เปิดประวัติ 6 รมต.ป้ายแดง ‘ครม.เศรษฐา 2‘ เช็คเลยใครเป็นใคร
“ครม.เศรษฐา 2” เคาะคบลงตัว โดยมีว่าที่รัฐมนตรีหน้าใหม่จำนวน 6 ราย ได้แก่ นายพิชัย ชุณหวชิร รมว.คลัง นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง น.ส.จิราพร สินธุไพร รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายพิชิต ชื่นบาน รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรและสหกรณ์ และนายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์
ประวัติว่าที่รัฐมนตรีหน้าใหม่ 6 ราย ใน ครม.เศรษฐา 2 มีดังนี้
โควตาพรรคเพื่อไทย 4 ราย ได้แก่
พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง
ประวัติส่วนตัว พิชัย ชุณหวชิร เกิด 15 ก.พ. พ.ศ. 2492 เป็นนักธุรกิจเเละนักการเมืองชาวไทย เคยเป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน เคยเป็นประธานคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และประธานกรรมการ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
ก่อนหน้านี้เคยดำรงตำแหน่งสำคัญหลายตำแหน่ง อาทิ กรรมการ ธนาคารแห่งประเทศไทย นายกสภาวิชาชีพบัญชี ในพระบรมราชูปถัมภ์ และปัจจุบันนายพิชัยยังดำรงตำแหน่งสำคัญในองค์กรธุรกิจ อาทิ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ปรึกษาคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เป็นต้น
ทั้งนี้ในช่วงปี 2558-2559 ระหว่างสืบพยานคดีไม่ระงับยับยั้งความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าวในชั้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่มี “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อดีตนายกฯ เป็นจำเลย ได้ยื่นชื่อของ “พิชัย” เข้าเป็นพยานไต่สวนปากสำคัญของคดีนี้ด้วย โดยนำสืบประเด็นโครงการรับจำนำข้าวมิได้มีการขาดทุน
เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง
ประวัติส่วนตัว เผ่าภูมิ โรจนสกุล เกิดเมื่อวันที่ 22 ก.พ. พ.ศ. 2526 สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จากนั้นได้ไปศึกษาต่อที่สหรัฐ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทใบที่ 1 จากคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยแมสซาชูเซตส์ บอสตัน ปริญญาโทใบที่ 2 และปริญญาเอก ด้านจากคณะเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยอิลลินอย ชิคาโก
ตัวเขาถือเป็น “ยังบลัด” คนรุ่นใหม่ในพรรคเพื่อไทย ที่ก้าวขึ้นมามีบทบาทในพรรคตั้งแต่ช่วงปี 2562 ดูแลด้านเศรษฐกิจ และทีมนโยบายของพรรค โดยจุดเริ่มต้นเส้นทางการเมืองของเขาคือขึ้นมาช่วยงาน “ภูมิธรรม เวชยชัย”
อีกหนึ่งสายตรง “บ้านจันทร์ส่องหล้า” อดีตเลขาธิการพรรค ปัจจุบันเป็นรองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ โดยทำงานช่วยมาหลายปีจนได้รับความไว้วางใจจากภูมิธรรม กระทั่งถูกผลักดันให้เข้ามามีบทบาทในกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย กระทั่งถูกหนุนเป็น รมช.คลัง ดังกล่าว
พิชิต ชื่นบาน รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ประวัติส่วนตัว พิชิต ชื่นบาน จบปริญญาตรี นิติศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับ 2) ม.รามคำแหง ปริญญาโท นิติศาสตรมหาบัณฑิต ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ สาขากฎหมายมหาชน เนติบัณฑิตไทย ปริญญาโท ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (รัฐศาสตร์) ม.รามคำแหง ปริญญาเอก ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาบริหารธุรกิจอุตสาหกรรม สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
เขาคือหนึ่งในมือกฎหมายที่ “บ้านจันทร์ส่องหล้า” ไว้วางใจเป็นอย่างมาก โดย “ตระกูลชินวัตร” มอบหมายให้เป็นหัวหน้าทีมทนายความทำคดีต่าง ๆ ตั้งแต่รัฐประหารปี 2549 กระทั่งเคยถูกคำพิพากษาจำคุก 6 เดือน ไม่รอลงอาญา ต่อเนื่องจาก คดีถุงขนม 2 ล้านบาท
ต่อมาในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เขาคือหนึ่งในผู้กลั่นกรองร่างกฎหมายต่าง ๆ ของพรรคก่อนเข้าสู่สภาฯ และเป็นหัวหน้าทีมทนายต่อสู้คดีไม่ระงับยับยั้งความเสียหายในคดีจำนำข้าวอีกด้วย
นอกจากนี้เมื่อปี 2562 เมื่อ “ชินวัตร” ใช้แผน “แตกแบงก์พัน” เขาได้รับบทบาทให้โยกย้ายไปนั่งประธานที่ปรึกษากฎหมายพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) แต่เมื่อพรรคถูกยุบ ได้กลับมาสังกัดพรรคเพื่อไทยอีกรอบจนถึงปัจจุบัน
จิราพร สินธุไพร สส.ร้อยเอ็ด รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ประวัติส่วนตัว จิราพร สินธุไพร เกิดเมื่อวันที่ 1 ก.ย. พ.ศ. 2530 สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมต้นที่ โรงเรียนยโสธรพิทยาคม อำเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร ก่อนจะเข้ามาศึกษาต่อในระดับชั้นมัธยมปลายที่ โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรี คณะศิลปศาสตร์บัณฑิต ที่ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ
ปริญญาโท รัฐศาสตร์มหาบัณฑิต ที่ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปริญญาโทใบที่สอง Master of Science (International Business) University of Reading เกียรตินิยมอันดับ 2 ที่ ประเทศอังกฤษ เเละขณะนี้กำลังศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี คณะนิติศาสตร์บัณฑิต (น.บ.) ที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
“จิราพร” หรือ “น้ำ” คือบุตรสาวคนโตของ “นิสิต สินธุไพร” อดีต สส.ร้อยเอ็ด อดีตกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน และอดีตแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ (นปช.) กับ “เอมอร สินธุไพร” อดีต สส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย มีน้องสาวหนึ่งคนคือ “ชญาภา สินธุไพร” สส.ร้อยเอ็ด เขต 8 พรรคเพื่อไทย โดยในช่วงปี 2562 “น้ำ”
มีบทบาทอย่างมากในสภาฯ ในการวิพากษ์วิจารณ์ หาข้อมูลมาอภิปราย “รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” จนมีแฟนคลับติดตามเป็นจำนวนมาก สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับพรรคเพื่อไทย
โควตาพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) 1 ราย คือ อรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา รมช.เกษตรและสหกรณ์
ประวัติส่วนตัว อรรถกร ศิริลัทธยากร เกิดเมื่อวันที่ 7 ส.ค. พ.ศ. 2527 ที่ตำบลพนมสารคาม อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นบุตรของ อิทธิ ศิริลัทธยากร อดีต รมช.คมนาคม อดีต สส.ฉะเชิงเทรา หลายสมัย อดีตแกนนำ นปช. และอดีต “กลุ่ม 16” สังกัด “ซุ้มบ้านริมน้ำ” ของ “สุชาติ ตันเจริญ” จบการศึกษาระดับปริญญาตรี ด้าน Communication Arts จากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ และปริญญาโท Marketing Management จาก MIDDLESEX UNIVERSITY ประเทศอังกฤษ
ก่อนหน้านี้เขาประกอบอาชีพธุรกิจส่วนตัว หลังจากนั้นสนใจทางการเมืองตามบิดา เลยมาร่วมกับพรรคเพื่อไทย และในปี 2554 ถูกส่งลงสมัครรับเลือกตั้ง สส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 54 จนได้เป็น สส.สมัยแรก อย่างไรก็ดีก่อนการเลือกตั้ง 2562
เขาย้ายมาสังกัดพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ตามสนับสนุนของบิดา จนถูกผลักดันให้ลง สส.บัญชีรายชื่อ ลำดับ 18 และได้รับการเลือกตั้งอีกครั้ง ในช่วงเวลาดังกล่าวเขาเข้าไปเป็นผู้ช่วยเลขานุการวิปรัฐบาล กระทั่งปี 2564 ถูกดันเป็นกรรมการบริหารพรรค พปชร. และโฆษก พปชร. ในเวลาต่อมา
โควตาพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) 1 ราย คือ สุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์
ประวัติส่วนตัว สุชาติ ชมกลิ่น เกิดเมื่อวันที่ 15 ก.ค. พ.ศ. 2517 เป็นบุตรชายของวิเชียร ชมกลิ่น อาศัยอยู่ที่ ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาการจัดการ จากมหาวิทยาลัยเกริก สมรสกับวิมลจิต อรินทมะพงษ์
“สุชาติ” หรือ “เสี่ยเฮ้ง” เป็นอดีตเด็ก “ซุ้มชลบุรี” โดยเข้าสู่ถนนการเมืองครั้งแรกกับการเป็น ส.อบจ.ชลบุรี พร้อม ๆ กับการประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ควบคู่ไปด้วย หลังจากนั้นเขาถูกผลักดันให้เป็น สส.ชลบุรี สมัยแรกสังกัดพรรคพลังชล อย่างไรก็ดีในช่วงปี 2561 ที่กำลังก่อร่างสร้างพรรค พปชร.
เขาเริ่มแยกตัวออกมาสร้างซุ้มตัวเอง ก่อนจะถูกผลักดันให้เป็น สส.ชลบุรี พปชร. จนสร้างความบาดหมางรอยร้าวให้แก่ “ซุ้มชลบุรี” ที่นำโดย “ตระกูลคุณปลื้ม” มาถึงปัจจุบัน
โดยในช่วงที่เขาสังกัด พปชร.เขาได้พยายามใกล้ชิดกับกลุ่ม “พล.อ.ประยุทธ์” จนได้รับความไว้วางใจให้เป็น รมว.แรงงาน หลังจากนั้นเมื่อการตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เพื่อสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ให้เป็นนายกฯอีกสมัย
“เสี่ยเฮ้ง” ได้ออกจาก พปชร.ไปสังกัด รทสช.ด้วย และในการเลือกตั้งปี 2566 เขาได้รับเลือกตั้งเป็น สส.บัญชีรายชื่อ รทสช. แม้ว่าซุ้มของเขาจะพ่ายแพ้การเลือกตั้งใน จ.ชลบุรี ได้มาเพียง 1 ที่นั่งก็ตาม
