ศาลสูงสุดอิสราเอล ชี้ “ยิวฮาเรดี” ต้องเกณฑ์ทหาร
ศาลสูงสุดอิสราเอล ชี้ “ยิวฮาเรดี” ต้องเกณฑ์ทหาร
ล่าสุดศาลสูงสุดของอิสราเอลออกคำตัดสินแล้ว โดยระบุว่าชาวยิวฮาเรดีต้องเกณฑ์ทหารเช่นเดียวกับชายชาวอิสราเอล
วานนี้ 25 มิ.ย. ตามเวลาท้องถิ่น ศาลสูงสุดของอิสราเอลมีมติเป็นเอกฉันท์ ตัดสินให้รัฐบาลอิสราเอลต้องเกณฑ์ทหารกลุ่มนักเรียนเซมินารีชาวยิวอัลตราออร์โธดอกซ์ พร้อมกันนี้ศาลสูงสุดได้สั่งให้รัฐบาลอิสราเอลถอนเงินสนับสนุนจากโรงเรียนสอนศาสนาใดๆ ก็ตาม ที่นักเรียนไม่เข้ารับการเกณฑ์ทหาร ศาลอิสราเอลได้ให้เหตุผลในการออกคำสั่งเช่นนี้
“มาครง” เตือนฝรั่งเศสเสี่ยงสงครามกลางเมือง หากพรรคสุดโต่งชนะเลือกตั้ง
สหรัฐฯ กังวลอิหร่านช่วยฮิซบอลเลาะห์ทำสงครามกับอิสราเอล
โดยระบุว่า รัฐบาลจำเป็นต้องแยกแยะเรื่องการบังคับใช้กฎหมายกับความเชื่อของกลุ่มบุคคล และการยกเว้นเกณฑ์ทหารให้ชาวยิวฮาเรดีเพียงกลุ่มเดียว ถือเป็นการทำลายหลักนิติธรรมและความเท่าเทียมของพลเมืองอย่างร้ายแรง
คำตัดสินในเรื่องนี้เกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์การสู้รบที่ยากลำบากในฉนวนกาซา และข้อยกเว้นสำหรับชาวยิวฮาเรดี แสดงให้เห็นถึงความไม่เท่าเทียมกันในสังคมอิสราเอล เพราะชาวยิวฮาเรดีไม่ต้องเข้ารับการเกณฑ์ทหาร ในขณะที่ชาวอิสราเอลจำนวนมากต้องเข้ารับการเกณฑ์ทหาร โดยเฉพาะวันที่กองกำลัง IDF ยังสู้รบกับกลุ่มฮามาสอยู่ในฉนวนกาซา
คนกลุ่มนี้คือใครทำไมถึงไม่ถูกเกณฑ์ไปเป็นกำลังเพื่อสู้กับกลุ่มฮามาสกลุ่มชาวยิวออร์โธดอกซ์สุดโต่ง (ultra-Orthodox) หรือ ชาวยิวฮาเรดี เป็นกลุ่มคนที่ยึดถือและปฏิบัติตนตามพระคัมภีร์อย่างเคร่งครัด โดยจะไม่มีการรับเอาธรรมเนียมอื่นๆ มาปลอมปน จนบางครั้งถูกเรียกว่าเป็นยิวแบบดั้งเดิม
แต่ด้วยความเคร่งครัดในพระคัมภีร์ ชาวยิวกลุ่มนี้จึงปฏิเสธการมีอยู่ของรัฐอิสราเอลตั้งแต่วันก่อตั้งประเทศเมื่อ 76 ปีก่อน เนื่องจากพวกเขาเชื่อว่า การที่ชาวยิวต้องระหกระเหินไปยังดินแดนต่างๆ ถือเป็นบทลงโทษจากพระเจ้าจากบาปของพวกเขาเอง
นับตั้งแต่ก่อตั้งอิสราเอลในปี 1948 ชายชาวยิวที่ศึกษาโตราห์ ซึ่งเป็นคัมภีร์แรกในชุดคัมภีร์ฮีบรู แบบเต็มเวลาในเซมินารี จะได้รับการผ่อนผันจากการรับราชการทหารเป็นประจำทุกปี จนถึงอายุ 26 ปี หลังจากนั้นก็จะได้รับการยกเว้นถาวร
จุดมุ่งหมายสำคัญในการทำเช่นนี้ คือเพื่อให้เยาวชนได้ศึกษาตำราศักดิ์สิทธิ์และอนุรักษ์ประเพณีของชาวยิว ซึ่งส่วนใหญ่สูญหายไปในช่วงการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โดยนาซีเยอรมนี
แต่ปัจจุบันกลุ่มชาวยิวฮาเรดีเพิ่มจำนวนเป็น 1.3 ล้านคน และในปีที่แล้ว คนกลุ่มนี้ได้รับการยกเว้นเกณฑ์ทหารไปถึง 66,000 คน
การยกเว้นดังกล่าวก่อให้เกิดความท้าทายทางกฎหมายหลายประการ โดยคำพิพากษาศาลสูงสุดของอิสราเอลเมื่อปี 2017 ชี้ว่า ชาวยิวฮาเรดีต้องเกณฑ์ทหาร ทั้งนี้ คำพิพากษาชี้ขาดในปี 2017 ถูกเลื่อนมาเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงเมื่อวานนี้ที่ศาลยืนยันตามการพิจารณาครั้งแรก ให้ชาวยิวฮาเรดีต้องเข้ารับการเกณฑ์ทหาร
คำตัดสินของศาลสูงสุดเมื่อวานนี้ ทำให้คณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบันที่นำโดยนายกฯ เบนจามิน เนทันยาฮู เกิดความสั่นคลอนท่ามกลางสงครามเนื่องจากพรรคแนวร่วมรัฐบาลชุดนี้ มีพรรคแนวร่วมของกลุ่มยิวฮาเรดีรวมอยู่ด้วยถึง 2 พรรค นั่นคือ พรรคชาสและพรรค United Torah Judaism หรือ UTJ ซึ่งมีที่นั่งรวมกันในรัฐสภาถึง 18 ที่นั่งจากทั้งหมด 72 ที่นั่ง
หลังศาลเผยแพร่คำตัดสินออกมา โมเช รอธ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรค UTJ ได้ออกให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวโดยระบุว่า คำตัดสินของศาลไม่ได้มีผลใดๆ และเป็นเหมือนการประกาศเท่านั้น ขณะเดียวกัน ผู้แทนจาก UTJ ได้พูดเชิงตำหนิศาลโดยระบุว่า ศาลสูงสุดไม่ควรเข้ามายุ่งเกี่ยวเรื่องนี้ตั้งแต่แรก
แม้ทางสมาชิกพรรค UTJ ซึ่งเป็นปากเสียงของชาวยิวจะออกมาพูดเช่นนี้ แต่ศาสนาจารย์ชาวยิวฮาเรดีได้ให้ความเห็นว่า คำตัดสินดังกล่าวของศาลสูงสุดไม่ต่างจากการทำให้ชาวยิวฮาเรดีอับอาย และการศึกษาโตราห์ของพวกเขาเป็นสิ่งที่ชาวยิวทำสืบต่อกันมานับพันปี ไม่ควรปล่อยให้สูญหายไป
ขณะที่ประชาชนอิสราเอลในนครเยรูซาเลมบางคนระบุว่า พวกเขาเห็นด้วยกับคำตัดสินของศาล เพราะตอนนี้ประเทศอยู่ในภาวะสงครามและทุกคนควรช่วยกันเพื่ออนาคตของประเทศ
ขณะที่ศาลสูงสุดอิสราเอลมีคำสั่งให้รัฐบาลเกณฑ์ทหารชาวยิวฮาเรดีเพื่อเตรียมพร้อมทำสงคราม ในฉนวนกาซา สถานการณ์ก็ยังย่ำแย่ลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะวิกฤตด้านมนุษยธรรม จนล่าสุดหน่วยงานของสหประชาชาติต้องออกมาเตือนถึงสภาวะโกลาหลและไร้กฎเกณฑ์ในฉนวนกาซา
หน่วยงานที่ออกมาเตือนเรื่องดังกล่าวคือ สำนักงานบรรเทาทุกข์และจัดหางานของสหประชาชาติสำหรับผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้ หรือ UNRWA โดยฟิลิปเป ลาซซารินี ข้าหลวงใหญ่ขององค์การแห่งนี้ระบุว่า ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา รถบรรทุกความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมถูกปล้นหลายครั้ง เนื่องจากความช่วยเหลือที่เข้าถึงพื้นที่นั้นไม่เพียงพอต่อความต้องการ
นอกจากนี้ ข้าหลวงใหญ่ของ UNRWA ยังได้ย้ำว่า ตอนนี้ชาวกาซากำลังเผชิญกับภาวะอดอยาก โดยในชาวกาซา 5 คน จะมีอย่างน้อย 1 คนที่ป่วยด้วยโรคขาดสารอาหารรุนแรง
คำแถลงดังกล่าวสอดคล้องกับรายงานของมาซิโม โตเรโร หัวหน้าทีมเศรษฐศาสตร์ขององค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ หรือ FAO ที่ระบุว่า ตราบใดที่สงครามยังดำเนินไปและมีการจำกัดความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ปัญหาความอดอยากจะแพร่กระจายไปทั่วฉนวนกาซา และคนกว่าร้อยละ 20 จะป่วยด้วยโรคขาดสารอาหารอย่างรุนแรง
นี่คือ จานา อายัด เด็กหญิงชาวปาเลสไตน์วัยเพียง 5 ขวบ ที่ป่วยจากโรคขาดสารอาหารขั้นรุนแรงจนแขนขาลีบเล็ก ท้องป่อง สามารถมองเห็นกระดูกสันหลังเป็นแนวได้อย่างชัดเจนทำให้เธอต้องนอนอยู่ในโรงพยาบาลสนามที่เมืองเดอีร์ อัล-บาลาห์ ทางตอนกลางของฉนวนกาซา เพื่อรอให้แพทย์มาประเมินอาการ
นอกจากสงครามและการปิดจุดผ่านแดนแล้ว อีกหนึ่งปัญหาที่ทำให้วิกฤตด้านมนุษยธรรมในพื้นที่รุนแรงมากขึ้น คือความเสี่ยงต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับอาสาสมัครที่เข้าไปให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะกับการโจมตีจากกองทัพอิสราเอล
ล่าสุดสเตฟาน ดูจาร์ริก โฆษกองค์การสหประชาชาติ ได้ออกมาแถลงข่าวเรียกร้องให้อิสราเอลประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ของยูเอ็น รวมถึงเรียกร้องให้อิสราเอลอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ยูเอ็นสามารถใช้อุปกรณ์รักษาความปลอดภัยที่จำเป็นได้ และขอให้อิสราเอลคุ้มครองขบวนรถเพื่อมนุษยธรรมด้วย