สหกรณ์ครู สระบุรี กาง 4 ปัจจัย ลดดอกเบี้ยเงินกู้เหลือ 4.5%
สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย (สสท.) จัด เสวนา หัวข้อ “ชวนคิด ชวนคุย ดอกเบี้ยเงินกู้ 4.75 ทำได้จริงหรือ” เชิญสหกรณ์ออมทรัพย์ที่มีผลประกอบการดีเด่น มีผลิตภัณฑ์เงินฝากและเสถียรภาพทางด้านการเงินร่วมสร้างความมั่นใจในการลดดอกเบี้ยเงินกู้เหลือ 4.75%
โดยหนึ่งในนั้นคือ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูสระบุรี จำกัด (สอ.ครู สระบุรี) ที่สามารถเริ่มดำเนินการลดดอกเบี้ยเงินกู้ลง เหลือ 4.5% ต่อปี ตั้งแต่ปี 2564 จากเดิมที่ดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ในระดับสูงถึง 6% ต่อปี ในปีช่วงปี 2561
นายเล็ก ทาเพชร รองประธานกรรมการดำเนินการ ประธานสหกรณ์ออมทรัยพ์ครูสระบุรี จำกัด รายงานว่า ปัจจุบันสหกรณ์มีสมาชิก 8,448 คน แบ่งเป็นสมาชิกสมทบ 1,152 คน และมีสมาชิกสามัญ 7,296 คน ซึ่งในจำนวนสมาชิกสามัญ มีสัดส่วนผู้กู้เงินกว่า 5 พันคน และมีผู้เงินฝากและหุ้น โดยไม่กู้เงินเพียงกว่า 1,700 คนเท่านั้น แต่สหกรณ์ก็สามารถบริการจัดการการเงินได้ดี สามารถลดดอกเบี้ยเงินกู้เหลือ 4.5% มาแล้ว 3 ปีบัญชี
เล็ก ทาเพชร รองประธานกรรมการดำเนินการ ประธานสหกรณ์ออมทรัยพ์ครูสระบุรี จำกัด
ฐานะทางการเงิน
- ทุนเรือนหุ้น 5,819.36 ล้านบาท
- ทุนดำเนินการ 11,942.17 ล้านบาท
- เงินรับฝาก 3,957.46 ล้านบาท
- เงินกู้ยืมจากสหกรณ์อื่น 1,512.76 ล้านบาท
- เงินให้กู้แก่สมาชิก 11,680.29 ล้านบาท
ดอกเบี้ยเงินกู้
- ปี 61 ดอกเบี้ยเงินกู้ 6%
- ปี 62 ดอกเบี้ยเงินกู้ 5.75%
- ปี 63 ดอกเบี้ยเงินกู้ 5.25%
- ปี 64 ดอกเบี้ยเงินกู้ 5% (ปรับลดเหลือ 4.5% ในช่วงเดือน ก.ย.)
- ปี 64-67 คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 4.5% ทุกสัญญา
สำหรับการบริหารงานของ สอ.ครูสระบุรี นั้น ใช้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้เดียวในทุกสัญญาการกู้ ที่ 4.5% ต่อปี ได้แก่ เงินกู้สามัญ , เงินกู้ฉุกเฉิน , เงินกู้สามัญโครงการพิเศษระยะสั้น , เงินกู้พิเศษ , เงินกู้โครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินของสมาชิก และ เงินกู้เพื่อพัฒนาอาชีพเสริม
ส่วนดอกเบี้ยเงินรับฝากพิเศษอยู่ที่ 3% มาเป็นระยะเวลา 3 ปีเช่นกัน มีการจ่ายเงินปันผล 4.42% และเฉลี่ยคืน 4.38% สามารถบริหารงานสหกรณ์ทำให้มีกำไรสุทธิ 305.09 ล้านบาทในปี 2566 ที่ผ่านมา และมีกำไรเฉลี่ยในช่วง 7 ปีที่ผ่านมาราว 300 ล้านบาททุกปี
ผลิตภัณฑ์เงินฝาก
- ออมทรัพย์ปกติ อัตราดอกเบี้ย 2% ต่อปี
- ออมทรัพย์พิเศษ อัตราดอกเบี้ย 2.5% ต่อปี
- ออมทรัพย์พิเศษ 2 อัตราดอกเบี้ย 3% ต่อปี
- เงินฝากโครงการพิเศษ 24 เดือน เพื่อระดมทุน อัตราดอกเบี้ย 3.5% ต่อปี
สวัสดิการสมาชิก ได้แก่
- รางวัลเสริมคุณค่าสมาชิก (วันคล้ายวันเกิด) ปีละ 2,000 บาท
- ทุนการศึกษาบุตรสมาชิก 5 แสนบาท
- สวัสดิการสมาชิกอายุครบ 60 ปี (ได้รับเงินเท่ากับอายุสมาชิก x 2,000 บาท แต่ไม่เกิน 75,000 บาท)
- เงินสงเคราะห์ศพสมาชิก (ได้รับเงินเท่ากับอายุการเป็นสมาชิก x 4,000 บาท)
- เงินสงเคราะห์ศพคู่สมรสสมาชิก (ได้รับเงินเท่ากับอายุการเป็นสมาชิก x 2,000 บาท)
ทั้งนี้ กุญแจสำคัญของความสำเร็จในการบริหารงาน คือทุกคนต้องมีแนวคิดว่า ‘สมาชิกเป็นเจ้าของสหกรณ์’ จากนั้นดำเนินการภายใต้ 4 ปัจจัย ได้แก่
- ปัจจัยที่ 1 คณะกรรมการดำเนินการ ต้องมีความเป็นเอกภาพ , มีเป้าหมายเดียวกัน และมีแนวคิดเหมือนกัน รวมถึงต้องเป็นบุคคลที่มีฝีมือ และมีศักยภาพที่แท้จริง
“คณะกรรมการทั้ง 15 คน คือตัวละครสำคัญ ต้องเป็นเอกภาพ และมีการกำหนดไว้ในคุณสมบัติจะต้องผ่านการอบรม เศรษฐศาสตร์ การเงิน การบัญชี และการบริหารจัดการ ที่รับรองโดย คณะกรรมการพัฒนาการสหกรณ์แห่งชาติ (คพช.)“
- ปัจจัยที่ 2 คือการสร้างความเข้าใจร่วมกับสมาชิก ด้วยการประชาสัมพันธ์เชิงรุก , ให้สมาชิกมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็น รวมถึงมีการจัดอบรมหลักสูตรอุดมการณ์ของสหกรณ์และเสริมด้วยกฎหมายใหม่ ๆ เข้าไป
- ปัจจัยที่ 3 คือการกำหนดกรอบระยะเวลา สอ.ครู สระบุรี ใช้เวลาลดดอกเบี้ยเงินกู้ หากนับตั้งแต่วันที่เริ่มต้นดำเนินโครงการคือราว 5 ปี ประกอบกับได้รับผลกระทบจากโควิด19 ทำให้สามารถลดระดับดอกเบี้ยได้รวดเร็ว ทั้งนี้ เข้าใจดีว่าหลายแห่งยังทำไม่ได้ ขอให้ค่อย ๆ วางแผนและปฏิบัติตามขั้นตอน ไม่ต้องรีบร้อน มิเช่นนั้นอาจเกิดวิกฤติได้
- ปัจจัยที่ 4 คือการจัดหาแหล่งทุนต้นทุนต่ำ ซึ่ง สอ.ครู สระบุรี ไม่ได้ใช้แหล่งเงินจากธนาคารพาณิชย์แต่อย่างใด แต่ใช้วิธีการกู้จากสหกรณ์ที่เป็นเครือข่ายพันธมิตรกันในอัตราดอกเบี้ยสมเหตุสมผล ทำให้สามารถบริหารจัดการส่วนต่างดอกเบี้ยได้ สหกรณ์อยู่ได้ สมาชิกก็อยู่ได้
ทั้งนี้การปรับโครงสร้างหนี้ของ สอ.ครู สระบุรี ไม่ได้เข้าโครงการแก้หนี้ครูของกระทรวงศึกษาธิการแต่อย่างใด แต่ใช้วิธีบริหการจัดการเอง หากพบสมาชิกขั้นวิกฤติที่ไม่สามารถจ่ายหนี้ได้ จะทำการเจรจา รวบหนี้ของสมาชิกรายนั้นมาไว้ที่เดียว ทั้งสินเชื่อส่วนบุคคล บัตรเครดิต ฯลฯ เพื่อให้สมาชิกมารับสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำที่ 4.5% ต่อปีจากสหกรณ์ ทำให้สมาชิกมีเงินคงเหลือต่อเดือนมากขึ้น
“ตอนนี้มีบางกลุ่มที่ยังไม่สามารถเข้าร่วมได้ เพราะยอดหนี้ยังสูงเกินกว่าที่สหกรณ์จะรับไหว คาดว่าราว 1-2 ปี จะทยอยนำเข้าโครงการให้ครบ แต่ก็มีลูกหนี้บางราย เมื่อสหกรณ์รวบหนี้หนี้บัตรเครดิตให้แล้ว ก็นำบัตรไปรูดใช้จ่ายเพิ่มอีก สหกรณ์ก็ต้องคอยไปควบคุมพฤติกรรมการใช้จ่ายรายบุคคล”