‘ซาลาเปา’ ขนมเปี๊ยะปิ้ง ของกินของฝากจาก ‘สิงห์บุรี’

ชีพจรลงเท้าท้าลมร้อน มีเวลาสำหรับแวะรับประทานอาหารมื้อกลางวันแบบเร็วๆ และซื้อของฝากไปให้เพื่อนๆ ที่รออยู่ที่ลพบุรี เพื่อนร่วมทางอยากแวะชมโรงหนังเก่าเมืองทองรามาที่สร้างตามแบบของโรงหนังสกาล่าแต่มีขนาดเล็กกว่า

เราจึงมาแวะกิน ก๋วยเตี๋ยวเป็ด ที่อยู่ด้านหลังโรงหนัง ตรงถนนนายจันทร์หนวดเขี้ยว เป็นร้านไม่ติดแอร์ แต่เห็นตู้ก๋วยเตี๋ยวที่ทำด้วยไม้แล้วชอบใจจึงเข้าไปนั่งกิน

ก๋วยเตี๋ยวเสิร์ฟมาในชามพอดี เนื้อเป็ดน้อยไปนิด แต่สั่งพิเศษได้ รสชาติใช้ได้เลย ส่วนข้าวกะเพราเป็ดจะมาในรูปแบบเป็ดสับรสชาติก็เข้าที อิ่มกันแบบเบาๆ ในเวลาว่องไว จากนั้นก็ขับรถวนไปจอดหน้าโรงหนัง แล้วก็บันทึกภาพความงามของสถาปัตยกรรมวันวานพอสังเขป

ที่ใต้โรงหนังนี้จะมีร้านข้าวต้มเปิดขายในช่วงกลางคืน เดินไปทางด้านข้างจะมีร้านผัดไทยเก่าแก่ จะขายขนมเบื้องญวนด้วยตอนกลางวัน เป็นอีกหนึ่งร้านอร่อยของ สิงห์บุรี

นึกชื่อร้านไม่ออก จึงโทรศัพท์สอบถามไปยังคุณ วัชรินทร์ เรื่องฤทธิ์กูล ประธานอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดสิงห์บุรี เจ้าของแบรนด์ “วัชรินทร์” เนื้อหมูทุบ-เนื้อจระเข้ทุบ (ของฝากสิงห์บุรีที่ขายดีในหมู่นักท่องเที่ยวชาวจีน) คราวนี้ก็ได้เรื่องราวของกินของฝากจากคนสิงห์ตัวจริงกันเลย

คุณวัชรินทร์บอกว่าผัดไทยร้านนี้ เรียกกันว่า ผัดไทยโรงหนัง หรือ ผัดไทยป้านอม เป็นหนึ่งในผัดไทยร้านเก่าแก่ของสิงห์บุรี ขายมานานกว่า 30 ปีแล้วตั้งแต่โรงหนังยังเปิดอยู่ ตอนนี้ปิดกิจการไปแล้วแต่แกก็ยังขายอยู่

จำได้ว่าเคยมาตอนเที่ยง นั่งรอคิวอยู่นานกว่าจะได้รับประทาน เพราะว่าคิวค่อนข้างยาว ลูกค้าบางคนอยู่ต่างอำเภอก็ตั้งใจขับรถมากินฝีมือป้านอม เนื่องจากครบรส คุณวัชรินทร์บอกว่าถ้ามาตอนเย็นจะมีแต่ผัดไทยอย่างเดียว อยากกินขนมเบื้องญวนควรมาช่วงกลางวัน

ส่วนใครอยากกินอาหารแนวภัตตาคาร คุณวัชรินทร์แนะนำร้าน เจริญทิพย์ และ ร้านรำพึง ซึ่งเป็นร้านระดับตำนาน

เราถามต่อถึงร้าน ซาลาเปา และ ขนมเปี๊ยะ สำหรับซื้อเป็นของฝากเพื่อนๆ และครอบครัว เจ้าถิ่นกล่าวว่ามีมากมายหลายร้านเลย เนื่องจากสิงห์บุรีเป็นจังหวัดหนึ่งที่มีคนจีนเข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่มากในช่วงรัชกาลที่ 6

“มีการอพยพขึ้นเรือกันมาจากอ่าวไทย เขาจะล่องกันไปที่ปากน้ำโพ ด้วยจำนวนคนที่มันเยอะ เวลาผ่านตรงไหนที่คิดว่าจะตั้งรกรากได้ ก็ทยอยลงมาเพื่อที่จะไม่ให้แออัดไปที่ปากน้ำโพ

เรื่องราวของขนมเปี๊ยะของบ้านเรา จะเห็นได้ว่าจะมีตั้งแต่สิงห์บุรี ชัยนาท นครสวรรค์ แต่ละแซ่แต่ละตระกูลจะมีสูตรขนมเปี๊ยะเป็นของตัวเอง

ที่ตลาดปากบาง ตลาดเก่าแก่อายุร้อยปีของสิงห์บุรีเจ้าดัง คือ ขนมเปี๊ยะโซวเม่งเฮง ร้านนี้ยืนหนึ่งเรื่องการรักษาวิธีการทำขนมเปี๊ยะแบบดั้งเดิม รสชาติมีเอกลักษณ์ขายมานานกว่า 70 ปีแล้ว มีไส้ฟักล้วน ไส้ฟักไข่ ไส้ถั่วล้วน ไส้ถั่วไข่ ไส้ทุเรียนล้วน ไส้ทุเรียนไข่

ส่วนที่ตลาดในตัวเมืองสิงห์บุรี จะมีร้าน จรัสศรี (แม่ซุ่นคิ้ม ลิ้มบักเซ้ง) ขายมากว่า 60 ปี จะเป็นขนมเปี๊ยะปิ้ง สมัยก่อนเขาจะใช้ถ่านอังกับแผ่นเหล็กแล้วปิ้ง แต่สมัยนี้ปรับใช้เป็นเตาแก๊สแต่ยังปิ้งบนกระทะเหล็กทรงแบนๆ มีการคุมไฟที่ง่ายกว่า ไส้จะเป็นไส้ถั่วจะมีแบบหวาน ไส้ถั่วแบบเค็ม ไส้ถั่วดำผสมงาดำ ตัวแป้งขนมเปี๊ยะอีกชนิดหนึ่งที่นำมาปิ้งซึ่งจะไม่เหมือนกับขนมเปี๊ยะแบบอบทั่วไป”

นอกจากนี้ก็มีร้านนายกิมเซี๊ยะ และร้านขนมเปี๊ยะอีกหลายเจ้าที่คุณวัชรินทร์บอกว่าแทบทุกร้านจะคัดเลือกวัตถุดิบที่ดีมาใช้ในการทำไส้ขนม ส่วนใหญ่จะใช้เตาถ่านในการกวนไส้อันเป็นเคล็ดลับหนึ่งที่ทำให้ขนมเปี๊ยะมีรสชาติที่อร่อย

เราได้ชิมขนมเปี๊ยะปิ้งร้านจรัสศรีตอนเพิ่งปิ้งสุกร้อนๆ จากเตา ยืนยันเลยว่าของเขาหอม แป้งกรอบ ไส้ถั่วหวานไม่หวานจัด กินตอนร้อนๆ ดีมากๆ ทางร้านบอกว่า ซื้อไปแล้วไม่ควรเก็บไว้นาน เพราะไม่ได้ใส่สารกันบูด ถ้าเก็บใส่ตู้เย็น จะใส่เตาปิ้ง หรือ ใส่กระทะจี่ไฟให้ร้อนก่อนรับประทานก็จะดีไม่น้อย

ส่วนร้าน โซวเม่งเฮง จดไว้แล้วว่าคราวหน้าจะหาโอกาสมาชิม เช่นเดียวกับ ร้านซาลาเปาแม่สายใจ ซึ่งคุณวัชรินทร์เล่าให้ฟังว่า แม่สายใจเป็นคนใต้ที่เคยไปอยู่ที่ฮ่องกงแล้วนำสูตรซาลาเปาแบบฮ่องกงกลับมาขายทางใต้ก่อน พอมาแต่งงานกับคนสิงห์บุรีจึงมาเปิดร้านซาลาเปาแม่สายใจรสชาติเป็นที่ถูกปากถูกใจคนสิงห์บุรียิ่งนัก

“ผมกินมาก 30 กว่าปีแล้ว ยังไม่สามารถแกะสูตรไส้งาดำที่ทั้งหอมและหวานของแม่สายใจได้เลยนะ ร้านนี้มีทั้งไส้หมูสับ ไส้ครีม แต่งาดำนี่เลิศสุด กินยังไงก็ไม่เบื่อ ทุกเทศกาลปีใหม่ เช็งเม้ง สารทจีน แทบทุกบ้านต้องมีซาลาเปาแม่สายใจมาไหว้บรรพบุรุษ

ส่วน ซาลาเปาแม่จำเนียร จะมาทีหลัง เป็นซาลาเปาสูตรนมสดที่ใช้นมโคสดจากสหกรณ์โคนมของสิงห์บุรี จะมีความสมัยใหม่ แป้งเนื้อนุ่มถูกปากคนรุ่นใหม่ มีไส้หมูสับ ไส้ครีม ไส้งาดำ ไส้ถั่วดำ ไส้เผือก และก็มีสังขยากับหมั่นโถวด้วย

ทั้งสองร้านกลุ่มลูกค้าก็จะต่างกัน ถ้าจะเอาอารมณ์ภัตตาคาร หนังจีนกำลังภายในต้อง แม่สายใจ แต่ถ้าจะเอาซาลาเปานุ่มๆ นิ่มๆ ต้อง แม่จำเนียร”

วันนี้เราได้ชิมแบบนุ่มนิ่มทั้งไส้หมูสับที่มีเนื้อหมูสับละเอียดน้องๆ หมูเด้งรสดีเจือไปด้วยกลิ่นหอมและรสชาติของพริกไทย ตามด้วยไส้ครีมของโปรดที่หวานพอดีของร้านแม่จำเนียรไปอย่างอิ่มใจ ในขณะเดียวกันก็จดไว้แล้วว่าครั้งหน้าต้องมาชิมซาลาเปาแม่สายใจให้ได้

เสียดายมีเวลาน้อยไปหน่อย แต่ก็ได้ซาลาเปาแม่จำเนียร และขนมเปี๊ยะปิ้งร้อนๆ จากเตาร้านจรัสศรีไปเป็นของฝากที่คนรับกินแล้วต่างถูกใจจนถามกลับมาว่าจะตามไปอุดหนุนได้ที่ไหน รวบรวมมาให้แล้วในที่นี้ ของฝากสิงห์บุรี ที่เจ้าถิ่นแนะนำเอง

• ขนมเปี๊ยะปิ้งจรัสศรี (แม่ซุ่นคิ้ม ลิ้มบักเซ้ง)  ถ.นายทองเหม็น ต.บางมัญ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี โทร.0 3651 1128, 08 1648 6609
• ขนมเปี๊ยะโซวเม่งเฮง บ้านปากบาง ต.พรหมบุรี อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี โทร.0 3681 0288
• ซาลาเปาแม่จำเนียร ถ.รัตนโกสินทร์ 200 ต.บางมัญ อ.เมือง สิงห์บุรี โทร.06 3265 9146
• ร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ด ถ.นายจันทร์หนวดเขี้ยว ต.บางมัญ อ.เมือง สิงห์บุรี โทร.08 7117 2626
• ร้านผัดไทยป้านอม หรือ ผัดไทยโรงหนัง อยู่ข้างโรงหนังเมืองทองรามา หัวมุม ถ.รัตนโกสินทร์ 200 ตัดกับ ถ.วิไลจิตต์ ต.บางมัญ อ.เมือง สิงห์บุรี