คืบหน้า! มัสยิดแจง กรณีชาวบ้านร้องละหมาดเสียงดัง-ส.ส.โป้ง ลงพื้นที่สอบ
คืบหน้า! มัสยิดแจง กรณีชาวบ้านร้องละหมาดเสียงดัง-ส.ส.โป้ง ลงพื้นที่สอบ
จากกรณี น.ส.ธนันญรินทร์ ได้นำหลักฐานเดินทางเข้าร้องเรียนกับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กรณีซื้อหมู่บ้านหรู หวังอยู่แบบสงบ แต่ต้องมาเจอมัดยิด ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านกว่า 1 กม. เพิ่มลำโพง ทำพิธีละหมาดประกาศออกเสียงตามสายดังสนั่น
จนชาวบ้านรวมตัวไปแจ้งหน่วยงานราชการ เพื่อขอให้ช่วยเจรจาแก้ปัญหาลดเสียงเพื่ออยู่ร่วมกัน
แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่ด่ากลับ เนื่องจาก เจ้าหน้าที่เป็นมุสลิม ชาวบ้านหลายคนต้องพบจิตแพทย์ ต้องกินยานอนหลับ จึงมาร้องเรียนกับ เพจสายไหมต้องรอด เพื่อช่วยเป็นคนกลางในการเจรจาลดเสียงลงเพื่ออยู่ร่วมกัน
ล่าสุดวันที่ 2 พ.ค. 2567 นายเกียรติคุณ ต้นยาง สส.พรรคก้าวไกล เขต 7 ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบนายวันชัย ระดิ่งหิน ตำแหน่งอิหม่าม เพื่อขอความร่วมมือหาทางออกลดเสียงเวลาทำพิธีละหมาดที่รบกวนประชาชน พร้อมลงพื้นที่มัสยิดดูเครื่องเสียง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบได้ประสานไปทางบริษัทที่ซื้อเครื่องเสียงมา ให้ปรับลดเสียงลงเนื่องจากเครื่องเสียงเป็นระบบดิจิตอล
นายวันชัย ระดิ่งหิน กล่าวว่า บางครั้งคนเปิดก็ไม่รู้ว่าเปิดดังหรือเบา นอกจากคนฟังรู้สึกว่าเสียงมันเบาหรือดังขนาดไหน หลายครั้งตนก็ให้คนไปฟังเขาก็บอกว่าไม่ค่อยดัง ปกติทั่วไป ตอนนี้ก็ได้ทำเสียงใหม่หมดไปประมาน 4 แสนกว่าบาท พร้อมชี้แจงว่า จุดหมายจริง ๆ ที่คณะกรรมการดำเนินการดังกล่าว คือ ทำเพื่อประกาศให้ประชาชนรู้กันทั่วถึง
ซึ่งบางครั้ง ตนเปิดให้ทางการมาใช้บ่อยมาก ไม่ว่าจะเป็นสาธารณะสุข เทศบาล อสม. ซึ่งใน 1 วัน เปิดละหมาด 5 เวลา ได้แก่
- เวลาแรก ประมาณ 05.00 น. ช่วงเวลานี้จะเงียบ อาจจะทำให้เสียงดัง
- เวลาที่สอง เวลา 12.30 น.
- เวลาที่สาม เวลา 15.00 น.
- เวลาที่สี่ เวลา 18.30 น.
- และเวลาที่ห้า เวลา 20.00 น.
โดยมัสยิดจะเปิดลำโพงละหมาดไม่เกิน 3-4 นาทีในแต่ละครั้ง ตอนนี้ตนก็ได้ปรับลงแล้ว จาก 4 วอลุ่ม เหลือ 2 วอลุ่ม พร้อมถามคนในหมู่บ้าน ไม่ใช่แค่เฉพาะคนไทยพุทธ แต่มีมุสลิมที่อยู่ด้วยจากที่ตนได้ไปถาม คือเสียงไม่ค่อยดังแล้ว อยู่ข้างในเสียงมันเลยก้อง เพราะติดกับหมู่บ้าน บางครั้งเสียงอาจจะสะท้อน ถ้าอยู่ในบ้านเสียงก็จะไม่ดังเท่าไหร่ ถ้าออกมาข้างนอกเสียงก็จะดังขึ้น พอพ้นจาก 4 นาที ทางมัสยิดก็จะปิดเป็นเสียงภายใน จะไม่ปล่อยเป็นเสียงภายนอก เวลาจะทำกิจกรรมอะไรก็จะเป็นเสียงภายในทั้งหมด
ทางนิติบุคคล กล่าวว่า ในระบบเสียงของเขามันเป็นระบบล็อกความดัง ถ้าจะให้มีการแก้ไขลดวอลลุ่มเสียง ต้องติดต่อบริษัทที่ขายชุดขยายเสียงให้เขา ทางเขาจะปรับทิศทางลำโพงให้เรา เขาขอระยะเวลา 1 เดือน ถ้าทางเรายังไม่พอใจ ก็ให้ไปติดต่อทางเทศบาลอีกครั้ง เพื่อที่จะนัดกับกรมสิ่งแวดล้อมมา
ซึ่งเทศบาลแจ้งว่า ถ้าจะให้กรมสิ่งแวดล้อมมาวัดค่าเสียงเดซิเบล ขั้นต่ำต้องรอ 6 เดือน เพราะว่าต้องดูแลพื้นที่อื่น ๆ ด้วย ทางนิติบุคคลก็ตกลง หลังจากนี้ 15 วันจะส่งหนังสือ MoU ที่ได้ตกลงกันไว้ ในส่วนของลูกบ้าน ตนไม่ทราบว่าร้องเรียนไปที่ไหนบ้าง คงเจอแบบนี้มานานแล้ว แต่ตนมาอยู่ได้แค่ 1 เดือน ตนก็ได้ทำในสิ่งที่ตนได้รับเรื่องมา
แต่ในทางด้านกฏหมาย ตนจะไม่ดำเนินการให้ลูกบ้าน และได้แจ้งลูกบ้านไปแล้ว เพราะเกินขอบเขตการทำงานของเรา ซึ่งถ้าอยู่ในห้องจะไม่ได้ยินเสียง แต่ถ้าตอนออกมาเข้าห้องน้ำ หรือไปตรวจโครงการก็จะได้ยิน ประมาน 3-4 นาที ซึ่งเป็นการร้องเรียกว่าหลังจากนี้จะมีการละหมาด หลังจากนั้นเขาก็จะตัดไปใช้ลำโพงภายใน
โดยทางมัสยิดใช้ลำโพง 2 ระบบ ทำให้บางครั้งลูกบ้านกลัวเสียงเอื้อน เช่น ช่วงเวลา 4.50 น. ซึ่งเป็นเวลาเช้ามืด ถ้าหากจะให้เขาถอดลำโพงไปเลย ไม่ให้เปิด ตนก็มองว่าคนละครึ่งทางดีกว่า เพราะเขาก็มีศาสนาของเขา เราก็มีศาสนาของเราเหมือนกัน ซึ่งลูกบ้านบางคนก็ไม่ได้คิดเหมือนกัน ลูกบ้านที่ไปร้องเรียนเมื่อวานก็มี 10 กว่าหลัง ซึ่งก็มีลูกบ้าน 1 หลังมาแจ้งตนว่าเสียงลดลงแล้ว
ด้าน นายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือ ทนายโป้ง ว่าที่ ส.ส.พรรคก้าวไกล เขต 7 จังหวัดนนทบุรี กล่าวว่า ได้มีการยื่นข้อเสนอมาทางตนว่า อยากให้ตนมาประสานไปทางผู้ร้อง และทางนิติของหมู่บ้าน ว่าอยากให้มีการพูดคุย จะให้เดินทางมาคุยที่มัสยิด หรือเดินทางไปคุยที่หมู่บ้าน เพื่อที่จะไปฟังเสียงที่ท่านได้ยินตรงนั้นใน 5 เวลาดังกล่าว ว่ามันดังเกินความจำเป็นหรือว่าไปรบกวนความเป็นอยู่ของผู้ร้องหรือไม่
ถ้ามันเกินความจำเป็น และรบกวนความเป็นอยู่ของผู้ร้องจริง ทางมัสยิด ทางอิหม่าม หรือทางท่านประเสริฐ ที่เป็นกรรมการของมัสยิด ก็พร้อมที่จะปรับลดความดัง อยู่ในระดับที่สามารถประกอบศาสนกิจได้
ส่วนพี่น้องประชาชนที่คิดว่าได้รับความเดือดร้อน ก็จะได้อยู่อาศัยได้เป็นปกติ หรืออาจจะรบกวนเล็กน้อยตามช่วงเวลา ก็ต้องรอทั้งสองฝ่ายมาพูดคุยกัน ตนจะเป็นธุระในการประสานทั้งนิติบุคคลและทางผู้ร้องต่าง ๆ มาพูดคุยหาจุดตรงกลางให้อยู่ด้วยกัน
ซึ่งตนก็เห็นใจ ถ้าจะให้ปิดเลยคงเป็นไปไม่ได้ เพราะเขาต้องประกอบศาสนกิจ แต่ก็ต้องอยู่ในความจำเป็นที่ต้องประกอบศาสนกิจ เพื่อให้ไม่ไปรบกวนการพักอาศัยของพี่น้องประชาชน