นายกฯ มอบนโยบายบูรณาการปราบยาเสพติด เป็นวาระแห่งชาติ ให้ผู้ว่าฯเป็น CEO
นายกฯ มอบนโยบายบูรณาการปราบยาเสพติด นศ.ใหม่ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ย้ำ เป็นวาระแห่งชาติ ขอทุกภาคร่วมร่วมใจปราบให้หมดสิ้น วางระยะเร่งด่วน 3 เดือน ผวจ.เป็น CEO ขับเคลื่อน
วันที่ 2 ก.ค. เมื่อเวลา 12.35 น.ที่ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมาที่ จ.นครราชสีมา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มอบนโยบายการบูรณาการแก้ไขปัญหายาเสพติดระยะเร่งด่วนให้นักศึกษาใหม่ภาคปกติ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา โดยมีนายภูมิธรรม เวชชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายจักรพงษ์ แสงมณี รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หัวหน้าส่วนราชการ ร่วมงาน
นายกฯ กล่าวมอบนโยบายว่า ตนมาวันนี้เป็นเรื่องสำคัญ เป็นวาระแห่งชาติ คือเรื่องของยาเสพติด ซึ่งหลายท่านคงทราบดีอยู่แล้ว อาจจะมีญาติพี่น้องคนที่รู้จักหรือคนที่เกี่ยวข้องประสบปัญหาเกี่ยวกับเรื่องยาเสพติด ซึ่งต้องย้อนความไปตั้งแต่เข้ามาสู่การเมือง หาเสียงพบปะพี่น้องประชาชนเกือบทุกจังหวัด นอกเหนือจากปัญหาปากท้อง ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดคือปัญหายาเสพติดโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของยาบ้ามีการนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน ราคายาบ้าก็ถูกลงทุกวัน แม้รัฐบาลจะมีการจัดการเกี่ยวกับผู้ค้ายา จับยาบ้าได้มากกว่า 4 เท่าในช่วงที่ผ่านมาก็ตาม แต่การใช้ยาก็ยังมีอย่างต่อเนื่อง ราคายาบ้ายังไม่มีราคาขึ้นสักที การที่ราคาคงที่แสดงว่ามีซัพพลายเยอะมาก ฉะนั้นเรื่องนี้ถือว่าสำคัญอีกเรื่องหนึ่ง
การที่พวกเรามาอยู่กันในวันนี้เป็นการปฐมนิเทศเริ่มต้นช่วงเวลาใหม่ในชีวิตของพวกท่าน ตั้งแต่จบมัธยมศึกษามา สถาบันอันมีเกียรติ เป็นความภาคภูมิใจของพ่อแม่พี่น้องที่เราได้มาอยู่ในสถานที่นี้ ได้มาเริ่มต้นชีวิตอีก 4 ปีจะไปประกอบอาชีพที่มั่นคง นำรายได้มาสู่ครอบครัว นำความภาคภูมิใจมาสู่ญาติพี่น้อง สิ่งเดียวที่จะทำให้ความหวังไม่เป็นจริงคือยาเสพติด
นายเศรษฐา กล่าวว่า ในช่วงเข้ารับตำแหน่งมา 10 เดือนแล้ว เรื่องนี้เราให้ความสำคัญอย่างยิ่ง แต่ต้องยอมรับทำเยอะเท่าไรก็จับได้เยอะปัญหาไม่หมดเสียที ซึ่งตอนนี้เราก็มาดูกันอย่างจริงจัง ในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาได้มีการลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ทั้งภาคเหนือ ภาคอีสาน โดยเฉพาะภาคอีสานเข้ามาง่ายมาก จึงต้องบูรณาการหลายภาคส่วน ทั้งนี้ปฏิเสธไม่ได้ ยาเสพติดเป็นต้นตอความสูญเสียหลายอย่าง สูญเสียที่ยิ่งใหญ่คือการสูญเสียโอกาสหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการประกอบอาชีพ การถูกจำคุก หรือร้ายแรงกว่านั้นคือการสูญเสียชีวิต ซึ่งในอดีตที่ผ่านมาปัญหายาเสพติดได้ส่งผลกระทบต่อสังคมทั้งในเรื่องชีวิตและทรัพย์สินในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ
จึงขอให้หน่วยงานที่มีส่วนร่วมปราบยาเสพติดช่วยกันอย่างเต็มที่ ปราบยาเสพติดให้หมดไป ขอให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องนำโครงการขจัดปัญหายาเสพติด ที่ อ.วังผา จ.น่าน และอ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด มาเป็นต้นแบบในการแก้ไขปัญหา โดยทั้ง 2 โครงการจะเป็นความร่วมมือของทุกหน่วยงานบูรณาการ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร กระทรวงมหาดไทยกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงยุติธรรม กระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวง อว. และอีกหลายหน่วยงานที่ร่วมมือกันขจัดยาเสพติดให้สิ้นซากไปจากพื้นที่ที่เรารับผิดชอบกันตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
นายเศรษฐา กล่าวว่า ทุกหน่วยงานจะต้องร่วมใจกันแก้ไขปัญหาผ่านนโยบายบูรณาการแก้ไขปัญหายาเสพติดระยะเร่งด่วน 3 เดือน ดังต่อไปนี้
1.ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดเป็น CEO ในการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหายาเสพติดร่วมกับผู้บัญชาการตำรวจภูธรจังหวัด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด นายกองค์กรบริหารส่วนจังหวัด ทำให้ทุกภาคส่วนในพื้นที่เกิดการขับเคลื่อนงานป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติดร่วมกัน 2.ตัดวงจรการค้ายาเสพติดรายสำคัญ ปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติดในพื้นที่ เร่งระบำ ทำการเอกซเรย์ทุกพื้นที่ด้วยการระดมกำลังตรวจปัสสาวะของกลุ่มเสี่ยงตั้งแต่อายุ 16 ปีขึ้นไปทุกหมู่บ้าน และแยกผู้เสพออกมาให้ได้รับการบำบัด และให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงยุติธรรม โดยสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และกระทรวงกลาโหม ขยายผลในการจับกุมผู้ขายเพื่อดำเนินคดีอย่างเฉียบขาดถือเป็นการตัดซัพพลายเชนออกไปจากระบบ รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพมาตรฐานการสนับสนุนคดียาเสพติดดำเนินการเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดอย่างจริงจังและเด็ดขาด ให้ความสำคัญต่อการดำเนินการการร้องเรียนของประชาชนอย่างเร่งด่วน
นายเศรษฐา กล่าวว่า ขอให้การทำงานร่วมกันระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับ ป.ป.ส. และกระทรวงกลาโหม ลดความรุนแรงของปัญหายาเสพติด และลดความเดือดร้อนของประชาชนจากปัญหาผู้ที่มีอาการป่วยทางจิตจากยาเสพติด โดยกำหนดให้เป็นความสำคัญเร่งด่วนของทุกจังหวัดและให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย ร่วมกันค้นหาผู้มีอาการจิตเวชจากยาเสพติดและให้กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงยุติธรรม นำเข้าบำบัดรักษา และให้มีระบบในการติดตามดูแลช่วยเหลือเฝ้าระวังภายหลังจากที่รักษาอาการและกลับเข้ามาสู่ชุมชน ให้ทุกจังหวัดนำผู้เสพยาเสพติดเข้าสู่ระบบการบำบัดรักษาตั้งแต่ขบวนการคัดกรอง บำบัดรักษา ส่งต่อตามกระบวนการให้แน่ใจว่าการฟื้นฟูสมรรถภาพทางสังคมให้การช่วยเหลือบุคคล งานอาชีพ การศึกษา ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมในการสนับสนุนการดำเนินงานให้ผู้เสพยาเสพติดมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น รวมถึงกระทรวงแรงงานกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย ต้องเข้ามาดูแลเพื่อให้บุคคลเหล่านี้ผ่านการบำบัดรักษากลับมาใช้ชีวิตในสังคม มีงานทำเพื่อไม่ให้บุคคลเหล่านั้นกลับไปสู่วงจรยาเสพติดอีก ให้ดำเนินการควบคุมปัจจัยเสี่ยงจากระเบียบสังคมในพื้นที่สถานบันเทิง สถานบริการ สถานประกอบการ คล้ายสถานบันเทิง และบริเวณรอบสถานศึกษาให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นแรงในการแพร่ระบาดยาเสพติดสร้างมาตรฐานในชุมชนและมาตรฐานทางสังคมให้เป็นพลังต่อต้านยาเสพติดอย่างกว้างขวาง ทั้งในบทบาทการป้องกันเฝ้าระวังติดตามการดูแลช่วยเหลือ ซึ่งผ่านการบำบัดรักษาการรักษาความปลอดภัยในหมู่บ้านชุมชน ดูแลซึ่งกันและกันศึกษาให้เข้าใจถึงผลเสียของยาเสพติดของรัฐบาล
นายเศรษฐา กล่าวว่า การแก้ไขปัญหายาเสพติดจะต้องอาศัยทุกภาคส่วน จังหวัด ตำรวจ ทหารและหน่วยงาน ป.ป.ส. และหน่วยงานอื่นจะต้องได้รับการสนับสนุนจากพี่น้องประชาชนลุกขึ้นมาต่อสู้กับปัญหายาเสพติด ร่วมกันเป็นหูเป็นตาช่วยกันสอดส่องแจ้งเบาะแส เฝ้าระวัง และป้องกันลูกหลานไม่ให้เข้ายุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ขอให้ประชาชนทุกคนที่รู้เบาะแสยาเสพติดให้แจ้งตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ภาครัฐในอำเภอ ผู้ว่าฯให้ช่วยติดตามมาบำบัดหรือปราบปรามให้หมด
สุดท้ายนี้ ขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่ได้ช่วยกันแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 25 จังหวัดเร่งด่วน และหวังว่าเราจะเห็นปัญหายาเสพติดและลดความรุนแรงลงตามเป้าหมายที่กำหนด ทำให้ประชาชนมีความรู้สึกปลอดภัยจากปัญหายาเสพติด ซึ่งถือเป็นเจตนารมณ์สูงสุดของรัฐบาลและประชาชนคนไทยทุกคน
นายกฯ มอบนโยบายบูรณาการปราบยาเสพติด เป็นวาระแห่งชาติ ให้ผู้ว่าฯเป็น CEO
ขณะที่ตัวแทนนักศึกษา ได้กล่าวขอบคุณนายกฯที่ได้ให้เกียรติมามอบนโยบายการบูรณาการการแก้ไขปัญหายาเสพติดระยะเร่งด่วนแก่นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ซึ่งการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ หรือการใช้ยาเสพติด เป็นภัยร้ายแรงที่อยู่ใกล้ตัวนักศึกษา โดยนักศึกษาของมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา จะนำนโยบายของนายกรัฐมนตรีไปปฏิบัติเพื่อผลดีต่อตนเอง ครอบครัว และประเทศชาติต่อไป
จากนั้น นายกฯ เดินทักทายนักศึกษาพร้อมถ่ายรูปร่วมกัน
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : นายกฯ มอบนโยบายบูรณาการปราบยาเสพติด เป็นวาระแห่งชาติ ให้ผู้ว่าฯเป็น CEO
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath