ชี้สังคมปล่อย “ทักษิณ” ออกฤทธิ์มากไป สะท้อนผลเลือกตั้ง อบจ.ปทุมฯ
ชี้สังคมปล่อย “ทักษิณ” ออกฤทธิ์มากไป สะท้อนผลเลือกตั้ง อบจ.ปทุมฯ
จากกรณี ผลการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)ปทุมธานี ซึ่งนายชาญ พวงเพ็ชร์ เฉือนเอาชนะ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีต นายก อบจ.ปทุมธานี
ล่าสุด รศ.เจษฎ์ โทณะวนิก ประธานคณะนิติศาสตร์ วิทยาลัยบัณฑิตเอเชีย แสดงความคิดเห็นถึงกรณีที่ก่อนหน้านี้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เคยบอกว่า ไม่รู้จักพล.ต.ท.คำรณวิทย์ท ธูปกระจ่าง อดีตนายกอบจ.ปทุมธานี ทั้งที่ผ่านมาก็เคยสนับสนุน แต่วันนี้กลับไปสนับสนุนอีกคนนั้น ซึ่งรศ.เจษฎ์ บอกว่า “การเมืองนั้นไว้ใจไม่ได้”
ผลคะแนนไม่เป็นทางการเลือกตั้ง "นายก อบจ.ปทุมธานี" "ลุงชาญ" ล้มแชมป์เก่า "บิ๊กแจ๊ส"
"ลุงชาญ" เปิดใจหลังชนะศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.ปทุมธานี
ประวัติ "คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง" อดีตสารวัตรสืบสวน สู่ผู้สมัครนายก อบจ.ปทุมธานี
รศ.เจษฎ์ ยังตั้งคำถามว่า ทำไมไม่ลองนับคะแนนใหม่ ให้รู้ว่าการนับคะแนนท้ายที่สุดใครจะเป็นผู้ชนะ หรือ จะเป็น “ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่”ที่สุดท้ายก็ไม่มีใครดีไปกว่ากัน และทั้งสองฝ่าย ก็อาจจะพอกัน เป็นเรื่องเจือสม ที่ไม่มีใครดีไปกว่าใคร และสุดท้ายก็จะสะท้อนให้เห็นภาพของอบจ.อื่นๆ ที่จะมีบริบทการต่อสู้เหมือนที่ปทุมธานี ซึ่งสุดท้ายประชาชนแทบไม่ได้อะไรเลย แต่เป็นการต่อสู้กันของผู้มีอำนาจ
เมื่อถามว่า อำนาจเก่ากลับคืนมา แล้วมาเรียกคะแนนแบบนี้ จะถือเป็นตัวอย่างขยายไปจังหวัดอื่นหรือไม่ รศ.เจษฎ์ ระบุว่า หากอำนาจเก่าหมายถึงนายทักษิณ ส่วนตัวมองว่า สังคมนั้นปล่อยให้คนอย่างนายทักษิณ ออกฤทธิ์ออกเดชมากเกินไป ซึ่งสิ่งที่นายทักษิณทำนั้น ถือว่า ขัดพระบรมราชโองการ ไม่รับผิดไม่รับโทษ และไม่ทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง หากยังปล่อยให้นายทักษิณ สามารถทำงานการเมืองแบบนี้ บ้านเมืองจะลำบาก และเดินต่อไปยาก เพราะฉะนั้น ต้องช่วยกันไม่ให้เกิดผล
รศ.เจษฎ์ ยังมองว่า หากผู้สมัครทั้งคู่ไม่ได้เรื่อง ไม่ได้ราว แล้วทำไมไม่ลงคะแนนไม่ออกเสียง แล้วไล่ทั้งสองคนไป เพื่อหาคนใหม่ แต่สุดท้ายกลับไม่ทำ จึงหวังว่า จังหวัดอื่นจะตระหนักเรื่องนี้ ถ้าหากไม่มีคนที่ดีพอ ก็ไม่ประสงค์จะเลือกใคร เพื่อกวาดคนเหล่านี้ออกไปทั้งหมด จะถือว่า เป็นหนทางที่ดีกว่า