แนวร่วม “มาครง” พ่ายยับเลือกตั้งรัฐสภาฝรั่งเศสรอบแรก
แนวร่วม “มาครง” พ่ายยับเลือกตั้งรัฐสภาฝรั่งเศสรอบแรก
เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ประเทศฝรั่งเศสได้จัดการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาในรอบแรก โดยผลการสำรวจความคิดเห็นผู้ลงคะแนนเสียงหน้าคูหาเลือกตั้ง หรือผลเอ็กซิทโพล พบว่า พรรค "เนชันแนล แรลลี" (NR) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านแนวคิดขวาจัดมีแนวโน้มเป็นฝ่ายคว้าชัยชนะเหนือพรรครัฐบาลของประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง
โดยปรากฏว่าพรรคขวาจัด NR ได้คะแนนเสียงประมาณ 3334% ตามมาด้วยแนวร่วมพรรคฝ่ายซ้าย "นิว ป๊อปูลาร์ ฟรอนท์" (NPF) ซึ่งได้คะแนนเสียง 28.5%
"เซเลนสกี" จี้ชาติพันธมิตรส่งอาวุธพิสัยไกล หยุดการโจมตีทางอากาศรัสเซีย
ทูตอิหร่านเตือน! อิสราเอลเตรียมย่อยยับ หากบุกปราบกลุ่มฮิซบอลเลาะห์
สหรัฐฯ ส่งระเบิด2,000ปอนด์กว่าหมื่นลูกให้อิสราเอล
ส่วนฝ่ายพันธมิตร "ทูเกตเตอร์ " (Together) ซึ่งเป็นกลุ่มพรรคสายกลางและฝ่ายซ้ายบางส่วนของประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ได้คะแนนเสียง 22%
อย่างไรก็ตาม ฝรั่งเศสยังเหลือการเลือกตั้งรอบที่ 2 ในวันที่ 7 ก.ค. นี้ ซึ่งจะเป็นการชี้ขาดครั้งสุดท้ายว่า แนวร่วมพรรคการเมืองของฝ่ายใดจะครองเสียงข้างมากในสภา ซึ่งการเลือกตั้งที่ผ่าน ๆ มา พรรคการเมืองฝ่ายกลางซ้ายและฝ่ายกลางขวามักผนึกกกำลังกันเป็นแนวร่วมที่มีชื่อว่า "รีพับลิกัน ฟรอนต์" (Republican Front) เพื่อป้องกันไม่ให้พรรค NR ขึ้นมามีอำนาจได้สำเร็จ แต่ปัจจุบันการร่วมมือกันของพรรคการเมืองเหล่านี้มีความไม่แน่นอนสูงมากเมื่อเทียบกับยุคอดีต
โดยหลังจากรับทราบผลเอ็กซิทโพล ประธานาธิบดีมาครงได้ส่งหนังสือแถลงข่าวถึงสื่อมวลชน โดยเรียกร้องผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเลือกผู้สมัครที่มีจุดยืนสนับสนุนระบอบสาธารณรัฐและประชาธิปไตยอย่างชัดเจน
เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรี กาเบรียล อัตตาล ที่เรียกร้องชาวฝรั่งเศสอย่าเลือกพรรค NR แม้เพียงคะแนนเสียงเดียว ในการเลือกตั้งรอบที่ 2 นี้ โดยย้ำว่า เดิมพันสำคัญของการเลือกตั้งในวันที่ 7 ก.ค. คือการขัดขวางไม่ให้พรรค NR ขึ้นมามีอำนาจ
ขณะที่ จอร์แดน บาร์เดลลา หัวหน้าพรรค NR ซึ่งมีอายุเพียง 28 ปี ประกาศว่าหากผลการเลือกตั้งในรอบที่ 2 ปรากฏว่าพรรคเป็นฝ่ายครองเสียงข้างมากอย่างเด็ดขาดในสภา ตนเองพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของฝรั่งเศส และพร้อมทำงานร่วมกับประธานาธิบดีมาครงด้วยความเคารพ แต่จะไม่ประนีประนอมกับการเดินหน้านโยบายของพรรค ซึ่งมีจุดยืนต่อต้านผู้อพยพ และต้องการปรับลดงบประมาณสำหรับการช่วยเหลือประเทศอื่น