ส่องยอดขายรถ 5 เดือนแรกปี 67 เช็คเลยยี่ห้อไหนขายดีสุด 10 อันดับแรก
ภาพรวมตลาดรถยนต์ในไทยยังคงร่วง ดังจะเห็นจากยอดขายตั้งแต่มกราคม -พฤษภาคม 2567 ที่ทำได้ 260,365 คัน ลดลง 23.8% โดยในเซกเมนต์ที่ตัวเลขการขายหดตัวลงอย่างรุนแรงคือ รถเพื่อการพาณิชย์ อย่าง พวกรถปิกอัพ พีพีวี ที่มียอดขาย 5 เดือนแรกของปีอยู่ที่ 91,765 คัน ลดลง 41% อย่างไรก็ตามในกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้า xEV ยังคงมีอัตราการขายที่เติบโต
เปิด 10 ยี่ห้อรถยนต์ที่ขายดีสุด 5 เดือนแรก(ม.ค.-พ.ค.)ปี 67
ยอดขายรถยนต์ตั้งแต่เดือน มกราคม - พฤษภาคม 2567 แบ่งออกเป็นเซกเมนต์ต่างๆ
ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 260,365 คัน ลดลง 23.8%
- อันดับ1 โตโยต้า 97,736 คัน ลดลง 15.7% ส่วนแบ่งตลาด 37.5%
- อันดับ 2 อีซูซุ 39,183 คัน ลดลง 46.9% ส่วนแบ่งตลาด 15%
-
อันดับ 3 ฮอนด้า 37,374 คัน ลดลง 4.3% ส่วนแบ่งตลาด 14.4%
ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 101,589 คัน ลดลง 17.9%
- อันดับ 1 โตโยต้า 27,892 คัน ลดลง 36.1% ส่วนแบ่งตลาด 27.5%
- อันดับ 2 ฮอนด้า 21,250 คัน ลดลง 18.2% ส่วนแบ่งตลาด 20.9%
- อันดับ 3 มิตซูบิชิ 8,191 คัน ลดลง 0.4% ส่วนแบ่งตลาด 8.1%
ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย158,776 คัน ลดลง 27.1%
- อันดับ 1 โตโยต้า 69,844 คัน ลดลง 3.5% ส่วนแบ่งตลาด 44%
- อันดับ 2 อีซูซุ 39,183 คัน ลดลง 46.9% ส่วนแบ่งตลาด 24.7%
- อันดับ 3 ฮอนด้า 16,124 คัน เพิ่มขึ้น 23.2% ส่วนแบ่งตลาด 10.2%
ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 91,765 คัน ลดลง 41%
- อันดับ 1 โตโยต้า 41,750 คัน ลดลง 30.1% ส่วนแบ่งตลาด 45.5%
- อันดับ 2 อีซูซุ 34,445 คัน ลดลง 49% ส่วนแบ่งตลาด 37.5%
- อันดับ 3 ฟอร์ด 9,645 คัน ลดลง 42.9% ส่วนแบ่งตลาด 10.5%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 16,255 คัน
โตโยต้า 5,999 คัน ,อีซูซุ 5,110 คัน ,ฟอร์ด3,694 คัน ,มิตซูบิชิ 1,255 คัน , นิสสัน 197 คัน
ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 75,510 คัน ลดลง 40.8%
- อันดับ 1 โตโยต้า 35,751 คัน ลดลง 27.8% ส่วนแบ่งตลาด 47.3%
- อันดับ 2 อีซูซุ 29,335 คัน ลดลง 49.1% ส่วนแบ่งตลาด 38.8%
- อันดับ 3 ฟอร์ด 5,951 คัน ลดลง49.6% ส่วนแบ่งตลาด 7.9%
ยานยนต์ไฟฟ้ายังคงมียอดขายเติบโต สวนทางตลาดรถยนต์รวมที่หดตัวลง
โตโยต้า คาดตลาดรถมิ.ย.67 ยังคงชะลอตัว
นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มของตลาดรถยนต์ในเดือนมิถุนายน 2567 คาดว่าจะดีขึ้นจากเดือนพฤษภาคม อย่างไรก็ตามมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลดลง เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งเป็นผลมาจากสภาวะเศรษฐกิจในภาพรวม รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ยังคงฟื้นตัวช้าและอัตราการปฏิเสธสินเชื่อยังคงตัวในระดับสูง
โตโยต้า คาดตลาดรถมิ.ย.67 ยังคงชะลอตัว
ส.อ.ท.เผยแบงก์คุมเข้มสินเชื่อ กระทบการขายรถใหม่
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ปัจจัยหลักที่ทำให้ยอดขายรถใหม่ในประเทศหดตัวลงนั้น เป็นเพราะสถาบันการเงินเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อ เนื่องจากหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง รวมทั้งเศรษฐกิจในประเทศขยายตัวในอัตราต่ำจากการล่าช้าของงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567
จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้การลงทุนของภาครัฐลดลง โดยดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลงติดต่อกันมากกว่าสิบเดือน โรงงานหลายแห่งลดเวลาทำงานลงและมีการเลิกจ้างพนักงานหลายหมื่นคน ทำให้ขาดรายได้ ประชาชนจึงระมัดระวังการใช้จ่ายเพราะความไม่แน่นอนในเรื่องรายได้รวมทั้งค่าอาหาร ค่าเดินทางและพลังงานมีราคาสูงขึ้น
"สถาบันการเงินมีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่ออย่างมาก เพราะกังวลเรื่องหนี้ครัวเรือน อย่างไรก็ตามหากในช่วงครึ่งปีหลังรัฐฯมีการอนุมัติเงินงบประมาณรายจ่ายต่างๆออกมา รวมไปถึงแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็คาดว่าภาพรวมเศรษฐกิจไทยก็น่าจะดีขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็คาดหวังว่าต้นทุนราคาสินค้าต่างๆจะไม่ขึ้นตามไปด้วย ส่วนเศรษฐกิจจะขยายตัวถึง 3 % หรือไม่ ยังน่ากังวลถ้ายอดผลิตรถยนต์และขายรถยนต์ และขายอสังหาริมทรัพย์ยังติดลบ เพราะทั้งสองอุตสาหกรรมมีอุตสาหกรรมต่อเนื่องและแรงงานมากซึ่งจะส่งผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศมาก"
ส.อ.ท.เผยแบงก์คุมเข้มสินเชื่อ กระทบการขายรถใหม่