เปิดอันดับ 5 แบงก์ใหญ่ของไทย ใครแข็งแกร่งที่สุด
จากการตรวจสอบข้อมูลหลังจากที่กลุ่มแบงก์ได้มีการประกาศผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 1/2567 ซึ่งรายการย่อแสดงสินทรัพย์และหนี้สิน ณ สิ้นวันที่ 31 มีนาคม 2567 ที่แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 5 อันดับ ธนาคารเอกชนขนาดใหญ่ของไทยที่จดทะเบียนใน SET ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK, บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB, ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB, ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL และธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY พบว่า
ธนาคารเอกชนขนาดใหญ่ของไทยที่มีสินทรัพย์รวมสูงสุด ณ สิ้นไตรมาส 1/2567 นำโดย BBL ที่มีสินทรัพย์รวม 3,968.893.347 ล้านบาท รองลงมา คือ KTB อยู่ที่ 3,624,082.267 ล้านบาท และ KBANK อยู่ที่ 3,581,974.224 ล้านบาท ขณะที่ SCB และ BAY มีสินทรัพย์รวมอยู่ที่ระดับ 3,407,138.135 ล้านบาท และ 2,610,113.890 ล้านบาท ตามลำดับ
ส่วน 5 อันดับ ธนาคารเอกชนขนาดใหญ่ของไทยที่มีหนี้สินรวมสูงสุด ณ สิ้นไตรมาส 1/2567 นำโดย BBL ที่มีหนี้สินรวม 3,446,380.737 ล้านบาท รองลงมา คือ KTB จำนวน 3,232,641.159 ล้านบาท และ KBANK จำนวน 3,091,681.568 ล้านบาท ในขณะที่ SCB และ BAY มีหนี้สินรวมอยู่ที่ระดับ 2,911,894.927 ล้านบาท และ 2,337,677.476 ล้านบาท ตามลำดับ
ขณะที่เงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้และดอกเบี้ยค้างรับสุทธิสูงสุด ณ สิ้นไตรมาส 1/2567 ของธนาคารเอกชนขนาดใหญ่ของไทย 5 อันดับสูงสุด นำโดย KTB ที่มีเงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้และดอกเบี้ยค้างรับสุทธิอยู่ที่่ 2,386,506.504 ล้านบาท รองลงมือ คือ SCB ที่ 2,323,395.385 ล้านบาท และ KBANK ที่ 2,216,615.641 ล้านบาท ขณะที่ BBL และ BAY เงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้และดอกเบี้ยค้างรับสุทธิอยู่ที่ระดับ 2,104,860.194 ล้านบาท และ 1,676,660.016 ล้านบาท ตามลำดับ
ด้านเงินรับฝากสูงสุด 5 อันดับ ธนาคารเอกชนขนาดใหญ่ของไทย ณ สิ้นไตรมาส 1/2567 นำโดย BBL ที่มีเงินรับฝาก อยู่ที่ 2,722,564.621 ล้านบาท รองลงมา คือ SCB ที่ระดับ 2,410,605.706 ล้านบาท และ KBANK อยู่ที่ 2,673,980.996 ล้านบาท ในขณะที่ KTB และ BAY มีเงินรับฝากที่ระดับ 2,607,810.636 ล้านบาท และ 1,976,382.986 ล้านบาท ตามลำดับ
สำหรับกำไรสะสมสูงสุด ณ สิ้นไตรมาส 1/25675 ของ 5 อันดับ ธนาคารเอกชนขนาดใหญ่ของไทย นำโดย SCB ที่มีกำไรสะสมอยู่ที่ 423,962.051 ล้านบาท รองลงมา คือ KBANK จำนวน 410,975.889 ล้านบาท และ BBL จำนวน 390,825.610 ล้านบาท ในส่วนของ KTB และ BAY มีกำไรสะสมอยู่ที่ระดับ 277,145.480 ล้านบาท และ 139,820.733 ล้านบาท ตามลำดับ
