ดรามา! กลุ่มสร้างวัตถุมงคลนำโลหิตธาตุ “หลวงพ่อคูณ” มาเป็นมวลสาร
ดรามา! กลุ่มสร้างวัตถุมงคลนำโลหิตธาตุ “หลวงพ่อคูณ” มาเป็นมวลสาร
จากกรณีเพจดังโพสต์รูปพร้อมข้อความว่า “ผมเข้าใจถึงความศรัทธาและการรวบรวมมวลสาร คงไม่ไปก้าวล่วง แต่อันนี้ไม่น่าจะเหมาะสมเท่าไหร่ เป็นสิ่งส่งตรวจของผู้ป่วยในโรงพยาบาล ต้องเคารพสิทธิ แอบเอาออกมาได้ยังไง ใครให้?” จากกรณีดังกล่าวนี้ในรูปภาพเป็นรูปหลอดเลือดของพระเกจิอาจารย์ชื่อดังที่ล่วงลับ คือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เกจิดังแห่งวัดบ้านไร่ และหลอดเลือดดังกล่าวจะเป็น 1 ในมวลสารที่จะไปจัดทำวัตถุมงคล
แฉ! ก่อนเรือบรรทุกน้ำมันล่องหน ลูกเรือกักตุนเสบียงเพียบ
แอดมิน เชื่อมจิต บุกกองปราบ ร้องเอาผิดสื่อ ทำให้“น้องไนซ์”เสื่อมเสีย
ซึ่งหลากหลายความเห็นก็พูดตรงกันว่าไปเอามาได้อย่างไร หรือ จะเป็นการซื้อออกมาในราคาหลักล้าน
ล่าสุด วันนี้ 14 มิ.ย. 2567 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่วัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ได้พูดคุยกับ นายสนอง หวังหยิบกลาง ประธานกรรมการบริหาร โครงการวัดบ้านไร่สร้างหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ องค์ใหญ่ เผยว่า ตนมองว่าไม่เหมาะสม เพราะที่ผ่านมาการจัดตั้งวัตถุมงคลก็ไม่เคยมีการนำเลือดของครูบาอาจารย์ท่านใดมาจัดสร้าง ยิ่งเป็นโลหิตธาตุของหลวงพ่อคูณยิ่งไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง และคำถามอยากจะทราบว่าไปนำโลหิตธาตุของหลวงพ่อคูณมาจากไหน ซึ่งจัดการดูแล้วพบว่ามีการระบุชื่อหลวงพ่อคูณอย่างชัดเจนและอายุ 82 ปี
โดยตนเองก็ไม่มั่นใจว่าเป็นเลือดของจริงหรือไม่ เนื่องจากว่าหลวงพ่อคูณมรณภาพตอนอายุ 92 ปี ซึ่งจะห่างกันประมาณ 5 ปี จึงอยากรู้ว่าไปเอามาจากที่ใด อยากให้ทางคณะผู้จัดออกมาชี้แจงว่าไปเอามาจากไหน เพื่อให้สังคมได้รับทราบ เพราะปกติเลือดของหลวงพ่อคูณจะต้องอยู่ที่โรงพยาบาลเท่านั้น ขณะนี้ได้มีการปรึกษากับทางทีมกฎหมาย เพื่อหารือกับเรื่องดังกล่าว ว่าผิดข้อกฎหมายอะไรบ้าง ในสวนทางวัดบ้านไร่เวลาจะสร้างวัตถุมงคล ก็จะมีแค่มวลสารของพระเก่า และเกศาของหลวงพ่อคูณ ไม่เคยมีอัฐิหรือแม้แต่โลหิตธาตุของหลวงพ่อคูณมาอยู่ในขั้นตอนการจัดตั้งแต่อย่างใด จึงแปลกใจว่าไปนำมาจากไหน
ด้านนพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลนครราชสีมา ผู้ดูแลหลวงพ่อคูณปริสุทโธ เปิดเผยทางโทรศัพท์ว่า เห็นข่าวอยู่เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ตามระเบียบแล้วเลือดของคนไข้จะไม่สามารถที่จะนำไปให้บุคคลภายนอกได้ เพราะเป็นระบบแล็บของทางโรงพยาบาลไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นเหมือนกันและมันไม่ใช่เรื่องที่จะนำออกไป เพราะเวลาเจาะเลือดก็ต้องนำส่งห้องแลปหลอดเลือดดังกล่าวนั้นก็ยังไม่สามารถที่จะบอกได้ว่าเป็นของจริงหรือไม่ การที่นำโลหิตธาตุของหลวงพ่อคูณมาเป็นมวลสารในการสร้างวัตถุมงคลนั้นตนมองว่า เป็นประเด็นที่ค่อนข้างจะละเอียดอ่อน ให้ประชาชนเป็นคนคิดเอาเองว่าเหมาะสมหรือไม่ แต่โดยหลักการแล้วเลือดของคนไข้ที่มีการเจาะที่โรงพยาบาลจะไม่มีการนำออกไปข้างนอกยกเว้นไปโดยวิธีอื่นที่ไม่ตามระบบ