อัยการสาวร้อง ก.อ. ถูกเเกล้งย้ายไม่เป็นธรรม หลังไม่ยอมให้ลวนลาม รอง อสส. เครียดจัด เเจ้งความกลับ
อัยการสาวร้อง ก.อ. ถูกเเกล้งย้ายไม่เป็นธรรม หลังไม่ยอมให้ลวนลาม รอง อสส. เครียดจัด เเจ้งความกลับ
เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนเเจ้งวัฒนะ นายเรวัตร จันทร์ประเสริฐ ประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) เป็นประธานการประชุม ก.อ. โดยมีวาระสำคัญพิจารณาเเต่งตั้งโยกย้ายตำแหน่งอัยการชั้นสี่ระดับผู้กลั่นกรองลงมา มีรายงานว่า พนักงานอัยการหญิงที่ลงบันทึกประจำวันที่ สภ.ท่าฉัตรไชย อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ว่าโดน รอง อสส. กระทำอนาจาร ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนกรณีถูกโยกย้ายไม่เป็นธรรมจากรอง อสส. คนดังกล่าว ต่อคณะกรรมการอัยการเเล้ว
ในที่ประชุม ก.อ. มีการพิจารณาเรื่องที่มีการร้องเรียนเข้ามาเป็นวาระท้ายๆ ภายหลังพิจารณาเรื่องการเเต่งตั้งโยกย้ายซึ่งเป็นวาระหลัก ยังมีรายงานอีกว่า รอง อสส. ซึ่งตกเป็นคู่กรณีตามข่าวก็เดินทางมาประชุมในฐานะ ก.อ. ในวันนี้ด้วย ซึ่งแหล่งข่าวที่ได้พบเจอพบว่า รอง อสส. คนนี้มีสีหน้าไม่สู้ดี เเละเคร่งเครียดอย่างชัดเจน
บรรยากาศวันนี้มีผู้สื่อข่าวมาปักหลักทำข่าวที่สำนักงานอัยการสูงสุดจำนวนมาก ซึ่งผู้สื่อข่าวพยายามที่จะโทรศัพท์ไปสอบถามกับอัยการสาวผู้เสียหายตั้งแต่ช่วงเช้า แต่ก็ไม่ได้รับสาย จนกระทั่งมารับสายในช่วงบ่าย เมื่อผู้สื่อข่าวแจ้งแสดงตัวเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ก็ได้รับการปฏิเสธไม่ให้ข้อมูล พร้อมกับถามว่า ทราบหมายเลขโทรศัพท์ของตนเองได้อย่างไร ก่อนจะวางหูและไม่สามารถติดต่อได้
สำหรับคดีนี้ อัยการสาวผู้เสียหายได้เข้าเเจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ท่าฉัตรไชย อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ว่าถูกรองอัยการสูงสุดรายหนึ่งลวนลาม จึงมาร้องเรียนกับ ก.อ.
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเย็นวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา รอง อสส. ที่ถูกพนักงานอัยการหญิงกล่าวอ้างว่าลวนลาม ได้เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐานกับพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง โดยปฏิเสธว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด และทำให้ได้รับความเสียหายเสื่อมเสียชื่อเสียง ส่วนสาเหตุคาดว่ามาจากการที่พนักงานอัยการหญิงรายนี้ไม่พอใจที่ถูกโยกย้าย ซึ่งถูกย้ายจากอัยการแขวงภูเก็ต มาเป็นอัยการ ที่สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดียาเสพติด 4 (กรุงเทพใต้) ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลหากพบว่ามีผู้กระทำความผิดจะดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดต่อไป
ทั้งนี้ การเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐาน ต่อพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง ดังกล่าว รอง อสส.รายนี้ ระบุว่า ตามที่ได้ปรากฎทางสื่อสารมวลชนต่างๆ ว่า ได้มีการนำรายงานประจำวันของพนักงานอัยการหญิงท่านหนึ่ง ออกเผยแพร่ทางสื่อมวลชน โดยมีข้อเท็จจริงว่าผู้แจ้งตำแหน่งรองอัยการสูงสุดได้ไปรับประทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ย่านเหม่งจ๋าย ถนนประชาอุทิศ ขณะอยู่ในร้าน ผู้แจ้งเดินเข้าไปโอบกอดที่ร่างกายของพนักงานอัยการหญิงท่านนั้น โดยไม่ได้รับความยินยอม หลังจากนั้นผู้แจ้งได้ชวนพนักงานอัยการหญิงท่านนั้นขึ้นไปนั่งบนรถของผู้แจ้งแล้ว ผู้แจ้งได้เอื้อมมือมาโอบกอดพนักงานอัยการหญิงท่านนั้น พร้อมกับยื่นหน้าเข้ามาใกล้ใบหน้าของพนักงานอัยการหญิงท่านนั้น แล้วบอกว่าขอหอมแก้มหน่อย แต่พนักงานอัยการหญิงท่านนั้นไม่ยินยอม จึงใช้มือปัดออกแล้วปฏิเสธไม่ให้ทำ และเป็นเหตุให้ผู้แจ้งไม่พอใจ และไล่ลงจากรถ
การที่พนักงานอัยการสาวผู้เสียหายแจ้งความ จนเป็นข่าวสู่สาธารณชน ทำให้ผู้ถูกกล่าวหาเสื่อมเสียชื่อเสียง และได้รับความเสียหายอย่างยิ่ง อีกทั้งดำรงตำแหน่งเป็นข้าราชการอัยการระดับสูง ซึ่งสาเหตุคาดว่ามาจากการที่พนักงานอัยการสาวไม่ใด้รับการแต่งตั้งโยกย้ายให้เป็นไปตามความประสงค์ของตนเอง ในวันนี้จึงมาแจ้งข้อความไว้เป็นหลักฐาน และขณะนี้อยู่ในระหว่างการตรวจสอบ หากพบว่ามีผู้กระทำความผิดก็จะดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดต่อไป