ไม่ใช่แค่ลิง เมื่อ "สัตว์คุ้ยขยะ" พาเหรดเข้าสู่เมืองต่าง ๆ ทั่วโลก
ตั้งแต่นกกุลา (หรือนกช้อนหอยขาว) ไปจนถึงไฮยีนา สัตว์คุ้ยเขี่ยหาเศษอาหารมากมายหลากหลายสายพันธุ์ได้รับการดึงดูดเข้าสู่ชีวิตในเมือง บทความนี้จะเล่าถึงวิธีที่พวกมันปรับตัวและดำรงชีวิตได้อย่างดีในเมืองต่าง ๆ ทั่วโลก
บนถนนที่มีชื่อว่า “เคปพอยท์เนเจอร์รีเซิร์ฟ” ซึ่งตั้งอยู่ชานนครเคปทาวน์ ของประเทศแอฟริกาใต้ ผู้คนต้องเผชิญกับแก๊งสัตว์ที่มีพฤติกรรม “ปล้นรถ” เป็นประจำทุกวัน
ผู้กระทำผิดเหล่านี้เต็มไปด้วยความฉาวโฉ่ ผู้คนอาจจะรู้จักพวกมันในเรื่องการงัดแงะรถยนต์เป็นครั้งคราว หรือกลิ่นปากที่เหม็นรุนแรง จริงๆ แล้ว พวกมันคือลิงบาบูนที่ปรับตัวใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับผู้คนด้วยความกระตือรือร้นอย่างน่าประหลาดใจ เมื่อเข้าไปในเมืองมากขึ้น พวกมันจะรวมตัวกันเป็นฝูง ออกหาอาหารตามถังขยะ หรือแม้กระทั่งบุกรุกบ้านเรือน เพื่อค้นหาอาหารมื้อง่าย ๆ สัตว์คุ้ยเขี่ยหาเศษอาหารเหล่านี้มีจำนวนมาก จนตอนนี้มีสายด่วนแจ้งเหตุตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ประชาชนสามารถรายงานเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ รวมถึงแจ้งเพื่อขอความช่วยเหลือได้
แน่นอนว่า ลิงบาบูนไม่ใช่สัตว์ป่าชนิดเดียวที่รุกรานเข้ามาอยู่ในพื้นที่เมืองของมนุษย์ สัตว์พื้นเมืองดั้งเดิมของพื้นที่ที่ปัจจุบันเป็นเมืองต่าง ๆ ได้ยืนหยัดบนพื้นที่ของตัวเองและเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับผู้คนหลายล้านคนทั่วโลก บทความนี้จะนำเสนอบางส่วนของการเปลี่ยนแปลงอันน่าทึ่งที่เกิดขึ้น
สุนัขจิ้งจอกส่งเสียงได้มากถึง 40 เสียงที่แตกต่างกัน
สุนัขจิ้งจอก
ทุก ๆ คืน เมื่อความมืดปกคลุมเมืองต่าง ๆ ทั่วทวีปยุโรป สุนัขจิ้งจอกสีแดงจะออกจากที่ซ่อนของมัน และเริ่มเดินล่าสัตว์ตามถนนหนทาง บางครั้งมันเดินอย่างมั่นใจไปตามทางร่วมกับมนุษย์ผู้เดินเท้าอย่างกลมกลืน บางครั้ง เราอาจจะเห็นเพียงปลายหางฟู ๆ ของมันขณะที่มันกระโจนลงถังขยะ สัตว์กินเนื้อที่ปรับตัวเก่งเหล่านี้ จะออกหาอาหารป่า เช่น ผลเบอร์รีและแมลง และเสริมสารอาหารด้วยนกพิราบที่เพิ่งจับได้สด ๆ และเศษอาหารที่พบในกองขยะ
มีสุนัขจิ้งจอก “แท้จริง” อย่างน้อย 10 สายพันธุ์กระจายอยู่ทั่วโลก ตั้งแต่สุนัขจิ้งจอกเฟนเนก (fennec) หรือสุนัขจิ้งจอกทะเลทราย ที่มีหูคล้ายค้างคาวอันแปลกประหลาด ไปจนถึงสุนัขจิ้งจอกทรายทิเบตที่น่าดึงดูด พวกมันอาศัยอยู่ร่วมกับผู้คนมาหลายพันปี ในปี 1991 นักวิจัยได้ค้นพบกระดูกโบราณของสุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่งในอาร์เจนตินา ซึ่งการวิจัยล่าสุดเผยว่ามันอาจเคยเป็นสัตว์เลี้ยงของมนุษย์
ปัจจุบัน สุนัขจิ้งจอกใช้ชีวิตอยู่ในเขตเมืองได้ดี โดยในกรุงลอนดอน พบว่าประชากรของพวกมันมีความหนาแน่นราว 18 ตัวต่อตารางกิโลเมตร นอกจากนี้ ยังพบเห็นพวกมันได้ในเมืองต่าง ๆ ในสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะทางตอนเหนือและตะวันออกของประเทศ
หมาป่าไคโยตีจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับสุนัข
หมาป่าไคโยตี
ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา หมายป่าโคโยตีกลายเป็นสัตว์ที่พบเห็นได้ทั่วไปตามเมืองต่าง ๆ ในสหรัฐอเมริกา สัตว์ป่าจำพวกสุนัขชนิดนี้เป็นสัตว์กินซากที่จะกินทุกอย่างที่หาได้ ไม่ว่าจะเป็น หนู กระต่าย กบ จิ้งจก และเศษอาหารที่คุ้ยเขี่ยมาจากถังขยะของผู้คน
งานวิจัยประจำปี 2022 ที่วิเคราะห์อาหารของไคโยตีในนครนิวยอร์ก พบว่าพวกมันกินสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ เช่น กวางและแรคคูน รวมถึงอาหารของมนุษย์ เช่น ไก่ หมู และเนื้อวัว การกินอาหารได้อย่างหลากหลายทำให้พวกมันปรับตัวใช้ชีวิตในเมืองได้อย่างยอดเยี่ยม
แต่เหล่านักวิทยาศาสตร์เตือนว่า การที่โคโยตีกินอาหารขยะอาจเป็นอันตรายต่อมนุษย์ เนื่องจากโคโยตีในเมืองมักจะมีปรสิตมากกว่า และมีระบบจุลินทรีย์ในลำไส้ (microbiome) ที่ไม่แข็งแรง ซึ่งลักษณะดังกล่าวเชื่อมโยงกับพฤติกรรมก้าวร้าว
นกนางนวล
หลายต่อหลายครั้ง การเดินเล่นริมทะเลต้องสะดุดลงเพราะนกนางนวลใจกล้าโฉบลงมาขโมยอาหารไป แถบเมืองชายฝั่ง ผู้คนอาจรู้สึกเหมือนนกเหล่านี้เป็นพวกฉวยโอกาสที่โหดร้าย บุกเข้ายึดเมืองเพื่อขโมยอาหารที่ผู้คนเตรียมไว้สำหรับปิกนิก ของย่างบาร์บีคิว หรือแม้กระทั่งของว่างที่ผู้คนถืออยู่ในมืออย่างดี ทว่าความจริงแล้ว พวกเราต่างหากที่รุกรานแหล่งอาศัยของนก ปริมาณปลาที่ลดลงและการสูญเสียแหล่งอาหารตามธรรมชาติเป็นปัจจัยที่ทำให้นกนางนวลในเมืองต้องออกหาอาหารจากที่อื่น รวมถึงในเมืองและกองขยะ
“เมื่อเวลาผ่านไป พวกมันจะพัฒนากลเม็ดการหาอาหารที่ค่อนข้างชาญฉลาด ซึ่งช่วยให้พวกมันขโมยอาหารจากถังขยะของคุณหรือจากมนุษย์โดยตรง” พอล เกรแฮม จากมหาวิทยาลัยซัสเซกซ์ ในสหราชอาณาจักร บอกกับบีบีซี “ผมคิดว่าเราจำเป็นต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับพวกมัน”
ครั้งต่อไปที่อาหารของคุณถูกนกนางนวลตัวตะกละแย่งไป ลองพิจารณาว่า เราอาจเป็นฝ่ายแย่งปลามาจากพวกมันก่อนหรือเปล่า
หมูป่าเป็นบรรพบุรูษของหมูสายพันธุ์ที่กลายเป็นสัตว์ที่มนุษย์เลี้ยงในปัจจุบัน
หมูป่า
แม้โดยปกติหมูป่าจะเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ชอบเก็บตัว แต่เสน่ห์ของชีวิตชานเมืองกำลังดึงดูดให้พวกมันเข้ามาสู่แสงไฟ จากเนินเขาของฮ่องกงไปจนถึงชายหาดของเมืองมาร์เบลลาริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ดินที่หมูป่าคุ้ยเขี่ยดินและขยะใบไม้ ตอนนี้พวกมันคุ้ยเขี่ยหาเศษอาหารตามกองขยะ ในกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี พวกมันนอนอาบแดดอยู่สระน้ำตื้น ในสเปน หมูป่าคู่หนึ่งแย่งกระเป๋าของ ชากิร่า (Shakira) ป๊อปสตาร์สาวชาวโคลอมเบียไป ไม่ว่าพวกมันจะอยู่ที่ไหน บ่อยครั้งการเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นหรือทีมล่าสัตว์ก็มักจะเกิดขึ้นในเวลาต่อมา
ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งหมูป่าจัดเป็นสัตว์ต่างถิ่น พวกมันถูกมองว่าเป็นศัตรูรบกวนน่ารำคาญอีกด้วย ด้วยประชากรที่ประมาณหกล้านตัวและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ตอนนี้มีอย่างน้อย 35 มลรัฐที่รายงานตัวเลขประชากรหมูป่า ผลที่ตามมาคือความเสียหายต่อพืชผลทางการเกษตรของสหรัฐฯ ประมาณ 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (9.2 หมื่นล้านบาท) ต่อปี เช่น ถั่วลิสงและข้าวโพดที่เสียหาย
ทว่านี่ไม่จำเป็นต้องหมายความว่าผลกระทบทั้งหมดจากพวกมันจะเลวร้ายเพียงเพราะว่ามันเป็นสัตว์รุกรานเท่านั้น จริง ๆ แล้วงานวิจัยใหม่กำลังสำรวจว่าวิธีที่หมูป่าใช้จมูกสำหรับการคุ้ยเขี่ยดินและกีบเท้าของพวกมันอาจส่งผลดีต่อระบบนิเวศในท้องถิ่น โดยพวกมันช่วยลดการครอบงำของพืชชนิดเด่น และอาจเลียนแบบผลกระทบของสัตว์ขนาดใหญ่ในยุคโบราณ
ไฮยีนา
ไฮยีนา มักถูกมองว่าเป็นตัวร้ายฉาวโฉ่ของอาณาจักรสัตว์ แต่สัตว์คุ้ยขยะเหล่านี้ไม่ได้เลวร้ายไปเสียทั้งหมด ตามการศึกษาในปี 2021 โดยมหาวิทยาลัยมิชิแกน ไฮยีนาสร้างประโยชน์ด้านสุขภาพและเศรษฐกิจที่สำคัญให้กับเมืองต่าง ๆ ในแอฟริกาที่มันอาศัยอยู่
โดยรวมแล้ว ไฮยีนากำจัดซากสัตว์หนัก 207 ตันต่อปี ในเมืองเมเคเล ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศเอธิโอเปีย ทั้งยังช่วยป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียของโรคแอนแทรกซ์ (Anthrax) และวัณโรคโคกระบือให้ผู้คนในพื้นที่ได้ราว 5 ราย และป้องกันการติดเชื้อในวัว แกะ และแพะ ได้อีก 140 ตัวต่อปี
ในเมืองฮาราร์ ทางตะวันออกของเอธิโอเปีย สัตว์เหล่านี้ยังกล้าเดินเข้าไปด้านในกำแพงเมืองยามค่ำคืน เพื่อกินเศษอาหารที่คนขายเนื้อทิ้งเอาไว้ ช่องเล็ก ๆ ในกำแพงเมืองซึ่งสร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ถูกเรียกว่า “ประตูไฮยีนา” ซึ่งช่วยให้สัตว์เหล่านี้ผ่านเข้าออกได้อย่างอิสระ
ชุมชนรอบนอกเมืองเอธิโอเปียเห็นคุณค่าของไฮยีนา เนื่องจากพวกเขา “เข้าใจบริการด้านสุขาภิบาลที่ไฮยีนามอบให้” ชินเมย โซนาวาเน นักชีววิทยาจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด มลรัฐแคลิฟอร์เนีย บอกกับบีบีซีฟิวเจอร์
ในแอฟริกา บางครั้งช้างจำเป็นต้องเข้าไปยังชุมชนมนุษย์เพื่อเดินทางระหว่างพื้นที่ป่าต่าง ๆ
ช้าง
ห่างออกไปจากตัวเมืองคอทวาร์ ในรัฐอุตตราขัณฑ์ ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของอินเดีย ภาพของสัตว์ที่กำลังคุ้ยเขี่ยกองขยะพบเห็นได้บ่อยครั้ง พวกมันใช้งวงตรวจสอบกลิ่นและหยิบอาหารที่ถูกใจออกมากินเป็นบางครั้ง ทว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ไม่ใช่หนูหรือสุนัขจรจัดที่มาคุ้ยเขี่ยเศษขยะของมนุษย์ พวกมันคือ ช้างเอเชีย หนึ่งในสัตว์บกขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
เมืองคอทวาร์เติบโตอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้มีประชากรเข้ามาอาศัยอยู่ราว 45,000 คน โดยนี่เป็นพื้นที่ที่ติดกับป่าซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของช้างเหล่านี้
การที่ชุมชนเมืองขยายตัวเข้าใกล้ป่า ส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมการหาอาหารของช้างป่าที่ถูกล่อด้วยอาหารจากมนุษย์ การศึกษาหลักฐานภายในมูลช้างที่เก็บได้ในป่าและรอบ ๆ ป่าของรัฐอุตตราขัณฑ์ บ่งชี้ว่าช้างเหล่านี้คุ้ยเขี่ยหาอาหารตามกองขยะของมนุษย์ โดยเฉพาะช้างที่อาศัยอยู่ใกล้เมืองคอทวาร์ เป็นเรื่องน่าเศร้าที่นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยยาวาฮาร์ลาล เนห์รู (Jawaharlal Nehru University) ในกรุงนิวเดลี พบทั้งเศษพลาสติกจากบรรจุภัณฑ์ ถุง ขวดอาหาร และแม้กระทั่งช้อนส้อมพลาสติกใช้แล้ว ในกองมูลช้างทั้งหมดที่เก็บได้บริเวณรอบเมืองคอทวาร์
นิสัยการคุ้ยเขี่ยหาอาหารตามกองขยะนี้ ยังพบเห็นได้ในช้างเอเชียที่อาศัยอยู่ในศรีลังกาเช่นกัน เนื่องจากกองขยะเป็นแหล่งอาหารที่ง่ายและสะดวกสำหรับสัตว์เหล่านี้ งานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ศึกษาช้างเลี้ยงตามกองขยะทางภาคใต้ของศรีลังกา พบว่าช้างเหล่านี้มี “สภาพร่างกายแข็งแรง” ดีกว่าช้างที่ไม่ได้หากินเศษอาหารจากมนุษย์ ทว่า ก็มีรายงานของช้างที่ตายจากการกินเศษพลาสติกจำนวนมากเข้าไปด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ ยังมีความกังวลว่าเมื่อประชากรเมืองขยายตัวไปยังพื้นที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของช้างป่า ย่อมเพิ่มความเสี่ยงต่อการเผชิญหน้ากันระหว่างมนุษย์กับช้าง ซึ่งความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างมักนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เลวร้ายถึงแก่ชีวิตทั้งสองฝ่าย
แร้ง
นับตั้งแต่สมัยโบราณ แร้งถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของโชคร้ายและเป็นลางบอกเหตุแห่งความตาย แต่นกกินซากเหล่านี้ ซึ่งกินเฉพาะซากสัตว์ที่ตายแล้ว มีบทบาทสำคัญในการป้องกันไม่ให้เชื้อโรคแพร่กระจายไปยังมนุษย์และสัตว์ป่า รวมถึงป้องกันสารปนเปื้อนไม่ให้รั่วไหลลงสู่สิ่งแวดล้อม
ทว่า แร้งกำลังลดจำนวนลงอย่างน่าเป็นห่วงในเอเชียใต้และแอฟริกา เคยมีเหตุการณ์วางยาแร้งโดยใช้ยาแก้ปวดสำหรับสัตว์ที่ใช้รักษาโรคโดยสัตวแพทย์ ซึ่งมีชื่อว่า “ไดคลอฟีแนค” (diclofenac) ซึ่งแพร่หลายในช่วงปี 1990 และ 2000 ส่งผลให้ประชากรแร้ง 3 สายพันธุ์ที่พบมากที่สุดในอินเดียลดลงถึง 99% ปัจจุบันปัญหานี้ยุติลงแล้วเนื่องจากมีการห้ามใช้ยาชนิดนี้
ในแอฟริกา แร้งจำนวนมากถูกล่าฆ่าด้วยความเชื่อทางศาสนา โดยหัวของมันถูกนำไปขายเป็นเครื่องรางนำโชคหรือบดเป็นผงเพื่อใช้ในยาแผนโบราณ
หมี
ในสหรัฐอเมริกา คุณมีโอกาสถูกผึ้งต่อยตายมากกว่าโดนหมีทำร้ายเสียอีก แต่เหตุการณ์หมีรุกเข้ามาในเขตพื้นที่อยู่อาศัยของมนุษย์นั้นกลับกลายเป็นเรื่องปกติมากขึ้น คำถามคือ มันเป็นเพราะหมีรุกเข้ามา หรือมนุษย์รุกป่ากันแน่ ?
หมีกริซลีเคยอาศัยอยู่ในพื้นที่ภาคตะวันตกของสหรัฐฯ ขณะที่หมีดำ สามารถพบได้ทั่วไปในพื้นที่ป่าไม้ของประเทศ ปัจจุบัน มีประชากรหมีกริซลีประมาณ 2,000 ตัว อาศัยอยู่ในพื้นที่เพียง 6% ของถิ่นที่อยู่อาศัยเดิม ส่วนหมีดำราว 300,000 ตัว อาศัยอยู่ใน 50% ของถิ่นที่อยู่อาศัยเดิม
หมีเป็นสัตว์ที่ฉลาดและอยากรู้อยากเห็น พวกมันมีประสาทรับกลิ่นที่ยอดเยี่ยมและความอยากอาหารมหาศาล ทำให้มันพยายามหาอาหารทุกวิถีทาง
ความขัดแย้งระหว่างหมีกับมนุษย์ส่วนใหญ่เกิดขึ้นเมื่ออาหารของมนุษย์ เช่น ขยะ อาหารสุนัข หรือผลไม้ หาได้ง่าย ๆ หมีเคยถูกบันทึกภาพขณะงัดแงะเข้าบ้านเพื่อขโมยอาหาร ตัวอย่างเช่น หมีหนัก 226 กิโลกรัมจอมขโมย ที่ได้ฉายาว่า “แฮงค์ เดอะแทงค์”
แม้การล่าหมีจะยังถูกกฎหมายในบางมลรัฐของสหรัฐฯ แต่หน่วยงานคุ้มครองสัตว์ป่าของรัฐบาลก็กำลังให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับการอยู่ร่วมกับหมีอย่างสันติ
ในแหล่งอาศัยตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ นกกุลาขาวออสเตรเลีย จะอาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูงใหญ่ โดยมีจำนวนมากถึง 20,000 ตัว
นกกุลา
นกกุลาขาวออสเตรเลีย มีลำตัวอวบอ้วนสีขาว คอและเท้าเรียวยาวด้วยหนังเนื้อ มักถูกบรรยายว่าสง่างามและมีลักษณะโดดเด่น เมื่อมันอยู่ในแหล่งอาศัยตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ
แต่ในเมืองต่าง ๆ ของออสเตรเลีย นกชนิดนี้กลับมีภาพจำอีกแบบ นกกุลาขาวออสเตรเลียมักถูกคนท้องถิ่นเรียกด้วยคำแสลงที่ความหมายเป็นลบ อาทิ “ไก่ถังขยะ” (bin chicken) เพราะพวกมันมักอยู่รอบ ๆ โรงบำบัดน้ำเสีย หรือคุ้ยเขี่ยหาเศษอาหารตามกองขยะ
ถึงแม้ว่าประชาชนในเมืองมักมองว่า นกกุลาขาวออสเตรเลียที่อาศัยอยู่ในเมืองเป็นแค่สัตว์รบกวนมากกว่าเป็นสมบัติของชาติ แต่ผลงานวิจัยชี้ให้เห็นว่า พวกมันอาจทำหน้าที่เป็นแหล่งของความหลากหลายทางพันธุกรรมที่สำคัญ ซึ่งอาจช่วยฟื้นฟูประชากรนกกุลาขาวตามธรรมชาติในพื้นที่อื่น ๆ ได้
ตัวต่อ
ตัวต่อ มักถูกมองว่าเป็นแขกไม่พึงประสงค์ประจำงานปิกนิก พวกมันบินมาวุ่นวายเพื่อกินแซนด์วิชแยม สลัดผลไม้ และอาหารแสนอร่อยอื่น ๆ แต่ความชื่นชอบของหวานของมันอาจถูกกล่าวเกินจริง ตามธรรมชาติแล้ว ตัวต่อจะกินซากศพอย่างมีความสุขไม่แพ้กับผลไม้เน่าเลย
ในพื้นที่ที่ตัวต่อยุโรปเพิ่งเข้าไปอยู่ใหม่ เช่น ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ นักวิทยาศาสตร์สามารถสังเกตผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสัตว์กินซากอื่น ๆ ได้ การศึกษาในปี 2020 ที่ดำเนินการในออสเตรเลีย แสดงให้เห็นว่าตัวต่อจะมาถึงซากศพใหม่ ๆ อย่างรวดเร็วเพื่อกิน และรังแกแมลงวันชนิดอื่นที่มากินซากร่วมกันอย่างรุนแรง รุนแรงจนแมลงวันวางไข่ไม่ได้ นอกจากนี้ สัตว์กินซากขนาดใหญ่กว่าอย่างหมาป่าดิงโกก็ถูกต่อต่อยด้วย
ยังมีหลักฐานด้วยว่า ตัวต่อกำลังปรับตัวเข้ากับชีวิตในเมืองในระดับพันธุกรรมด้วยเช่นกัน เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นอันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก การศึกษาล่าสุดชิ้นหนึ่งพบว่า พื้นที่เขตเมืองที่มีอากาศร้อนกว่าและมีพืชพรรณน้อยกว่า มักเป็นที่อยู่อาศัยของต่อตัวเล็กกว่า ซึ่งขนาดที่เล็กกว่านี้อาจเป็นข้อได้เปรียบทางวิวัฒนาการ เนื่องจากลำตัวที่เบาของมันต้องการพลังงานน้อยกว่าในการลอยตัวอยู่ในอากาศ