เครื่องเทศของสองผู้ผลิตจากอินเดียถูกเรียกคืน หลังพบสารเคมีก่อมะเร็ง
บริษัทอินเดีย ตกเป็นข่าวเกี่ยวเนื่องกับ ความปลอดภัยของผู้บริโภค อีกครั้ง หลังจากที่เพิ่งเกิดเหตุยาน้ำแก้ไอที่ผลิตในอินเดียมีส่วนเชื่อมโยงกับการเสียชีวิตของเด็กกว่า 140 รายในแอฟริกาได้ไม่ถึง 1 ปี สัปดาห์นี้ ถึงคราวของ บริษัทเอ็มดีเอช (MDH) และ บริษัทเอเวอเรสต์ (Everest) ผู้ผลิตเครื่องเทศ ของอินเดีย ที่ถูกทางการฮ่องกงสั่งระงับการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ และตามมาด้วยหน่วยงานของประเทศต่าง ๆ เช่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และสหรัฐอเมริกา ที่กำลังดำเนินการตรวจสอบเครื่องเทศบรรจุหีบห่อของทั้งสองบริษัทดังกล่าว
สำนักข่าวนิกเกอิ เอเชีย สื่อใหญ่ของญี่ปุ่น รายงานว่า ก่อนหน้านี้ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) เคยสั่งเรียกคืนเครื่องเทศผสม ของบริษัทเอเวอเรสต์มาแล้วเมื่อปี 2566 และผลิตภัณฑ์ของเอ็มดีเอชในปี 2562 เนื่องจากพบการปนเปื้อนของเชื้อซัลโมเนลลา (Salmonella)
ส่วนกรณีล่าสุดนั้น เริ่มจากการที่ศูนย์ความปลอดภัยด้านอาหารของฮ่องกง (CFS) ระบุในแถลงการณ์เมื่อวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมาว่า ได้ตรวจพบ เอทิลีนออกไซด์ (ethylene oxide) ซึ่งเป็น สารกำจัดศัตรูพืชที่อาจก่อให้เกิดมะเร็ง หากบริโภคในปริมาณสูง ในเครื่องเทศบรรจุหีบห่อของบริษัทเอ็มดีเอชจำนวน 3 รายการ และ 1 รายการของบริษัทเอเวอเรสต์ พร้อมระบุเสริมว่า ได้เรียกคืนผลิตภัณฑ์ดังกล่าวและนำออกจากชั้นวางจำหน่ายทั้งหมดแล้ว
หลังจากนั้นไม่กี่สัปดาห์ สำนักงานอาหารสิงคโปร์ (SFA) ได้สั่งเรียกคืน “มาซาลา” ซึ่งเป็นเครื่องเทศผสมสำหรับแกงปลาของเอเวอเรสต์ โดยระบุในแถลงการณ์ว่า ผู้บริโภคที่ซื้อผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้รับคำแนะนำ “ไม่ให้บริโภค” ผลิตภัณฑ์เหล่านั้น
สำนักงานอาหารสิงคโปร์ (SFA) ได้สั่งเรียกคืน “มาซาลา” ซึ่งเป็นเครื่องเทศผสมสำหรับแกงปลาของเอเวอเรสต์
SFA ระบุเสริมว่า เนื่องจากผลิตภัณฑ์ดังกล่าวถูกนำเข้ามายังสิงคโปร์ SFA จึงได้สั่งให้ผู้นำเข้าในสิงคโปร์เรียกคืนผลิตภัณฑ์ทั้งหมด พร้อมชี้แจงว่า แม้การบริโภคอาหารที่ปนเปื้อนเอทิลีนออกไซด์ในระดับต่ำจะไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงในทันที แต่การได้รับสารดังกล่าวในระยะยาวอาจส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพได้
ด้านคณะกรรมการบริหารเครื่องเทศของอินเดีย ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐบาลที่รับผิดชอบในการกำกับดูแลการส่งออกเครื่องเทศระบุว่า ขีดจำกัดที่ยอมรับได้สำหรับเอทิลีนออกไซด์นั้นแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ ยกตัวอย่างเช่น
- อังกฤษและนอร์เวย์ จำกัดไว้ที่ 0.02 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมของเครื่องเทศ
- ส่วนแคนาดาและสหรัฐอเมริกา จำกัดไว้ที่ 7 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
ทั้งนี้ สารกำจัดศัตรูพืชถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในภาคการเกษตรของอินเดีย ซึ่งมักก่อให้เกิดการตกค้างในผลิตภัณฑ์อาหาร ตัวเลขคาดการณ์ของรัฐบาลอินเดียระบุว่า พื้นที่เพาะปลูกที่ใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชเพิ่มขึ้น 33.4% จากปีงบประมาณ 2561 ถึงปีงบประมาณ 2565 โดยครอบคลุมพื้นที่ 108,216 เฮกตาร์ หรือประมาณ 7 เท่าของพื้นที่เพาะปลูกที่ใช้สารกำจัดศัตรูพืชทางชีวภาพ
สารกำจัดศัตรูพืชถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในภาคการเกษตรของอินเดีย
อย่างไรก็ตาม ฮ่องกงและสิงคโปร์ไม่ได้เปิดเผยปริมาณสารเอทิลีนออกไซด์ในผลิตภัณฑ์ที่เรียกคืน ส่วนทางเอ็มดีเอชและเอเวอเรสต์ ก็ยังไม่ได้ตอบกลับการติดต่อของสื่อเพื่อขอความคิดเห็น
บริษัทวิจัยโกลบอล เทรด รีเสิร์ช อินิชิเอทีฟ (GTRI) ระบุในรายงานเมื่อวันที่ 1 พ.ค.ว่า การตรวจสอบในสหรัฐ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ฮ่องกง และสิงคโปร์ ก่อให้เกิดคำถามในตลาดส่งออกผลิตภัณฑ์ดังกล่าวที่มีมูลค่าประมาณ 700 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 25,830 ล้านบาท
ทั้งนี้ ทางการยุโรปก็ได้ตรวจสอบอาหารอินเดียอย่างเข้มงวดเช่นกัน โดยระบบเตือนภัยสินค้าด้านอาหารของคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) คาดการณ์ว่า นับตั้งแต่ต้นปี 2566 ผลิตภัณฑ์อาหารของอินเดียถือเป็นความเสี่ยงที่ “ร้ายแรง” ใน 166 กรณี ซึ่งรวมถึง 9 กรณีที่ตรวจพบเอทิลีนออกไซด์ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเครื่องเทศในประเทศต่าง ๆ เช่น สวีเดน กรีซ และอิตาลี
ข้อมูลอ้างอิง