เผาแล้ว ชาย59ตกท่อดับ ญาติเศร้า ชัชชาติ-รองผู้ว่าฯ กฟน. ร่วมอาลัย ญาติยันเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
เผาแล้ว ชาย59ตกท่อดับ ญาติเศร้า ชัชชาติ-รองผู้ว่าฯ กฟน. ร่วมอาลัย ญาติยันเอาเรื่องให้ถึงที่สุด 10 ล้านเป็นค่าอุทาหรณ์ ไม่ต้องการให้ใครติดคุก แต่อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง “เกิดความรับผิดชอบในชีวิตและความปลอดภัยของประชาชน”
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 6 พ.ค.2567 ที่ศาลา 16 วัดธาตุทอง พระอารามหลวง ถนนสุขุมวิท เขตวัฒนา กทม. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ครอบครัวจารุอนันต์ ร่วมกันจัดพิธีฌาปนกิจศพนายกำธร จารุอนันต์ อายุ 59 ปี ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ตกท่อร้อยสายไฟฟ้า เกาะกลางถนนลาดพร้าว ตรงข้ามซอยลาดพร้าว 49 แขวงสะพานสอง เขตวังทองหลาง กทม. ตั้งแต่เมื่อวันที่ 3 พ.ค. ที่ผ่านมา
สำหรับบรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความโศกเศร้า มีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายฐิติวุฒิ เงินคล้าย รองผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง และเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตวังทองหลาง รวมถึงญาติสนิทของผู้เสียชีวิตต่างเข้าร่วมพิธีเพื่อแสดงความไว้อาลัยเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ก่อนเริ่มพิธีมีการยืนสงบนิ่ง 1 นาที เพื่อไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิต
นายกำพนธ์ จารุอนันต์ อายุ 57 ปี น้องชายผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ในวันนี้ตนนำของสะสมที่พี่ชายรักซึ่งเป็นดาบไม้แบบชาวจีนที่เขาสร้างทำขึ้นมาด้วยตัวเองขณะยังมีชีวิตอยู่ และพัดจีน รวมถึงยาดมที่ใช้เป็นของชำร่วยนำไปเผาเพื่อส่งไปให้ด้วย
ส่วนความคืบหน้าเรื่องคดีความ รวมไปถึงเรื่องเงินเยียวยา ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปแน่ชัดต้องรอช่วงหลังเสร็จพิธีเผา และพิธีลอยอังคาร สำหรับเรื่องเงินเยียวยา 10 ล้านบาท ตนขอยืนยันว่ายังคงเป็นจำนวนนั้น ซึ่งเล็งเห็นว่าเป็นค่าอุทาหรณ์ที่สำคัญมากกับประเทศไทย เพราะทุกรัฐบาลเราจะเห็นข่าวคนตกท่อเป็นประจำแต่ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์กับพี่ชายตน
ตนออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมกลับพบว่า ฝาท่อที่เคยหายไป 156 ท่อ กลับครบถ้วน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้รับเหมาแท้จริงนั้นมีความสามารถที่จะดำเนินการเรื่องเหล่านี้ได้แต่ไม่คิดจะลงมือทำ
นายกำพนธ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ราชการไทยควรมีความรับผิดชอบกับประชาชน เพราะเราเป็นผู้เสียภาษี ควรจะได้รับการพัฒนาประเทศที่ดีขึ้นได้แล้ว สำหรับกรณีการไฟฟ้าที่ออกมาให้ข้อมูลว่าฝาท่อถูกขโมย ตนมองว่าไม่ใช่ข้ออ้าง เพราะหากเป็นของที่บ้านเราหายยังรีบตรวจสอบกล้องวงจรปิด และคงไม่ต้องรอให้หายถึง 156 ท่อ
ขนาดพี่ชายตนตกลงไปยังมีกล้องสามารถตรวจพบได้อย่างชัดเจน ทั้งนี้ผู้รับเหมาที่ดูแลก็ควรแจ้งข้อมูลให้รับทราบชัดเจน และไม่ควรนำฝาไม้มาวางแทนที่ฝาเหล็ก
“ส่วนการแจ้งข้อหาในทางคดีอาญาเรื่องประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายนั้น ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุป ยังต้องรอให้งานเผาจบก่อน ซึ่งพี่เขยอยู่ระหว่างการปรึกษากับทนายเดชา แต่ใจผมอยากให้คดีความเกิดขึ้นเพราะจะส่งผลต่อความเป็นอยู่ของประชาชนในทางที่ดีขึ้น
ทั้งนี้ผมขอยืนยันว่า จะฟ้องร้องอย่างแน่นอน โดยไม่มีจุดประสงค์เพื่อให้ใครติดคุก เพียงแค่อยากให้ผู้ที่ดูแล หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกิดความรับผิดชอบ” นายกำพนธ์ กล่าว
ด้านนายชัชชาติ เปิดเผยว่า สำหรับทางกทม. ไม่มีระเบียบเรื่องนโยบายช่วยเหลือเรื่องเงินเยียวยากับผู้เสียชีวิตรายนี้ เนื่องจากไม่ใช่เรื่องของทางสาธารณภัย แต่ได้สั่งการให้ทางรองผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนกับทางครอบครัวผู้เสียชีวิต
ทั้งนี้ได้ประสานให้ทางเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปช่วยเหลือพี่สาวผู้เสียชีวิต เนื่องจากทราบข้อมูลว่าพักอาศัยอยู่เพียงลำพัง และเป็นผู้ป่วยที่มีโรคเรื้อรัง นอกจากนี้ตนได้กำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบดูแลเรื่องฝาท่อในจุดเสี่ยงที่จะเกิดอันตราย
ส่วนเรื่องอุบัติเหตุรถจยย.ล้มแล้วตกลงไปในท่อระบายน้ำในอุโมงค์มไหสวรรค์ ได้สั่งการให้ทางสำนักการโยธาไปตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว ซึ่งขณะนี้ตรวจพบว่าถูกขโมยไป โดยหลังจากนี้จะมีมาตรการอ๊อกท่อฝาเหล็กปิดไปเลย หากจำเป็นจะต้องใช้วิธีการสกัดออกอีกครั้ง
นายฐิติวุฒิ กล่าวว่า ขณะนี้ได้ประสานเจ้าหน้าที่เรื่องเงินเยียวยาเบื้องต้นให้กับทางครอบครัวผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนเงิน 5 หมื่นบาท นอกจากนี้ทางพนักงานการไฟฟ้านครหลวงได้ร่วมกันสมทบเงินอีกจำนวนหนึ่ง
ภายหลังจากเสร็จสิ้นงานฌาปนกิจศพจะนัดพบกับทางครอบครัวผู้เสียชีวิตเพื่อออกมาตรการการเยียวยาที่ทางญาติเรียกร้องค่าเสียหายจำนวน 10 ล้านบาท แต่จะต้องดูระเบียบข้อบังคับของทางการไฟฟ้านครหลวงให้แน่ชัดอีกครั้ง สำหรับเรื่องฝาท่อตรงจุดเกิดเหตุที่หายไปนั้นจะประสานทางทีมกฎหมายดำเนินคดีแจ้งความเพิ่มเติมในฐานะเจ้าของโครงการต่อไป
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : เผาแล้ว ชาย59ตกท่อดับ ญาติเศร้า ชัชชาติ-รองผู้ว่าฯ กฟน. ร่วมอาลัย ญาติยันเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.khaosod.co.th