ว่าที่ สว.แฉเอง! ล็อกโหวตสนั่น มากันเป็นกลุ่มกอดคอกันได้คะแนนสูงลิ่ว!
ว่าที่ สว.แฉเอง! ล็อกโหวตสนั่น มากันเป็นกลุ่มกอดคอกันได้คะแนนสูงลิ่ว!
จากกรณีการเลือกสมาชิกวุฒสภา(สว.)ระดับประเทศ เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีการตั้งข้อสังเกตถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น ทั้ง การเจอโพยที่อาจจะเกี่ยวข้องกับการเลือก สว. หรือ การไม่กรอกประสบการณ์การทำงานแต่กลับได้คะแนนสูงผิดปกติ จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมากนั้น
ล่าสุดบรรดาว่าที่ สว. ชุดใหม่ หลายคนได้ออกมาแความไม่ชอบมาพากลของกระบวนการเลือก สว.ระดับประเทศที่เกิดขึ้น
เช็กที่นี่! ประกาศ 200 รายชื่อ ว่าที่ สว. พร้อมบัญชีรายชื่อสำรอง
วิจารณ์ยับ! พิรุธเลือก สว.ระดับประเทศ แฉโพยว่อน-คุณสมบัติไม่ตรงปก
เริ่มที่ รศ.ดร.นันทนา นันทวโรภาส นักวิชาการด้านการเมืองการปกครอง ที่ได้ออกมาเปิดใจ หลังได้รับเลือกเป็น สว. ด้วยคะแนนเป็นลำดับที่ 9 ของกลุ่ม โดยได้ตั้งข้อสังเกตว่า มีการบล็อกโหวตที่จะต้องมีการยื่น กกต.ตรวจสอบ ซึ่งตอนนี้มีผู้สมัครกำลังล่ารายชื่อเพื่อจะดำเนินการยื่นร้องต่อ กกต.ให้ตรวจสอบ จำนวนกว่า 100 คน เพราะเห็นว่า ผู้ที่ได้คะแนนสูงสุดในแต่ละกลุ่มอาชีพใน 7 ลำดับแรก จะมาเป็นกลุ่มก้อน และจะได้รับคะแนนสูงทิ้งห่างคนอื่น
โดยผู้สมัครกลุ่มนี้จะไม่พูดคุยกับคนอื่น อยู่รวมตัวกันเฉพาะกลุ่มและมีคะแนนที่ได้มาในลักษณะเหมือนกัน ซึ่งส่วนตัวเห็นว่าจะเป็นปัญหาที่ใหญ่มากหากปล่อยให้มีการบล็อคโหวตและกลายเป็น สว.ที่ถูกเรียกว่า “สว.ล็อกโหวต” ไม่ตอบโจทย์กับสว.ที่ต้องเข้ามาทำหน้าที่ในฝ่ายนิติบัญญัติ
โดย รศ.นันทนา ชี้แจงว่า ที่มีการยื่นขอให้กกต.ตรวจสอบการบล็อคโหวตไม่ได้ต้องการให้การเลือกเป็นโมฆะทั้งหมด เพราะประชาชนไม่ต้องการให้ สว.ชุดปัจจุบันอยู่รักษาการต่อไป แต่อยากให้มีการตรวจสอบกระบวนการของกลุ่มบุคคลดังกล่าว พร้อมทั้งอยากทักท้วงว่ากระบวนการคัดเลือกซับซ้อนและพิสดารไม่เกิดประโยชน์แก่ประชาชน ทำให้ไม่ได้ตัวแทนที่มีคุณภาพ เข้าไปทำหน้าที่สว. จึงควรจะมีการเปลี่ยนวิธีการเลือกสว. ควรจะเป็นการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชน
ขนะที่นางอังคณา นีละไพจิตร อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชน ให้สัมภาษณ์ภายหลังการนับคะแนนเลือก สว. แล้วเสร็จ โดยระบุว่า ในส่วนของภาคประชาสังคม เราก็ผ่านเข้ามา 3 คน และมีสำรอง แต่ส่วนตัวก็รู้สึกผิดหวังกับระบบของการเลือก เพราะเรามาด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ แต่ระบบที่บางคนกับมีคะแนนสูงลิ่ว และภาคประชาชนที่กระจายในกลุ่มต่างๆ มีน้อยมากที่จะสามารถเข้ามาได้ ก็จะทำให้เห็นว่ารัฐธรรมนูญที่เขียนเพื่อที่จะให้ทุกคนมีส่วนร่วม แต่จริงๆ มีปัญหาอุปสรรคมาก ที่จะทำให้คนธรรมดาแบบเราจะเข้ามาทำหน้าที่ สว. ได้
ผู้สื่อข่าวถามถึงข้อสังเกตถึงการล็อกโหวตนั้น น.ส.อังคณา กล่าวว่า ก็จะสังเกตได้จะเห็นว่าบางคนมีคะแนนสูง และเกาะกลุ่มกันคะแนนสูงโด่งขึ้นไปเลย เราก็คุยกันในหมู่ภาคประชาสังคม เห็นว่าเราพร้อมที่จะเข้ามาทำงาน แต่พอมาเจอวิธีการในการที่จะเข้ามาเป็นกลุ่ม เราก็รู้สึกผิดหวังว่ามันเป็นพื้นที่มีการจองไว้สำหรับคนบางคน และภาคประชาสังคมก็เข้ามาได้น้อยมาก และในกลุ่ม 17 ก็มีทุกรูปแบบ เช่นนักธุรกิจ อสม. รวมถึงคุณสมบัติที่มีการเขียนไว้บรรทัดเดียว แต่ก็สามารถเข้ามาในรอบสุดท้ายได้ ขณะที่เพื่อนๆ น้องๆ ที่ทำงานหนักกลับต้องตกรอบไปตั้งแต่รอบที่ผ่านมา
ส่วนกรณีที่บางคนจะยื่นให้ กกต. มีการตรวจสอบการเลือก สว.นั้น น.ส.อังคณา กล่าวว่า การดำเนินการควรที่จะเป็นไปอย่างโปร่งใส รัฐธรรมนูญบอกว่าการที่จัดวิธีเลือกตั้งแบบพิสดาร เพื่อให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมได้ แต่หากเราลองสังเกตแทบทุกกลุ่ม จะเห็นได้ว่าภาคประชาสังคมที่เข้ามาจริงๆ จะอยู่ในกลุ่มท้ายๆ เกือบหล่น หรือบางคนอาจตกอยู่ในตำแหน่งสำรอง จึงเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่าคนที่ไม่มีเส้นสาย หรืออำนาจเข้ามาได้ไม่ง่าย
ส่วนที่มีการระบุว่ามีกลุ่มการเมืองนั้น น.ส.อังคณา กล่าวว่า ก็มีหลายคนที่พูดถึงว่ามีกลุ่มการเมืองที่เข้ามาสนับสนุน แต่ส่วนตัวก็ไม่กล้าที่จะพูดว่าเป็นกลุ่มการเมืองไหนหรือพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง เพราะเราก็มีพรรคการเมืองที่เป็นฝั่งรัฐบาลด้วย และได้คะแนนน้อยก็มี จึงไม่สามารถบอกได้ตอนนี้ว่าเป็นอย่างไร แต่ลักษณะของคะแนนตอนนี้มีความห่างกัน ทั้งๆ ห่างกันเพียงแค่ 10 ลำดับ
ขณะที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ซึ่งมีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อสำรอง สว. ก็ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ตนได้รับเลือกเป็นตัวสำรองลำดับที่ 4 ขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่เทคะแนนให้ ขอบคุณที่เป็นคะแนนบริสุทธิ์ ซึ่งตนเห็นว่ามีการล่ารายชื่อจากกลุ่มสตรี เนื่องจากมีการจัดตั้งค่อนข้างเยอะเรียกว่าเป็น สว.ชุดจัดตั้ง โดยให้สังเกตดีๆ จะมีการแต่งตัวคล้ายมินเนี่ยน ใส่ชุดเหมือนกันหมด และคะแนนออกมาเป็นแพ็ค ทำให้คนที่เป็น NGO แพ้แก๊งมินเนี่ยนที่แนะนำตัวว่าเป็น อสม.สั้นๆ และมีคะแนนนำไปเยอะมาก และได้รับการเลือกเป็น สว. เกินครึ่งถึง 70%
เมื่อถามว่าแก๊งมินเนี่ยน ลักษณะเป็นอย่างไร นายษิทรา กล่าวว่า ก็จะเหมือนกัน พกโพย แล้ววันนี้มีการนัดใส่เสื้อสีมินเนี่ยน เวลามาก็เดินมาเป็นทีม อยู่เบื้องหลังและมีพรรคการเมืองพรรคหนึ่งอยู่เบื้องหลังในการจัดคนลงมา ซึ่งขนาดนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ยังได้ไม่ถึง 5 คะแนน หลังจากเจอฤทธิ์ของแก๊งมินเนี่ยน แล้วตนก็เกือบเอาตัวไม่รอดเหมือนกัน
นายษิทรา บอกอีกว่าอย่างไรก็ตาม ได้นัดหมายกับในกลุ่มแล้วว่าหากมีการฟ้องร้อง ตนจะให้คำปรึกษา เดี๋ยวจะต้องดูรายละเอียดในกลุ่ม เพราะตนไม่ได้เป็นตัวตั้งตัวตี
เมื่อถามว่ามีหลายกลุ่มที่คะแนนโดดสูงขึ้นมา นายษิทรา ย้ำว่า มีการจัดตั้งและแฝงเข้ามาในกลุ่มต่างๆ ส่วนกังวลหรือไม่หากมีคนยื่นร้อง นายษิทรา กล่าวว่า อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด แต่ตนก็ยังไม่ได้เป็น