ยอดเงินรายได้อุทยานพุ่ง9เดือน ‘พันเจ็ดร้อยกว่าล้าน’ แซงหน้าปีก่อนทั้งปี พันสี่ร้อยล้าน เกาะพีพีแชมป์เก็บได้500 ล้าน
ภาพประกอบข่าว
ยอดเงินรายได้อุทยานพุ่ง9เดือน ‘พันเจ็ดร้อยกว่าล้าน’ แซงหน้าปีก่อนทั้งปี พันสี่ร้อยล้าน เกาะพีพีแชมป์ 500 ล้าน
วันที่ 22 มิถุนายน นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มอบนโยบายให้กรมอุทยานแห่งชาติฯ เร่งเพิ่มศักยภาพและพัฒนาพื้นที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ โดยการนำเงินอุทยานแห่งชาติที่จัดเก็บได้ ไปใช้ในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวตลอดจนระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ภายในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ เพื่ออำนวยความสะดวกและตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวให้ได้รับความพึงพอใจต่อการเข้ามาใช้บริการในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ และเน้นย้ำการจัดเก็บเงินอุทยานฯและใช้จ่ายงบอย่างโปร่งใส
นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ ได้เปิดเผยข้อมูลยอดการจัดเก็บเงินอุทยานแห่งชาติ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 ถึงปัจจุบัน (20 มิถุนายน 2567) ปรากฏว่ามียอดการจัดเก็บเงินอุทยานแห่งชาติ เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 1,785,493,410 บาท ซึ่งเป็นยอดสถิติการจัดเก็บเงินอุทยานแห่งชาติ ที่สามารถจัดเก็บเงินจนแซงหน้ายอดการจัดเก็บเงินอุทยานแห่งชาติ ทั้งปีของปี พ.ศ.2566 ไปแล้ว โดยในปี พ.ศ.2566 จัดเก็บเงินอุทยานแห่งชาติทั้งปีได้จำนวน 1,467,641,971 บาท
จากยอดการจัดเก็บเงินอุทยานแห่งชาติที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว มีปัจจัยมาจากจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เพิ่มมากขึ้น ตามนโยบายของรัฐบาลที่ส่งเสริมและสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทางทะเล ทั้งฝั่งอันดามันและฝั่งอ่าวไทย ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่สวยงาม จนทำให้เป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญ ในการตัดสินใจของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ในการเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย ประกอบกับการจัดอันดับแหล่งท่องเที่ยวชายหาดที่สวยงามของโลก โดยมีเกาะกระดานในเขตอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จังหวัดตรัง ที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นชายหาดที่มีความสวยงามในระดับโลก จึงส่งผลให้แหล่งท่องเที่ยวทางทะเลอื่นๆ ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติด้วยเช่นกัน โดยอุทยานแห่งชาติที่สามารถจัดเก็บเงินได้สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่
ภาพประกอบข่าว
1. อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี 500,866,577 บาท
2. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน 243,655,470 บาท
3. อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด 127,820,710 บาท
4. อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา 114,226,610 บาท
5. อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ 100,545,505 บาท
นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า โดยการจัดเก็บเงินของอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ซึ่งเป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่สามารถจัดเก็บเงินรายได้เป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2566 ถึงปัจจุบัน (วันที่ 20 มิถุนายน 2567) สามารถจัดเก็บเงินได้จำนวนทั้งสิ้น 500,279,247 บาท ซึ่งเป็นสถิติการจัดเก็บเงินอุทยานแห่งชาติ ที่สามารถจะเก็บเงินจนแซงหน้ายอดการจัดเก็บเงิน ในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 ไปแล้วกว่า 300 ล้านบาท โดยยอดการจัดเก็บเงินของอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราฯ ระหว่างเดือนตุลาคม 2565 ถึงเดือนมิถุนายน 2566 เป็นจำนวนเงิน 208,572,803 บาท โดยสถิตินักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เปรียบเทียบในช่วงเวลาเดียวกัน ระหว่างปี พ.ศ.2566 จำนวน 2,660,308 คน และปี พ.ศ. 2567 จำนวน 4,548,762 คน เพิ่มขึ้นถึง 1,888,454 คน หรือคิดเป็น 41.5 %
สำหรับเงินอุทยานแห่งชาติซึ่งจัดเก็บได้ จะถูกนำมาใช้จ่ายเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในพื้นที่โซนบริการของอุทยานแห่งชาติ ใช้จ่ายเป็นค่าจ้างให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน การพัฒนาองค์ความรู้ของบุคลากรในหน่วยงาน ตลอดจนการจัดสรรเงินส่วนหนึ่งให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกับอุทยานแห่งชาติ 5% อยู่ที่ประมาณ 80 กว่าล้านบาท สำหรับการพิจารณาใช้จ่ายเงินอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติฯได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาการใช้จ่ายเงินอุทยานแห่งชาติ
นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า โดยมีผู้แทนจากองค์กรภายนอกอันเป็นที่ยอมรับและน่าเชื่อถือ ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจากสถาบันการศึกษา ตลอดจนองค์กรอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันพิจารณาการใช้จ่ายเงินอุทยานแห่งชาติ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการบริหารจัดการอุทยานแห่งชาติในประเทศไทย ตลอดจนภาคีเครือข่ายต่างๆ ที่อยู่โดยรอบ อีกทั้งที่ผ่านมากรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้ดำเนินการพัฒนาการจัดเก็บเงินอุทยานแห่งชาติให้เกิดความโปร่งใส ร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จนส่งผลให้ยอดการจัดเก็บเงินอุทยานแห่งชาติเพิ่มขึ้นตามลำดับ ตลอดจนการนำเงินอุทยานฯไปใช้จ่ายให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด โปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน
“ข่าวดีสำหรับพิทักษ์ป่าของกรมอุทยานคือ ทุกคนที่เดินลาดตระเวนป่า ทุก 14 วัน จะได้รับเงินเข้าบัญชีทันที 2,000 บาททั่วประเทศ มีเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าสังกัดกรมอุทยาน ประมาณ 5,600 คน จะได้รับทุกคนที่เดินลาดตระเวน และจะจัดเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการทำงานด้วย เช่น ซื้อโดรนให้ทุกอุทยาน โดรนใต้น้ำสำหรับสำรวจปะการัง ในอุทยานทางทะเล อุปกรณ์เดินป่า เช่น เปลสนาม ชุดสนาม โดยให้จัดซื้อ เฉลี่ยหัวละ 1,000 บาท” นายชัยวัฒน์ กล่าว
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ยอดเงินรายได้อุทยานพุ่ง9เดือน ‘พันเจ็ดร้อยกว่าล้าน’ แซงหน้าปีก่อนทั้งปี พันสี่ร้อยล้าน เกาะพีพีแชมป์เก็บได้500 ล้าน
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th