ปกรณ์วุฒิ ซัดงบดีอี ไร้แผน คนสั่งไม่รู้เรื่อง แนะยกระดับทางรัฐ ก่อนกลายเป็นแอพพ์ร้างหลังจบเงินดิจิทัล
ปกรณ์วุฒิ ซัดงบดีอี ไร้แผนชัดเจน ขาดความเข้าใจ เหน็บ ไม่เหมือนเล่นเกม ทุ่มเงินซื้อของแล้วจะชนะ แซะดิจิทัลวอลเล็ต เป็นพายุหมุนทิ้งไว้แค่ซาก จี้ “เศรษฐา” สั่งจัดการระบบเตือนภัย
เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 วันที่สามซึ่งเป็นวันสุดท้าย
เวลา 16.25 น. นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายถึงงบประมาณของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ว่า แม้ว่างบประมาณของดีอีจะเพิ่มขึ้นจนแตะเกือบหมื่นล้านบาท แต่ไม่ใช่การการันตีความสำเร็จด้านเทคโนโลยีดิจิทัลของประเทศไทย เพราะการจัดสรรงบประมาณ ไม่ใช่การเล่นเกมแบบ Pay to win ทุ่มเงินซื้อของไปแล้วจะชนะ แต่เหมือนเกมกอล์ฟ ที่ต่อให้ซื้ออุปกรณ์รุ่นใหม่ทุกรอบ ก็ไม่มีทางพัฒนาฝีมือได้ หากไม่เข้าใจและรู้จักวางแผน เลือกใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสม ซึ่งคือปัญหาหลักในการจัดงบด้านดิจิทัลของรัฐบาลนี้ เพราะไม่มียุทธศาสตร์ชัดเจน คนสั่งไม่รู้เรื่อง คนทำไปต่อไม่เป็น สุดท้ายเอาแต่โยนงบประมาณลงไป และหวังว่าจะประสบความสำเร็จ ซึ่งอาจสร้างปัญหาเดิมให้เกิดซํ้าๆ ในอนาคต
นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ประชาชนควรได้รับความปลอดภัยจากอาชญากรรมออนไลน์ โดยกระทรวงมีโครงการศูนย์เอโอซี ในการรับเรื่องโทรแจ้งระงับบัญชีมิตรฉาชีพ มีงบประมาณ 84.39 ล้านบาท แต่ตัวชี้วัดระบุว่าให้มี 1 ศูนย์ ไม่มีการประเมินว่าประชาชนได้รับบริการทันท่วงทีหรือไม่ ดังนั้น ควรตั้งตัวชี้วัดที่ใช้ประชาชนเป็นที่ตั้ง หากทำให้การรอสายน้อยลง การระงับบัญชีก็จะทำได้เร็วขึ้น ถ้าทำแบบนี้แล้วมาของบเพิ่ม ตนก็ยินดี แต่ถ้าไม่รู้จะเอามาจากไหน ก็เสนอให้ยุบศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมทิ้ง จะได้งบเพิ่มมา 70 ล้านบาท
นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ระบบเตือนภัยฉุกเฉิน ซึ่งเป็นโยบายที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอี ประกาศไว้ตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว แต่คณะกรรมการบริหารระบบเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เคยมีมติตั้งแต่ปี 65 ว่าให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เป็นเจ้าภาพ ซึ่ง ปภ.ได้งบไปตั้งแต่ปี 67 แต่ในงบ 68 กระทรวงดีอีก็ยังตั้งงบในโครงการเดียวกัน ทั้งนี้ การมีระบบเตือนภัย 2 ที่ ไม่ได้ทำให้การแจ้งเตือนเร็วขึ้น หรือทำได้กว้างขึ้น แต่อาจก่อให้เกิดปัญหาด้วยซํ้า เพราะจะสร้างความสับสนต่อหน่วยงานต่างๆ ภาคเอกชน และประชาชน ตนจึงไม่เข้าใจว่างบส่วนนี้คืออะไร คิดว่าเป็นคนประกาศแล้ว งบก็ต้องอยู่กับกระทรวงตัวเอง โดยไม่สนใจว่าจะซํ้าซ้อนใช่หรือไม่ เสียเงินไม่ว่า เสียหน้าไม่ได้
นายปกรณ์วุฒิ กล่าวต่อว่า ขอเสนอให้นายกรัฐมนตรี เร่งสั่งการคณะกรรมการบริหารระบบการเตือนภัยแห่งชาติ ประสานงานกับค่ายมือถือ กำหนดระดับแจ้งเตือนภัย และต้องกำหนดว่า หน่วยงานใดจะรับผิดชอบภัยด้านใดบ้าง
นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ส่วนการใช้งบด้านบริการภาครัฐออนไลน์ เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวก ซึ่งตนขอพูดถึงแอพพลิเคชั่นทางรัฐ ที่จะใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต โดยขอเสนอให้นำบริการภาครัฐต่างๆ มาใช้ในแอพทางรัฐให้มากและสะดวกที่สุด ไม่เช่นนั้น หลังดิจิทัลวอลเล็ตจบ ทางรัฐก็จะกลายแอพร้าง แต่อย่างไรก็ตาม ในงบปี 68 ไม่มีการตั้งเป้าหมายเรื่องเหล่านี้ ไม่ทราบว่ามัวแต่หัวหมุนทำระบบดิจิทัลวอลเล็ตให้เสร็จทันหรือไม่
“เอาแต่จะแจกให้ได้ แต่ไม่ตั้งยุทธศาสตร์ระยะยาว แบบนี้ดิจิทัลวอลเล็ตจะเป็นพายุหมุนจริงๆ ที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ทิ้งไว้แค่ซากปรักหักพัง” นายปกรณ์วุฒิ กล่าว
นายปกรณ์วุฒิ กล่าวทิ้งท้ายว่า หากไม่ถอดบทเรียนในอดีต เพิกเฉยอนาคต มีแค่คำสวยหรู แต่ไม่มีความเข้าใจ ก็มีแต่จะก่อปัญหาใหม่ ถ้ายังเป็นแบบนี้ รัฐบาลไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เพราะจะไม่มีใครได้ก้าวไปข้างหน้าแม้แต่คนเดียว
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ปกรณ์วุฒิ ซัดงบดีอี ไร้แผน คนสั่งไม่รู้เรื่อง แนะยกระดับทางรัฐ ก่อนกลายเป็นแอพพ์ร้างหลังจบเงินดิจิทัล
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th