รมช.อรรถกร รับงบกษ. 1.2 แสนล้าน ไม่พอแก้ปัญหาเกษตรกร ย้ำเร่งทำงานในพื้นที่
ภาพประกอบข่าว
รมช.อรรถกร ยอมรับงบกระทรวงเกษตรฯ 1.2 แสนล้านบาทไม่เพียงพอต่อปัญหาเกษตรกร เผยงบ 70% เป็นงบลงทุนพัฒนาโครงการ ย้ำต้องเร่งทำงานในพื้นที่ รับฟังปัญหาเกษตรกรมากขึ้น
วันที่ 21 มิ.ย.2567 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยวิสามัญเป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 ในวาระแรก เป็นวันที่สามซึ่งเป็นวันสุดท้าย
นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ในฐานะรมช.เกษตรและสหกรณ์ (กษ.)กล่าวชี้แจงงบประมาณของกระทรวงเกษตรฯว่า เราได้เงินงบประมาณมากกว่า 120,000 ล้านบาท ซึ่งงบประมาณของกระทรวงเกษตรฯ กว่า 70% จะเป็นงบลงทุนเป็นส่วนใหญ่
นายอรรถกร กล่าวต่อว่า เรามีโอกาสได้ไปลงพื้นที่ในทั่วภูมิภาคในตลอดเวลาที่ผ่านมา จะเห็นว่าเงินจำนวนนี้ มันไม่เพียงพอต่อการแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกร เมื่อกลับมาประชุมที่สภาฯ ในวาระพิจารณางบประมาณครั้งนี้ยิ่งเด่นชัด เนื่องจากตนได้พบเพื่อนสมาชิกจากจังหวัดต่างๆ มาพูดคุยถึงความต้องการงบประมาณแก้ไขปัญหาของเกษตรกรในพื้นที่มากมาย
"การจัดสรรงบฯ อาจจะยังไม่สามารถตอบโจทย์ได้ทั้งระบบ ในการแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกร แต่เราในฐานะกระทรวงเกษตรฯ เราจะทำงานให้ละเอียดขึ้น ต้องทำงานให้ถึงลูกถึงคนยิ่งขึ้น เราจะลงพื้นที่เพื่อไปคลุกคลีกับประชาชน เกษตรกร เพื่อรับฟังปัญหา ด้วยสองตา สองหู และสมองของพวกเรา เพื่อชดเชยในเรื่องของการได้รับงบประมาณที่ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ทั้งระบบ"นายอรรถกร กล่าว
นายอรรถกร กล่าวต่อว่า เรื่องของพื้นที่เผาไหม้ ที่มาจากพื้นที่ทางการเกษตรเป็นส่วนใหญ่ ถึงแม้ว่าจะมีปัญหาอยู่ก็ตาม แต่ข้อมูลอ้างอิงจากข้อมูลดาวเทียมของจิสด้าระบุชัดเจนว่า ความร้อนในปีนี้ลดลง ถ้าเทียบกับปีที่แล้ว 10% ซึ่งนโยบายเป้าหมายในการลดจุดความร้อนของกระทรวงเกษตรฯเรามีแนวทางทำงานชัดเจน โดยกระทรวงเกษตรฯได้ประกาศไว้ใน IGNITE THAILAND ว่า เราจะใช้แนวทาง 3R Model ลดปัญหาการเผาในพื้นที่การเกษตร คือ
ภาพประกอบข่าว
1.Re-Habit : เปลี่ยนพฤติกรรม ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการปลูกพืช เป็นการปลูกแบบไม่เผา ภายใต้มาตรฐาน GAP PM 2.5 Free โดยการนำเครื่องจักรเข้ามาช่วยในการเก็บเกี่ยว
2.Replace with High value crops : เปลี่ยนชนิดพืช ปรับเปลี่ยนชนิดและวิถีการปลูกพืชบนพื้นที่สูง จากพืชไร่เป็นไม้ผล ไม้ยืนต้น พืชเศรษฐกิจแบบผสมผสานที่มีมูลค่าสูง
3.Replace with Alternate crop : เปลี่ยนเป็นพืชทางเลือก ปรับเปลี่ยนชนิดและวิธีการปลูกพืชบนพื้นราบ โดยเน้นการจัดการเศษวัสดุเหลือใช้ให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจแและเป็นประโยชน์ต่อดิน
นายอรรถกร กล่าวต่อว่า กระทรวงเกษตรฯ กำลังร่างมาตรฐานใหม่ขึ้นมาให้ครอบคลุมถึงเรื่องของการลดการเผาลงไปด้วย ขณะนี้อยู่ในช่วงของการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน และเชื่อว่าหลังจากรับฟังความคิดเห็นแล้วจะนำเข้าสู่คณะกรรมการมาตรฐานสินค้าทางการเกษตรต่อไป
ในส่วนประเด็นที่ สส.มีความห่วงใยถึงปัญหามีการถ่ายโอนภารกิจต่าง ๆ จากกระทรวงเกษตรฯ ไปยังท้องถิ่น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ ได้ทราบปัญหาเป็นอย่างดี และเมื่อ 2 อาทิตย์ก่อน กระทรวงเกษตรกรฯ ได้เรียกหัวหน้าหน่วยราชการทั้ง 22 หน่วยงานของกระทรว เข้ามาพูดคุยเรื่องนี้
โดยเน้นที่กรมชลประทาน และกรมพัฒนาที่ดิน ซึ่งมีภารกิจที่ถ่ายโอนไปเยอะ ให้ไปทำข้อมูลในโครงการที่มีความจำเป็นต้องซ่อมแซมแก้ไขอย่างเร่งด่วนเข้ามา และเราจะทำงานร่วมกับท้องถิ่น ในการที่จะเป็นคล้ายๆกับผู้แนะนำให้ท้องถิ่นที่ไม่มีศักยภาพเพียงพอในการซ่อมแซม หรือว่าไม่มีงบประมาณทำการขอเงินจากรัฐบาลต่อไป
นายอรรถกร กล่าวถึงโครงการก่อสร้างแหล่งน้ำในนอกเขตชลประทาน หรือ บ่อจิ๋ว จำนวน 23,000 บ่อ โดยมีการกำหนดความลึกไว้ที่ 2.1 เมตร จริงๆ แล้ว กำหนดความลึกของกรมพัฒนาที่ดินอยู่ที่ 3-5 5 เมตร แต่ตรงนี้ถ้ากรมพัฒนาที่ดินลงไปช่วยเหลือสนับสนุนการขุดบ่อจิ๋ว ต่ำกว่า 3 เมตรก็ได้ ขึ้นอยู่กับพื้นที่ของเกษตรกร แต่มาตรฐานที่ปริมาตรของความจุอยู่ที่ 1,260 ลูกบาศก์เมตร
20 ปีที่ผ่านมา กรมพัฒนาที่ดินได้ขุดบ่อไปแล้ว 723,380 บ่อ สามารถเก็บกักน้ำได้ 911,459 ลูกบาศก์เมตร ต้องยอมรับว่าบ่อมีขนาดไม่ใหญ่มาก หากนำไปเทียบกับอ่างเก็บน้ำใหญ่ ๆ มันมีโอกาสที่บ่อเก็บน้ำเหล่านี้จะตื้นเขินอยู่แล้ว แต่กระทรวงเกษตรฯ จะลงไปดูบ่อที่ขุดมานาน เพื่อพัฒนาระบบเก็บน้ำของเกษตรกรต่อไป
นายอรรถกร กล่าวถึงเหตุน้ำท่วมที่จ.นราธิวาส ปัจจุบันกระทรวงเกษตรฯร่วมกับรัฐบาลได้เยียวยาพี่น้องเกษตรกร ไม่ว่าด้านพืชผล เราได้เยียวยาเกษตรกรไปทั้งหมด 764 ราย เป็นเงินมูลค่า 5.47 ล้านบาท ด้านประมง 419 ราย 1.74 ล้านบาท ด้านปศุสัตว์ 447 ราย มีการประสานหน่วยงานเพื่อที่จะเยียวยา คิดเป็นเงินเกือบ 30 ล้านบาท
ส่วนประเด็นทุเรียนไม่ออกดอกนั้น ปัญหาหลักของทุเรียนในการออกดอกออกผลเยอะ ๆ ก็คือ ทุเรียนเป็นพืชที่ต้องการน้ำ ดังนั้น การบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ ไม่ว่าน้ำต้นทุน หรือน้ำสำรอง เป็นสิ่งที่กระทรวงเกษตรฯ โดยเฉพาะกรมชลประทานให้ความสำคัญเป็นอย่างดี
“ผมยกตัวอย่างในปี 2568 งบประมาณของกรมชลประทาน จะมีโครงการอ่างเก็บน้ำคลองพระวาใหญ่ จ.จันทบุรี หลักๆคือจะเป็นสถานีสูบน้ำพร้อมระบบสูบน้ำ ท่านสามารถใช้ระบบน้ำตรงนี้ ส่งน้ำไปยังสวนทุเรียนในบริเวณใกล้เคียงได้ นี่คือสิ่งที่กระทรวงเกษตรฯ ให้ความสำคัญในการเพิ่มมูลค่าทางการเกษตรให้กับเกษตรกร"นายอรรถกร กล่าว
ส่วนการทำนาแบบเปียกสลับแห้ง ในปี 2567 เกษตรกรได้เข้าร่วมโครงการนี้ผ่านกรมการข้าว และกรมส่งเสริมเกษตรกรมากกว่า 10,000 ครัวเรือน แต่ส่วนใหญ่พื้นที่จะอยู่ในเขตตะวันตก เช่น สุพรรณบุรี ชัยนาท สิงห์บุรี ราชบุรี และกาญจนบุรีในบางส่วน แต่ในปี 68 ก็มีแผนขยายไปในพื้นที่ต่างๆมากขึ้น อย่างน้อยให้ครบ 400,000 ไร่ เพื่อสนับสนุนให้เกษตรกรได้รับเงินจากการทำคาร์บอนเครดิตด้วย
ส่วนที่นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ สส.ชัยภูมิ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้ความเป็นห่วงประชาชนที่ต้องการได้รับเงินชดเชยจากโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำลำน้ำชี ตนยืนยันว่ากระทรวงเกษตรฯ จะทำเรื่องนี้ให้เสร็จภายในปี 69 ที่อ่างเก็บน้ำลำน้ำชี หมายความว่าปลายปี 68 รัฐบาลสามารถชดเชยในส่วนที่พี่น้องจะต้องย้ายออกได้แล้ว
นายอรรถกร กล่าวถึงปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำที่ สส.หลายคนพูดถึงนั้น ตนยืนยันว่า ราคาสินค้าทางการเกษตรเกือบทุกตัวปรับตัวสูงขึ้นในปีที่ผ่านมา และเรายังเชื่อมั่นแนวทางการทำเกษตรที่มีความแม่นยำ และทำเกษตรที่สามารถได้ในราคาสูง ๆ เราจะดำเนินการต่อไป
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : รมช.อรรถกร รับงบกษ. 1.2 แสนล้าน ไม่พอแก้ปัญหาเกษตรกร ย้ำเร่งทำงานในพื้นที่
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th