สาวร้องสายไหมต้องรอด หลังเผชิญเพื่อนบ้านมหาภัย ปาขยะเข้าบ้านนานนับปี

สาวร้องสายไหมต้องรอด หลังเผชิญเพื่อนบ้านมหาภัย ปาขยะเข้าบ้านนานนับปี

1 พ.ค. 67 สองสามีภรรยา เข้าร้องเรียนกับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษาว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เกี่ยวกับเพื่อนบ้านข้างเคียงที่มักขว้างปาสิ่งของและสิ่งปฏิกูลต่าง ๆ เข้ามายังบ้านตน

ตัวภรรยา หรือ นางปราง อายุ 26 ปี ระบุว่า บ้านของเธออยู่ภายในพื้นที่เขตบางเขน ถูกเพื่อนบ้านข้างเคียงขว้างปาสิ่งของและสิ่งปฏิกูลเข้าบ้านเป็นประจำ ตั้งแต่การสาดน้ำ โยนวัตถุของแข็งบางอย่าง ไปจนถึงถุงพลาสติก ซึ่งเจ้าของบ้านเกิดความเดือดร้อนและทนมาเกือบปี แต่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้

นางปรางเล่าว่า บ้านคู่กรณีอยู่มา 10 กว่าปีแล้ว ตั้งแต่ประมาณปี 2557 ซึ่งขณะที่ฝั่งผู้ก่อเหตุกำลังสร้างบ้าน เกิดเหตุการณ์ปูนกระเด็นใส่บ้านขอเธอ ตอนนั้นได้มีการพูดคุยเจรจาและตกลงค่าเสียหายกัน 600 บาทเป็นที่เรียบร้อย

แต่ฝั่งผู้ก่อเหตุเหมือนยังไม่จบ เพราะตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ฝั่งผู้ก่อเหตุมักจะมาก่อกวนสร้างความรำคาญที่บ้านอยู่ตลอด ทั้งการนำปัสสาวะมาเทหน้าบ้าน เอาข้าวมาละเลงที่รถ ไปจนถึงเคยถือมีดบุกเข้ามาในบ้าน แต่ครั้งนั้นอ้างว่ามาเพื่อดายหญ้าเฉย ๆ ซึ่งทางบ้านก็อดทนกับเหตุการณ์นี้มาโดยตลอด เพราะมองว่าต่างคนต่างอยู่

ปรากฎว่า 2 ปีที่ผ่านมา เธอและคนในบ้านเริ่มเห็นว่า ฝั่งผู้ก่อเหตุได้มีการปาขยะ สาดน้ำ ถีบถังขยะหน้าบ้าน และโยนของไม่ใช้ใส่บ้านของเธอ จนที่บ้านต้องไปพูดคุยกับลุงคนนี้หลายครั้ง แต่ลุงคนนี้กลับไม่ยอมพูดคุย อ้างปฏิเสธว่าไม่ได้ทำ และยังมีการพูดจาต่อว่าด่าทอแบบไร้เหตุผล

ตนจึงเข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.คันนายาว และเคยให้สายตรวจมาช่วยพูดคุย แต่ลุงคนนี้ก็ปฏิเสธ ไม่ให้ความร่วมมือกับตำรวจ อ้างว่าไม่ได้ทำ เลยทำให้เธอบอกกับ ผู้ก่อเหตุไปว่าหลังจากนี้จะดำเนินการติดกล้องวงจรปิด ซึ่ง ผู้ก่อเหตุก็รับทราบ แต่ก็ยังปาขยะใส่ตามภาพวงจรปิดเรื่อย ๆ

กระทั่งเมื่อ 30 เม.ย. 67 เธอจึงตัดสินใจแจ้งความตำรวจ สน.คันนายาว อีกครั้ง เพราะถูกผู้ก่อเหตุท้าทายให้แจ้งความเอาหมายเรียกมาเรียก พร้อมกับนำภาพกล้องวงจรปิดไปแจ้งความ แต่ตำรวจระบุว่า ผู้ก่อเหตุ ไม่ให้ความร่วมมือใด ๆ และไม่ให้ชื่อ จึงไม่สามารถออกหมายเรียกได้ เธอจึงอยากร้องเรียนสายไหมต้องรอดให้ช่วยเหลือแก้ไขปัญหาและให้ ผู้ก่อเหตุออกมาคุยตรง ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น มีปัญหาข้องใจใด ๆ ถึงก่อเหตุแบบนี้

นายเอกภพ เผยว่า เบื้องต้นจะประสานทางผู้อำนวยการเขตบางเขต ส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบปัญหาที่เกิดขึ้น เนื่องจากเข้าข่ายการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการดำเนินคดีของตำรวจ

ซึ่งตามพยานหลักฐานที่มีอยู่ในขณะนี้ พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลคันนายาวสามารถที่จะดำเนินคดีได้ ส่วนเรื่องการข่มขู่คุกคามสามารถลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน หากมีพยานหลักฐานหรือเพื่อนบ้านยังมีพฤติกรรมข่มขู่หรือคุกคาม ผู้เสียหายสามารถแจ้งความดำเนินคดีโดยตรงได้ทันที โดยทางเพจสายใหม่ต้องรอดจะเป็นสื่อกลางติดตามความคืบหน้ากับปัญหาเรื่องนี้อย่างต่อนื่อง