คู่กรณีแม่เจสซี่ โต้ขอเคลียร์เงินแล้ว แต่ไม่ยอมคุย
คู่กรณีแม่เจสซี่ โต้ขอเคลียร์เงินแล้ว แต่ไม่ยอมคุย
“กานต์ พิม เบียร์” คู่กรณีแม่เจสซี่ ร้องทนายรัชพล โต้ขอเคลียร์เงินแล้วแต่แม่ไม่ยอม
เมื่อวันที่16มิ.ย.67นางสาวกานต์ น้องพิม และนายเบียร์ เดินทางมาที่สำนักงานทนายรัชพล ศิริสาคร อ.เมือง จ.นนทบุรี เพื่อขอปรึกษากรณีที่แม่ของเจสซี่ ไปร้องทนายรณรงค์แล้วเรียกเงินครอบครัวหลักล้าน
โดยนายเบียร์ บอกว่า ก่อนหน้านี้ตนเองก็เข้าอกเข้าใจแม่ของเจสซี่มาตลอด และยอมรับผิดที่ทำให้ครอบครัวของเขาเดือดร้อน แต่เมื่อได้มาดูหลักฐานและข้อเท็จจริงพูดคุยกับกานต์และน้องพิมพ์แล้ว ก็ทราบข้อมูลว่า เงินที่โอนมาให้ ที่มีหลักฐานมีประมาณ 400,000บาท และหลังจากเกิดเหตุขึ้น ทางครอบครัวได้พูดคุยกันแล้วตกลงกันแล้วว่าจะชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด ให้กับแม่เจสซี่ และพยายามติดต่อไปเพื่อเจรจาไกล่เกลี่ย แต่แม่ของเจสซี่ ก็ไม่ยอม และจู่ ๆ ก็มาร้องทนายรณรงค์ จึงทำให้วันนี้พวกตนต้องมาร้องขอความช่วยเหลือจากทนายรัชพล หลักๆ คื อต้องการคืนเงินให้ตามที่ได้เอาไปจริง
ขณะที่นางสาวกานต์ กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยกับเจสซี่จริง ตอนนั้นเจสซี่ได้ยุติความสัมพันธ์กับลูกสาวแล้ว แต่ยังมีการพูดคุยเรื่องเงินอยู่ เจสซี่มาปรึกษาลูกสาวว่าจะทำยังไงกับเรื่องเงินดี หลังจากนั้นทางครอบครัวตนได้มีการปรึกษากันว่า จะไกล่เกลี่ย หรือจะชดใช้เงินให้กับทางครอบครัวเจสซี่ยังไง
ส่วนเรื่องเงินเจสซี่ ไม่ได้นำเงินมาให้ตน แต่เจสซี่ให้ลูกสาวตั้งแต่ตอนคบกัน และชดใช้ไปหมดแล้ว
ส่วนข่าวบอกว่าตนหนีไปกับเจสซี่ หอบเงินไปด้วยนั้น ไม่เป็นความจริ งเรื่องเงินไม่เคยมาถึงตน จึงอยากจะบอกกับครอบครัวของเจสซี่ ไม่อยากให้เป็นเรื่องราวใหญ่โต ตนอยากให้มาพูดคุยตกลงไกล่เกลี่ยกันทางตนพร้อมจะเจรจาชดใช้เงินให้อยากบอกบอกแม่เจสซี่ทางคุณแม่อยากได้เงินอยากให้มาตกลงกันแต่แม่ยังไม่หยุดไปร้องสื่อร้องทนายตนอยากให้เรื่องจบทางครอบครัวพร้อมจะรับผิดชอบ
นายเบียร์ กล่าวว่าตนชดใช้ในการกระทำที่ลูกของตนเอาเงินมาจริงแต่ยอดขึ้นมาเรื่อยๆตนอยากขอโทษพ่อกับเจสซี่ แต่ไม่ขอโทษแม่ ตนรู้สึกว่าลูกสาวของตนทำให้เจสซี่หมดอนาคตในเรื่องการเรียน เมื่อวาน(15มิ.ย.67)ตนพร้อมที่จะไปพูดคุยเพื่อจะขอไกล่เกลี่ยชำระเป็นรายเดือน แต่มารู้ข่าวว่าครอบครัวเจสซี่ไปร้องทนาย ตนไปนั่งรอที่โรงพักกับทางเจ้าของคดี แต่ไม่มีใครมาเลยลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ตามที่ดูข่าวยอดที่จะให้ตนชำระ 1,300,000 บาท แต่หลักฐานในการโอนเงินเข้ามาถึงทางครอบครัวตนรวมแล้วเกือบ400,000 บาท ตนอยากชดใช้ส่วนที่ลูกเอามาจริงๆ
ส่วนเรื่องที่พี่ชายของฝั่งเจสซี่ มีการโพสต์ตามหาคนหายโพสต์ว่า"รบกวนใครที่เป็นเพื่อนของบุคคลในรูปติดต่อ และรู้ที่อยู่บุคคลในรูปได้รบกวนทิ้งเมนต์ไว้เดี๋ยวติดต่อไปบุคคลในรูปนี้มีหมายจับจากตำรวจ" อันนี้เข้าข่ายหมิ่นประมาทซึ่งไม่ได้เป็นความจริงลงภาพลูกสาวของตนโดยไม่เบลอหน้ามันผิดพรบ.คอมหรือไม่
ขณะที่ทนายรัชพล กล่าวว่า เมื่อวาน (15มิ.ย.)แม่น้องเจสซี่ไปร้องทนายตนสงสัยว่า วันที่ไปสน.หนองปรือ ตนเชิญให้มาไกล่เกลี่ยว่าจะชำระหนี้กันที่ไหนอย่างไรเข้าบัญชีใคร แต่แม่บอกว่าไม่ไกล่เกลี่ยอะไรทั้งนั้นแม่บอกรอstatemen tพอstatementออกมา ก็ไม่เห็นแจ้งอะไรกลับมา ทำให้ฝ่ายคุณเบียร์ ไม่รู้ว่าจะชำระหนี้ได้ที่ไหน บัญชีใคร จึงอยากรู้ว่าอีกฝ่ายต้องการอะไรกันแน่ และการที่มากล่าวอ้างมาว่า ทางครอบครัวคุณเบียร์ นำเงินไป คุณก็ต้องเป็นฝ่ายพิสูจน์ ซึ่งทางครอบครัวคุณเบียร์ยอมรับมีเงินส่วนหนึ่งที่โอนเข้ามาแต่ส่วนที่เหลือต้องพิสูจน์ให้ได้ ต้องดูว่าคนโอนเงินมาเอาไปใช้อะไร หรือโอนให้ทางครอบครัวคุณเบียร์หมดเลยหรือไม่
ถ้าพิสูจน์ไม่ได้จะให้ทางครอบครัวคุณเบียร์ จ่ายตามยอดทั้งหมดก็คงไม่ได้ ตามกฎหมาย เงินจำนวนทั้งหมดไม่ว่าเท่าไหร่ก็ตามเรียกว่าลาภไม่ควรได้ แต่ลาภลอยที่ได้มา ได้มาโดยสุจริตไม่ได้มีการลักทรัพย์ของเจสซี่ จะคืนเท่าที่เหลือ ถ้าไม่เหลือก็ไม่ต้องคืนตามกฎหมายเป็นแบบนั้น
แต่ทางคุณเบียร์ ยินดีที่จะคืน ถือเป็นความดีของคุณเบียร์ไป แม่จะมาโวยวายว่าไม่จ่ายมันไม่ใช่เพราะทางคุณเบียร์ พร้อมที่จะไกล่เกลี่ยแต่รายละเอียดการชำระเงินไม่มี เมื่อวานไปที่สน.หนองปรือไปลงบันทึกประจำวันไว้นั่งรอตั้งนาน แต่คู่กรณีไม่ยอมมา จึงมองว่าทางแม่ต้องการอะไรกันแน่ จริงๆแล้วเรื่องนี้เจสซี่เป็นคนทำผิด เจสซี่เป็นเด็ก ต้องร่วมรับผิดชอบด้วย พ่อแม่ต้องร่วมรับผิดชอบเช่นกันไม่ใช่ว่าจะเอาผิดฝ่ายเดียวตามกฎหมายเป็นแบบนั้น ไม่เข้าใจว่าแม่ไปออกสื่อต้องการอะไร อยากให้มาพูดคุยกัน ไปออกสื่อจะได้คุยกันเมื่อไหร่ เมื่อวานครบกำหนดที่ตกลงกันไว้ทางคุณเบียร์ ก็ไปรอที่โรงพักแต่ไม่มีใครมา ก็เลยต้องลงบันทึกไว้ตกลงจะไม่เอาเงินหรืออย่างไร
อ่านข่าวต้นฉบับ:
อมรินทร์ทีวี ทันข่าวได้ที่
เว็บไซต์:www.amarintv.com
เรื่องธุรกิจที่ :ติดตาม SPOTLIGHT มองขาดทุกโอกาสธุรกิจ