มทภ.4 ลงติดตามเหตุคาร์บอมบ์ เยี่ยมผู้บาดเจ็บ กำชับ จนท.มีสติ ไม่ประมาท
มทภ.4 ลงพื้นที่เกิดเหตุคาร์บอมบ์ หน้า สภ.บันนังสตา กำชับกำลังพลจะต้องมีสติ ไม่ประมาท ตื่นตัว ชี้ผู้ก่อเหตุจ้องทำต่อ จนท.รัฐ กำชับทุกด่านต้องคุมเข้ม เพื่อสร้างพื้นที่ปลอดภัย ก่อนนำคณะเข้าเยี่ยมผู้บาดเจ็บ ครอบครัวผู้เสียชีวิต ย้ำต้องเร่งขยายผลนำผู้ก่อเหตุเร็วที่สุด
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 1 ก.ค. 67 ที่โรงพยาบาลบันนังสตา จังหวัดยะลา พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ณ จุดเกิดเหตุคาร์บอมบ์ที่แฟลตตำรวจ สภ.บันนังสตา พร้อมทั้งเข้าเยี่ยมติดตามอาการผู้บาดเจ็บจากเหตุคาร์บอมบ์ บริเวณหน้าอาคารที่พักอาศัยสวัสดิการข้าราชการตำรวจ แฟลตข้าราชการตำรวจ สภ.บันนังสตา ที่ยังคงพักรักษาตัวยังโรงพยาบาลบันนังสตา ประกอบด้วย นายรอมือลี เจ๊ะสนิ อายุ 64 ปี, นางสาวน้ำอ้อย เตะเหมทอง อายุ 36 ปี พร้อมบุตรชาย คือ เด็กชายอนาวิล สุนทรกิจ อายุ 9 เดือน
พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 เปิดเผยว่า การก่อเหตุคาร์บอมบ์ เคยเกิดขึ้นบ่อยครั้ง และเมื่อเกิดเหตุจะนำมาซึ่งความสูญเสียกับทุกสิ่งเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ ฉะนั้นการดูแลพื้นที่จะต้องเข้มข้นอยู่ตลอดเวลา พร้อมกำชับกำลังพลต้องมีสติ ไม่ประมาท มีความตื่นตัวเสมอ และต้องผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเวรยามให้สม่ำเสมอ เพราะกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงยังคงพยายามกระทำต่อเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และประชาชน ยืนยันด่านความมั่นคงทุกด่านมีความจำเป็นและต้องคุมเข้มตลอดเวลา เพื่อตรวจสอบบุคคลและยานพาหนะเข้าออกพื้นที่ เพื่อสร้างพื้นที่ปลอดเหตุ ประชาชนปลอดภัยในทุกมิติให้ดีที่สุด ควบคู่กับการปรับเปลี่ยนเป็นด่านอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้รถใช้ถนน
"บทเรียนที่เกิดขึ้นให้นำข้อผิดพลาดมาปรับปรุงแก้ไขให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อสร้างรอยยิ้ม สร้างความเชื่อมั่น นำความสงบสุขคืนสู่พี่น้องจังหวัดชายแดนใต้ ยืนยันเจ้าหน้าที่จะกระทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ทั้งการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง และพยายามบังคับใช้กฎหมายเท่าที่จำเป็น และสร้างความเข้าใจต่อครอบครัวผู้กระทำผิดให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม จากเบาไปหาหนักตามสิทธิมนุษยชน ตามสถานการณ์ในพื้นที่" แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าว
นอกจากนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 และคณะฯ ยังเข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับครอบครัวของ นางรอกีเย๊าะห์ สะระนะ อายุ 45 ปี ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว ณ บ้านตันหยง หมู่ที่ 2 ตำบลบาเจาะ อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา โดยได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภค พร้อมกล่าวแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งที่ครอบครัวสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักยิ่ง ซึ่งนับเป็นการสูญเสียบุคลากรสำคัญคนหนึ่งในพื้นที่ เนื่องจากผู้เสียชีวิตเป็นครูตาดีกาประจำมัสยิดกำปงลาแล อีกทั้งเป็นผู้มีความเสียสละ บำเพ็ญประโยชน์เพื่อส่วนรวมในการพัฒนาด้านการศึกษาและสังคมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เกิดสันติสุขเสมอมา
ทั้งนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน หากพบบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ สามารถแจ้งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์สายตรง แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 โทร 061-1732999 หรือเบอร์สายด่วน กอ.รมน.ภาค 4 สน. 1341 และหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งขอเรียนให้ทราบว่า ผู้ให้การสนับสนุนผู้กระทำผิดด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การนำพาซ่อนเร้น การให้การสนับสนุนที่พักพิง หรือการสนับสนุนเสบียงอาหาร จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยข้อมูลของท่านจะได้รับการปกปิดเป็นความลับ
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : มทภ.4 ลงติดตามเหตุคาร์บอมบ์ เยี่ยมผู้บาดเจ็บ กำชับ จนท.มีสติ ไม่ประมาท
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath