ประธานศาลรธน. เผยแล้ว เหตุใดจึงนัดพิจารณา 3 คดีร้อน 18 มิ.ย. โยงสายมูหรือไม่
ภาพประกอบข่าว
ประธาน ศาลรัฐธรรมนูญ ยอมรับ ‘ข่าว’ มีผลต่อการตัดสินใจของตุลาการศาล ปัดตกลงกับใคร นัดพิจารณา 3 คดีร้อน พร้อมกันเมื่อ 18 มิ.ย.
เมื่อวันที่ 1 ก.ค.2567 ที่โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น กทม. สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ จัดโครงการศาลรัฐธรรมนูญพบสื่อมวลชน ประจำปี 2567 โดยนายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ปาถกฐาพิเศษเรื่อง “บทบาทของสื่อในสังคมข้อมูลข่าวศาลยุคดิจิทัล” ตอนหนึ่งว่า ข้อมูลข่าวสารยุคดิจิทัลมีความยุ่งเหยิงมาก แน่นอน สื่อเป็นเครื่องมือของศาล และศาลต้องมีสื่อ ใช้สื่อเป็นอย่างน้อยต้องมีจดหมายข่าวต่าง ๆ
ขณะเดียวกัน เราต้องอยู่ในสภาวะแวดล้อมที่ถูกบีบโดยสื่อด้วย ไม่ว่าสื่อจะรายงานในทางบวก ทางลบ รายงานสถานการณ์ทางการเมือง เศรษฐกิจ ก็ล้วนมีผลต่อการตัดสินใจของศาลอยู่ด้วยในบางลักษณะ จะมากจะน้อยแล้วแต่ดุลพินิจของตุลาการแต่ละท่าน บางท่านอาจคิดถึงสถานการณ์มากเป็นกรณีพิเศษ บางท่านไม่สนใจสถานการณ์บ้านเมืองเลยก็ได้ เราอยู่ในสังคมที่มีสิทธิเสรีภาพพอสมควร ตนถือว่ามาก เมื่อเปรียบกับประเทศอาเซียนด้วยกัน น่าจะดีกว่าพม่า ลาว กัมพูชา เวียดนาม มากกว่า มาเลเซีย สิงคโปร์ด้วยซ้ำ ในบางเรื่อง
ภาพประกอบข่าว
นายนครินทร์ กล่าวอีกว่า องค์กรศาล ไม่ใช่องค์กรที่จะต้องกระตือรือร้นสื่อสารอะไรทั้งหมด เมื่อไม่กี่วันมานี้ก็มีตุลาการท่านหนึ่ง บอกว่าควรจะสื่อให้เขาทราบดีไหม ว่าทำไมเราต้องประชุมวันที่ 18 (18 มิ.ย.) ท่านบอกตนทางไลน์ แต่พวกเราก็เงียบไม่อยากบอก ซึ่งไม่ใช่สายมูอะไร ไม่มีเรื่องลึกลับซับซ้อนเลย ไม่ใช่ว่าเราจะไปตกลงกับใคร
การมาประชุมวันที่ 18 เหตุผลง่ายมาก เพราะตุลาการท่านหนึ่งขอลามานานหลายเดือนแล้ว ถ้าไม่ประชุมกันสัปดาห์นั้น ก็ยกเว้นไปเลย จึงตกลงกันประชุมวันที่ 18 และการประชุมไม่ได้มีอะไรลึกลับซับซ้อน
โลกยุคดิจิทัลทำให้มนุษย์ติดต่อกันได้เข้าถึงกันรวดเร็ว ง่าย แต่ในมุมกลับ มันคือโลกของการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ทำให้คนมีการรับฟังความอีกฝั่งน้อยเกินไป ตนฝากไว้จัดการแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างไร และเรื่องจรรยาบรรณสื่อในยุคดิจิทัลอยู่ที่ไหน ถ้ามีการควบคุมดูแลกันบ้าง แต่การไม่ควบคุมกันเลย มันคือสังคมอนาธิปไตย เรายืนอยู่สองขา โลกฝั่งหนึ่งจะเป็นอนาธิปไตย หรือจะเป็นเผด็จการ แต่ตนว่าเราอย่าเป็นทั้งสองอย่างจะดีกว่า อยู่ตรงกลางๆ ให้สื่อยุคดิจิทัล เคลื่อนที่ไป
นายนครินทร์ กล่าวว่า พวกเราต้องคิดถึงความพอเหมาะพอควรที่จะสื่อกัน บางเรื่องเราตอบได้ แต่บางเรื่อง ต้องอย่าลืมศาลเป็นองค์กรที่อยู่กับความลับ ถ้าเราเปิดเผยทุกอย่างทั้งหมด อันนั้นไม่ใช่ศาล ความจริงองค์กรของรัฐบางประเภท ก็เปิดเผยทุกอย่างไม่ได้ เรายังคิดว่าเราต้องทำให้ทุกอย่างให้โปร่งใส เปิดเผยได้ทั้งหมด แต่บางเรื่องเปิดเผยไม่ได้ก็คือเปิดเผยไม่ได้ เพราะเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินคดีความ ความมั่นคงบางเรื่อง
ถ้าเราเปิดเผยความมั่นคงของประเทศต่อสาธารณชนทั้งหมดก็เรียบร้อย รัฐจะไม่เหลือสภาพเลย ความมั่นคงเศรษฐกิจ บางเรื่องเปิดเผยไม่ได้จริงๆ ความพอเหมาะพอควรเราอย่าสุดโต่ง ตนว่าให้อยู่ในจุดที่มีความสมดุลกันระหว่าง ความโปร่งใสตรวจสอบได้ กับการต้องดูแลให้เกิดความมั่นคงปลอดภัย ของประเทศชาติ
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ประธานศาลรธน. เผยแล้ว เหตุใดจึงนัดพิจารณา 3 คดีร้อน 18 มิ.ย. โยงสายมูหรือไม่
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th