รวบแล้ว เมชิ กะเทยทวงหนี้ บังคับสาวพีอาร์ค้ากาม ตร.พัทยาแจ้ง 9 ข้อหา

รวบแล้ว เมชิ กะเทยทวงหนี้ บังคับสาวพีอาร์ค้ากาม ตร.พัทยาแจ้ง 9 ข้อหา

บุกจับกลางดึก เก๋ เมชิ กะเทยพัทยาทวงหนี้โหด บังคับพีอาร์สาวค้ากามใช้หนี้ พร้อมพวก 5 คน ปฏิเสธไม่มีการบังคับ แต่ผู้เสียหายสมัครใจไปเอง ส่วนเรื่องบุกไปทำร้ายร่างกาย เป็นการไปทวงเงินค่าห้อง 5,000 บาทที่สำรองจ่ายให้ก่อน ตร.แจ้ง 8 ข้อหา และเพิ่มข้อหาวิ่งราวทรัพย์อีก 1 ข้อหา สำหรับเมชิ

จากกรณี นางสาวเอ อายุ 22 ปี ได้โพสต์คลิปลงบนโลกโซเชียล สาวประเภทสอง รูปร่างใหญ่ พร้อมพวกรุมทำร้ายผู้หญิง บริเวณหน้าหอพักแห่งหนึ่ง ภายในซอยพัทยาใต้ หมู่ 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยกล้องวงจรปิดใกล้ข้างหอพัก รวมถึงผู้พักอาศัยที่อยู่ภายในห้องเช่า แอบถ่ายคลิปขณะเกิดเหตุไว้ได้ เหตุเกิดเวลา 23.35 น. วันที่ 22 มิถุนายน ที่ผ่านมา นอกจากนี้กลุ่มผู้ก่อเหตุยังบังคับให้ขายตัวให้ใช้หนี้แทนเพื่อน หลังจากที่ไปเซ็นค้ำประกันไว้

ล่าสุดเวลา 01.00 น. วันที่ 27 มิถุนายน 2567 พ.ต.อ.นาวิน ธีระวิทย์ ผกก.สภ.เมืองพัทยา, พ.ต.ท.ฐานานนท์ อธิพันสีห์ รองผกก.สส.สภ.เมืองพัทยา, ร.ต.อ.ศราวุฒิ สุดสวาท รอง สว.กก.2 บก.ปคม., พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทยา ตำรวจภาค 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสอบสวนกลาง ปราบปรามการค้ามนุษย์ บุกไปจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยาเลขที่ 343, 344, 345, 346, 347/2567

โดยนำกำลังไปจับกุมได้ที่ร้านสักลาย ภายในซอยรุ้งแลนด์ พัทยาใต้ ม.10 เมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้ผู้ต้องหาครบทั้งหมด 5 คน ประกอบด้วย นายภูวนัย หรือเก๋ (ฉายา เมชิ) บัวคง อายุ 21 ปี ชาวจังหวัดร้อยเอ็ด, นายกิตติธร พวยไพบูลย์ อายุ 29 ปี ชาวจังหวัดสุพรรณบุรี, น.ส.ดวงกมล พรรณรัตน์ อายุ 30 ปี, น.ส.ดวงพลอย พรรณรัตน์ ชาวจังหวัดจังหวัดกำแพงเพชร และนายนเรศ เข็มทอง อายุ 40 ปี ชาวจังหวัดชลบุรี ขณะกำลังนั่งเล่นเกมกันอยู่ในร้านสักดังกล่าว ก่อนควบคุมตัวทั้งหมดมาสอบสวนที่ สภ.เมืองพัทยา

จากการสอบเบื้องต้น นายภูวนัย หรือเก๋ (ฉายา เมชิ) ให้การยืนยันว่า ไม่มีใครกักขังหน่วงเหนี่ยว น.ส.เอ ผู้เสียหาย แต่อย่างใด โดยจากสภาพร้านสัก เป็นร้านห้องกระจก เปิดให้บุคคลเข้าออกอย่างเสรี ไม่มีการใช้เชือกมัด หรือล่ามไว้ น.ส.เอ ยังคงออกไปซื้อข้าว ซื้อน้ำ หรือทำธุระส่วนตัวได้ตามปกติ ส่วนเรื่องเงินกู้จำนวน 90,000 บาท และ 30,000 บาท นั้นเป็นเรื่องของ น.ส.เอ ที่ไปกู้เงินกับบุคคลอื่น ไม่เกี่ยวกับพวกตน และไม่เคยบังคับขู่เข็ญให้ น.ส.เอ ไปกับลูกค้า เพื่อหาเงินมาใช้หนี้ น.ส.เอ ยินยอมด้วยตนเอง พวกตนไม่สามารถไปบังคับได้

สำหรับเรื่องบุกไปทำร้ายร่างกายนั้นเป็นเรื่องของการทวงเงินจำนวน 5,000 บาท เป็นเงินค่าห้องที่ นายเก๋ (เมชิ) สำรองจ่ายให้ น.ส.เอ ก่อน แต่ น.ส.เอ ไม่ยอมชดใช้ จึงพวกบุกไปทวงที่ห้องพัก น.ส.เอ ยอมออกมาเคลียร์ ฝ่ายพวกตนจึงแจ้งเจ้าหน้าที่สายตรวจเองเพื่อให้ไปเรียก น.ส.เอ มาไกล่เกลี่ย ตามภาพคลิปวิดีโอที่ปรากฏ

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นตามที่ตนเองถูกฝ่ายผู้เสียหายแจ้งความดำเนินในเรื่องของบังคับขายบริการทางเพศ ทวงหนี้นอกระบบ และกักขังหน่วงเหนี่ยว ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง แต่ยอมรับในเรื่องทำร้ายร่างกาย ในวันที่บุกไปทวงหนี้ 5,000 บาทเท่านั้น

ด้านตำรวจมีการแจ้งข้อกล่าวตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยากับผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย โดยมีทั้งหมด 8 ข้อหา ได้แก่

1.สมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำผิดฐานค้ามนุษย์ โดยเป็นธุระจัดหา พามาจาก หรือส่งไปยังที่ใด หน่วงเหนี่ยวกักขัง จัดให้อยู่อาศัยหรือรับไว้ซึ่งบุคคลใด โดยข่มขู่ ใช้กำลังบังคับ หลอกลวง เพื่อเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี โดยร่วมกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปและได้ลงมือกระทำความผิดตามที่ได้สมคบกัน

2.ร่วมกันค้ามนุษย์ตั้งแต่สองคนขึ้นไป โดยเป็นธุระจัดหา พามาจาก หรือส่งไปยังที่ใด หน่วงเหนี่ยวกักขัง จัดให้อยู่อาศัย หรือรับไว้ซึ่งบุคคลใด โดยข่มขู่ ใช้กำลังบังคับ หลอกลวง เพื่อเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี

3.ร่วมกันเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไปซึ่งบุคคลใด เพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี และไม่ว่าการกระทำต่างๆ อันประกอบเป็นความผิดนั้นจะได้กระทำภายในหรือนอกราชอาณาจักร โดยใช้อุบายหลอกลวง ขู่เข็ญ ใช้อำนาจครอบงำผิดคลองธรรม หรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการใดๆ

4.ร่วมกันเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไป เพื่อการอนาจารซึ่งหญิง โดยใช้อุบายหลอกลวง ยู่เข็ญ ใช้อำนาจครอบงำผิดคลองธรรม หรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการอื่นใดๆ

5.ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้าย จนผู้ถูกชมขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป

6.ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใค ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย

7.ร่วมกันทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุได้รับอันตรายแกกายหรือจิตใจ

8.ร่วมกันบุกรุกตั้งแต่สองคนขึ้นไป

ส่วน นายภูวนัย หรือเก๋ (ฉายา เมชิ) บัวคง อายุ 21 ปี ถูกแจ้งข้อหา วิ่งราวทรัพย์เพิ่มอีก 1 ข้อหา แต่อย่างไรก็ตามตำรวจจะได้ทำการสอบปากคำในเบื้องต้น ก่อนจะส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เวลา 11.00 น. (27 มิ.ย. 67) ระหว่างที่ตำรวจกำลัง นายภูวนัย หรือเก๋ (ฉายา เมชิ) บัวคง อายุ 21 ปี ชาวจังหวัดร้อยเอ็ด เข้าห้องขัง โดยระหว่างถูกควบคุมตัว ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่ารู้จักกับผู้เสียหายได้อย่างไร และรับทวงหนี้เงินกู้นอกระบบจริงหรือไม่ เจ้าตัวตอบเพียงว่า “ไม่พร้อมให้สัมภาษณ์ค่ะ” และมีสีหน้าเคร่งเครียดตลอดเวลา

พ.ต.อ.นาวิน ธีระวิทย์ ผกก.สภ.เมืองพัทยา ให้ข้อมูลว่า ในเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธข้อหาสมคบกันหรือร่วมการค้าประเวณี ค้ามนุษย์ และข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว มีเพียง นายภูวนัย หรือเก๋  สาวประเภท 2 ให้การยอมรับเพียงข้อหาทำร้ายร่างกาย และบุกรุกเคหสถาน ส่วนในประเด็นเรื่องทวงหนี้เงินกู้นอกระบบ นายภูวนัย หรือเก๋ ให้การยอมรับเพียงว่ารู้จักกับเจ้าหนี้ของผู้เสียหาย และได้รับการไหว้วานจากเจ้าของเงินให้มาทวงหนี้ ซึ่งในส่วนนี้ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผล หากเป็นจริงก็จะดำเนินคดีกับเจ้าหนี้รายนี้ด้วย ขณะที่ทางผู้เสียหายเองก็ยังคงให้การยืนยันว่าไม่เคยรู้จักกับทางกลุ่มผู้ก่อเหตุมาก่อน ในส่วนนี้ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผลเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามทั้งหมดจะถูกส่งตัวไปฝากขังผลัดแรกที่ศาลจังหวัดพัทยาในวันพรุ่งนี้ (28 มิ.ย. 67) พร้อมทั้งจะคัดค้านการประกันตัว.

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : รวบแล้ว เมชิ กะเทยทวงหนี้ บังคับสาวพีอาร์ค้ากาม ตร.พัทยาแจ้ง 9 ข้อหา

ตามข่าวก่อนใครได้ที่

- Website : www.thairath.co.th

- LINE Official : Thairath