พิธา วอนสังคมตั้งสติ ปม ‘บุ้ง’ เสียชีวิต ชง 3 ข้อเรียกร้อง จี้ราชทัณฑ์เปิดข้อเท็จจริง
ภาพประกอบข่าว
พิธา วอนสังคมตั้งสติ ปม 'บุ้ง' เสียชีวิต แนะ เยาวชนนักเคลื่อนไหว เลือกชีวิตตัวเองก่อน การต่อสู้ยังอีกยาวนาน ยัน ก้าวไกล ไม่ได้ฉวยโอกาส หวังผลการเมือง
เมื่อเวลา 09.10 น. วันที่ 19 พ.ค. 2567 ที่ภิรัชฮอลล์ ไบเทคบางนา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการเสียชีวิตของ น.ส.เนติพร หรือบุ้ง ทะลุวัง จะมีข้อเรียกร้องไปยังฝ่ายที่เกี่ยวข้องอย่างไรบ้างว่า ตนได้เรียกร้องไปยังกรมราชทัณฑ์ให้เปิดเผยข้อเท็จจริงอย่างโปร่งใส เพราะหากยังไม่ชัดเจน และเข้าใจผิด ก็จะทำให้เกิดความบาดหมางในสังคมมากขึ้น
ภาพประกอบข่าว
นายพิธา กล่าวต่อว่า ตนเคารพเนื้อหาที่นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิและมนุษยชน ได้แถลง แต่ก็ต้องการข้อมูลที่แท้จริงจากทางแพทย์ และข้อมูลการรักษาจากกรมราชทัณฑ์ด้วย
เมื่อถามกรณีมีข้อมูลว่าเสียบท่อเครื่องช่วยหายใจผิดเข้าไปในหลอดอาหาร แทนที่จะเป็นหลอดลม นายพิธา กล่าวว่า ขอให้สังคมตั้งสติ และตนรับฟังมาว่า พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวต่อครอบครัวของ น.ส.เนติพร ในวันที่ 20 พ.ค.นี้ ซึ่งหากครอบครัวไม่ติดอะไร การเปิดเผยข้อมูลนี้ออกมาคงได้ทราบข้อเท็จจริง
เมื่อถามว่าสังคมตั้งข้อสงสัยว่ากรณีดังกล่าวโยงกับคดีมาตรา 112 นายพิธา กล่าวว่า ต้องแยกออกจากกันว่า การแก้ไขมาตรา 112 เป็นหนึ่งในสิ่งที่ น.ส.เนติพร เรียกร้อง ส่วนเหตุที่ทำให้ น.ส.เนติพร ต้องอดอาหารเป็นเวลานาน เป็นเรื่องของการเข้าถึงสิทธิการประกันตัว น่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ น.ส.เนติพร และอีก 2-3 คนอดอาหาร มากกว่าเรื่องมาตรา 112
"อย่างไรก็ตาม ผมพูดแทน น.ส.เนติพร ไม่ได้ แต่เชื่อว่า น.ส.เนติพร ต่อสู้เพื่อเพื่อนหรือคนที่มีความคิดแบบเดียวกัน ความเสมอภาคต่อหน้ากฎหมาย และสิทธิในการประกันตัว รวมถึงการฝากขัง และเข้าถึงทนาย" นายพิธา กล่าว
เมื่อถามว่าทําไม สส.ก้าวไกล เพิ่งออกมาแสดงท่าทีหลังการเสียชีวิต เป็นการฉกฉวยโอกาสทางการเมืองหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ไม่ใช่การฉกฉวยแน่นอน การเคลื่อนไหวของกลุ่มเยาวชน ไม่ว่ากลุ่มไหน ก็มีอิสระเป็นของตัวเอง ไม่ได้ยึดโยงกับพรรคการเมืองใด
พรรคก้าวไกลเชื่อในหลักนิติรัฐ นิติธรรม และหลักการสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องสากล ที่เชื่อในบริบทประชาธิปไตย ดังนั้น ไม่ได้หมายความว่าพรรคก้าวไกลกับคนหนุ่มสาวเห็นไปในทางเดียวกันทุกเรื่อง แม้จะเป็นฝั่งตรงข้าม แล้วถูกคุมขังโดยไม่ได้พิจารณา พรรคก้าวไกลก็จะออกมาพูดเหมือนกัน
"ไม่ได้เป็นการฉกฉวยประโยชน์ทางการเมือง ไม่มีเรื่องนั้นอยู่ในหัวพวกเราอยู่แล้ว เราให้เกียรติครอบครัวผู้เสียชีวิตมากกว่า" นายพิธา กล่าว
นายพิธา กล่าวว่า ตนมีข้อเรียกร้อง ดังนี้ 1.ความโปร่งใสชัดเจนจากทางกรมราชทัณฑ์ 2.ทางตำรวจและอัยการ ให้ตอบสนองนโยบายจากรัฐบาล ในการไม่เอาผิดจากผู้เห็นต่างทางการเมือง และชะลอคดีความ โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลตำรวจโดยตรง ซึ่งถือเป็นต้นน้ำของการแก้ไขปัญหากระบวนการยุติธรรม
3.การนิรโทษกรรมคดีการเมือง ซึ่งถือเป็นปลายน้ำของการแก้ปัญหา ต้องเร่งผลักดันให้เร็วที่สุด ไม่ควรแยกกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งออกไป โดยเฉพาะอนาคตของชาติ ต้องไม่ให้เขาต้องเอาชีวิตมาเสี่ยงอีกต่อไป
นายพิธา กล่าวว่า พรรคก้าวไกลได้พยายามสื่อสารพูดคุยกับกลุ่มนักเคลื่อนไหวและเยาวชน ตั้งแต่ 2-3 ปีที่แล้ว ว่าให้คิดถึงชีวิตตัวเองก่อน แต่เราก็ไม่สามารถก้าวก่ายความเด็ดเดี่ยวของเขาได้ ทั้งนี้ ตนไม่รู้จักพวกเขาเป็นการส่วนตัว แต่หากมีโอกาสได้พบจะบอกว่าให้เอาชีวิตตัวเองมาก่อน เพราะการต่อสู้ยังอีกยาวนาน แต่จะฟังหรือไม่ก็เป็นสิทธิ์ของเขา
นอกจากนี้ นายพิธา ยังกล่าวถึงกรณี น.ส.ทานตะวัน หรือตะวัน นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ย้ายออกจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์กลับมาที่เรือนจำว่า ตนเห็นจากข่าวแล้ว เข้าใจว่า น.ส.ทานตะวัน คงจะเสียใจที่สูญเสียเพื่อน แต่ชีวิตตัวเองก็สำคัญ ตนเป็นห่วง จึงขอฝากพ่อแม่ของ น.ส.ทานตะวัน ให้ดูแลด้วย
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : พิธา วอนสังคมตั้งสติ ปม ‘บุ้ง’ เสียชีวิต ชง 3 ข้อเรียกร้อง จี้ราชทัณฑ์เปิดข้อเท็จจริง
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th