหวอดในแวดวงอีคอมเมิร์ซเป็นหนึ่งในนักธุรกิจด้านเทคดิจิทัลของไทย เป็นผู้ก่อตั้ง TARAD.com สร้างแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ โดยมีบทบาทผลักดันอุตสาหกรรมออนไลน์ในไทย จนได้ชื่อว่า “เจ้าพ่ออีคอมเมิร์ซ” รวมถึง “ไอคอนอินเทอร์เน็ต”
นายประเวทย์ ตันติสัจธรรม ตัวแทนกรุงเทพมหานคร ปัจจุบันเป็นนายกสมาคมไทยบล็อกเชน เป็นหนึ่งในผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการผลักดันเทคโนโลยีบล็อกเชนบิตคอยน์ คริปโทเคอร์เรนซี ในไทยทั้งเคยเป็นผู้เสนอแนวทางเกี่ยวกับนโยบายทิศทางบล็อกเชนและคริปโทเคอร์เรนซีรวมถึงประเด็นเรื่องภาษีที่เกี่ยวข้องในยุคที่บล็อกเชนและคริปโทฯ
นายประมนต์ สุธีวงศ์ สมาชิกวุฒิสภา และอดีตประธานหอการค้าไทย กล่าวว่า สว.จะเข้ามาทำหน้าที่ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดทั้งการเลือกแต่งตั้งบุคคลเข้าสู่องค์กรอิสระ เช่น ศาลรัฐธรรมนูญ คณะกรรมการการเลือกตั้ง รวมถึงการพิจารณาร่างกฎหมาย
ทั้งนี้ สว.จากภาคธุรกิจปฏิบัติหน้าที่ตามที่ถนัด โดยการผลักดันร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจนั้น รัฐบาลเป็นผู้เสนอและ สว.ทำหน้าที่กลั่นกรองกฎหมาย เช่น กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับน้ำตาล กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเจรจาหรือความร่วมมือต่างประเทศ ซึ่ง สว.ภาคธุรกิจที่มีความรู้มีประสบการณ์ให้ความเห็นต่อร่างกฎหมายดังกล่าวเพื่อปรับปรุงให้รอบคอบขึ้น
ส่วนตัวที่เข้ามาเป็น สว.ต้องการติดตามและผลักดันการปฏิรูปตามยุทธศาสตร์ชาติ แต่ต้องยอมรับว่าการทำงานไม่ได้ประสบความสำเร็จทั้งหมด เพราะการปฏิรูปมีหลายเรื่องและเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงานที่ต้องเปลี่ยนแปลง โดยบางส่วนให้ความร่วมมือและบางความล่าช้า แต่ถือว่าดีระดับหนึ่ง
“ผมให้น้ำหนักกับการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น โดยติดตามการทำงานของภาครัฐ การอำนวยความสะดวกในการติดต่อภาครัฐไม่ว่าจะเป็นประชาชนหรือภาคธุรกิจ ซึ่งมีหลายเรื่องและมีรายละเอียดอีกมาก” นายประมนต์ กล่าว
นายประมนต์ กล่าวว่า ส.ว.ชุดใหม่ที่จะเข้ามาแต่ละคนมีความรู้ความชำนาญต่างกัน ซึ่งวุฒิสภามีทั้งเรื่องการเมือง สังคมและเศรษฐกิจ ขึ้นแต่ละคนจะมุ่งเป้าทำงานด้านไหน ดังนั้นไม่ควรมองว่าต้องเป็นภาคธุรกิจเท่านั้นที่จะมาดูเรื่องธุรกิจ เศรษฐกิจ แล้วแต่ความรู้ความชำนาญและต้องการเข้าไปทำงานส่วนไหน
สำหรับสถานการณ์เศรษฐกิจขณะนี้สถานการณ์ไม่ค่อยดีนัก โดยหลายฝ่ายเสนอแนวทางแก้ไขก็เป็นหน้าที่รัฐบาลรับไปแก้ไข เช่น หนี้สาธารณะ หนี้ส่วนบุคคลเพิ่มมากขึ้น จึงเป็นเรื่องที่ต้องทำให้ประชาชนมีรายได้มากขึ้น ทำเศรษฐกิจให้ฟื้นทั้งการส่งเสริมการท่องเที่ยวและส่งเสริมธุรกิจอื่นที่ซบเซาให้ฟื้น