“เศรษฐกิจญี่ปุ่น” เข้าสู่ Recession เสียตำแหน่งเศรษฐกิจอันดับ 3
“เศรษฐกิจญี่ปุ่น” เข้าสู่ Recession เสียตำแหน่งเศรษฐกิจอันดับ 3
ประเทศญี่ปุ่นเสียตำแหน่งประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก เนื่องจากข้อมูลของรัฐบาลที่เปิดเผยล่าสุดเเสดงให้เห็นว่า ญี่ปุ่นมีขนาดเศรษฐกิจต่ำกว่าเยอรมนีในปี 2023
ภาวะเศรษฐกิจของญี่ปุ่นชี้ให้เห็นว่า ญี่ปุ่นเข้าสู่ภาวะถดถอย ทางเทคนิคอย่างไม่คาดคิดหลังจากตัวเลขเศรษฐกิจหดตัวเป็นไตรมาสที่ 2 ติดต่อกัน เนื่องจากอุปสงค์ภายในประเทศหดตัวทั้งหมดส่งผลให้บรรดาผู้สังเกตการณ์เฝ้าดูว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อใด และเสียตำแหน่งมหาอำนาจอันดับสามทางเศรษฐกิจให้เยอรมนี
สํานักงานคณะรัฐมนตรีรายงานว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ญี่ปุ่นหดตัวที่อัตรา 0.4% ต่อปีในช่วงสามเดือนสุดท้ายของปีที่แล้ว หลังจากถอยกลับ 3.3% ในไตรมาสก่อนหน้า
ตัวเลขดังกล่าวเน้นย้ำว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นค่อยๆ สูญเสียขีดความสามารถในการแข่งขันและผลิตภาพ ทั้งภาคครัวเรือน และธุรกิจปรับลดการใช้จ่ายเป็นไตรมาสที่สามติดต่อกัน ในขณะที่จำนวนประชากรลดลงเมื่อคนญี่ปุ่นมีอายุมากขึ้นและมีบุตรน้อยลง นักวิเคราะห์กล่าว
การบริโภคภาคเอกชนลดลง 0.2% เนื่องจากครัวเรือนต่อสู้กับค่าครองชีพที่สูงขึ้นทําให้งบประมาณตึงตัว และในเดือน ธ.ค.การใช้จ่ายภาคครัวเรือนลดลง 2.5% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เป็นการลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 10 จากการเพิ่มขึ้นของค่าจ้างทําให้อัตราเงินเฟ้อชะลอตัวขณะที่การใช้จ่ายทางธุรกิจยังซบเซาในไตรมาสที่แล้ว ลดลง 0.1%
ญี่ปุ่นตกจากเศรษฐกิจอันดับที่ 2 ตามหลังสหรัฐฯ สู่อันดับที่ 3 ในปี 2010 ขณะที่เศรษฐกิจของจีนเติบโตขึ้น กองทุนการเงินระหว่างประเทศ คาดการณ์ว่าญี่ปุ่นจะร่วงลงมาอยู่อันดับ 4
การเปรียบเทียบเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ จะพิจารณาที่ GDP ที่ระบุ ซึ่งไม่ได้สะท้อนถึงเงื่อนไขของประเทศที่แตกต่างกัน และอยู่ในรูปของเงินดอลลาร์ GDP ของญี่ปุ่นมีมูลค่ารวม 4.2 ล้านล้านดอลลาร์ในปีที่แล้วหรือประมาณ 591 ล้านล้านเยน ส่วนเยอรมนีประกาศเมื่อเดือนที่แล้วมีมูลค่าประมาณ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ (ขึ้นอยู่กับการแปลงสกุลเงิน)
ทั้งญี่ปุ่นและเยอรมนีสร้างเศรษฐกิจประเทศผ่านธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางที่แข็งแกร่ง พร้อมประสิทธิภาพการผลิตที่มั่นคง เยอรมนีได้แสดงให้เห็นถึงรากฐานทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งจากค่าเงินยูโรที่แข็งค่าและอัตราเงินเฟ้อ ขณะที่ค่าเงินเยนยังอ่อนค่า
นักวิเคราะห์ระบุว่า เมื่อหลายปีก่อน ญี่ปุ่นมีภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ทรงพลัง แต่ด้วยการถือกำเนิดของยานพาหนะไฟฟ้า แม้แต่ข้อได้เปรียบนั้นก็สั่นคลอน ช่องว่างระหว่างประเทศที่พัฒนาแล้วและประเทศเกิดใหม่กำลังหดตัวลง โดยที่อินเดียจะแซงหน้าญี่ปุ่นในด้าน GDP ที่ระบุภายในไม่กี่ปี
ที่มาข้อมูล