อ.เจษฎ์ รับ ได้ยินมาจ่ายเงินซื้อเก้าอี้ สว. ชี้ แต่ละรอบห่างนาน มีโอกาสวิ่งเต้น
อ.เจษฎ์ รับ ได้ยินมาจ่ายเงินซื้อเก้าอี้ สว. ชี้ แต่ละรอบห่างนาน มีโอกาสวิ่งเต้น
“อ.เจษฎ์” รับ ได้ยินข่าวมีการจ่ายเงินซื้อเก้าอี้ในการเลือก สว. ชี้ อย่าโทษระบบไม่ดี หากไม่มีคนจ้องโกง ลั่น ถ้าอยากให้บ้านเมืองดี ก็ต้องทำการเมืองให้ดี แนะครั้งหน้า เลือกให้จบในวันเดียว ลดการวิ่งเต้นให้น้อยลง
วันที่ 1 กรกฎาคม 2567 รศ.ดร.เจษฎ์ โทณะวณิก ประธานคณะนิติศาสตร์วิทยาลัยบัณฑิตเอเซีย ในฐานะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ว่า ได้เห็นโฉมหน้าว่าที่ สว.ทั้ง 200 คน ต้องแยก 3 เรื่องออกจากกันคือ บทบัญญัติกฎหมาย ซึ่งร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา ไม่มีอะไรขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญ ส่วนการทำหน้าที่ของกรรมการ ต้องทำหน้าที่อย่างเข้มงวด เช่น โพยทั้งหลายต้องไม่ให้เอาเข้าไป รวมถึงโทรศัพท์มือถือ และต้องจับตาดูตลอดเวลาถ้ามีอะไรบิดพลิ้วหรือควรสงสัยต้องตัดออกไปเลย แล้วให้คนที่ถูกตัดไปร้องศาลเอง หากศาลวินิจฉัยแล้วว่าไม่ผิด ก็ให้กลับมา
รศ.ดร.เจษฐ์ กล่าวต่อไปว่า แต่หากยังมีคนโกงจ้องซื้อเสียงและฮั้ว ต่อให้ระบบดีอย่างไรก็ยังไม่พ้นการทำให้เกิดปัญหา ซึ่งวิธีแก้ก็คือประชาชนที่รู้และเห็นต้องช่วยกัน แต่ท้ายที่สุดก็คงไม่มีระบบไหนที่คัดกรองคนออกไปได้หมด ตอนนี้ได้ว่าที่ สว. มาแล้ว 200 คน ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะคัดใครออกก็ไม่รู้ เมื่อสุดท้ายได้คนมาทำหน้าที่ ก็ต้องช่วยกันตรวจสอบคนทำไม่ดีและบิดพลิ้ว หรือไปเชื่อมโยงกับพรรคการเมือง และเป็นฝ่ายกับพวกผู้มีอิทธิพล ทำให้เห็นชัดว่าการทำหน้าที่ไม่ได้อาศัยผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก แต่อาศัยผลประโยชน์ของพวกพ้องและส่วนตน ก็ต้องจัดการ ทั้งนี้ ยอมรับว่าระบบนี้ก็มีจุดที่ขาดตกบกพร่องอยู่
ส่วนวิธีแก้ปัญหาคือ ควรจัดให้มีการเลือก สว.ทุกระดับ ให้แล้วเสร็จในครั้งเดียว ไม่ควรทิ้งระยะเวลาห่างกันนาน 10 กว่าวัน จะได้ลดการวิ่งเต้นให้น้อยลง คนภายนอกก็ไม่รู้ หากจะมีคนรู้ก็คงมีแต่เจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่อยู่ในนั้น หากมีส่วนรู้เห็นก็ต้องจับมาลงโทษ ขณะเดียวกันเห็นว่า การคัดเลือกคน 20 กลุ่มอาชีพ อาจจะน้อยไป จะต้องมีให้มากกว่านั้น ไม่เกิน 40 กลุ่ม แต่อย่าคิดสั้นเพียงแค่ว่าระบบนี้ไม่ดี เปลี่ยนไปใช้การเลือกแบบหย่อนบัตร แบบนี้คือการคิดสั้น ในเมื่อมีการสร้างระบบเราก็ต้องคอยปรับแต่ง อย่าไปทำระบบเลือกที่มีปัญหาแล้วก็เปลี่ยน จนสุดท้ายก็ไม่ได้ดี
ขณะเดียวกัน รศ.ดร.เจษฎ์ ยังกล่าวอีกว่า เท่าที่ได้ยินมามีการจ่ายเงิน ชั้นต้นมีการจ่ายไปก่อนคนละ 5,000 บาท ชั้นไขว้ คนที่เป็นตัวเต็ง มีการพกเงินไปเพื่อไปจ่าย และเมื่อไปถึงระดับจังหวัดจ่ายอีก 10,000 บาท ส่วนในชั้นเลือกไขว้ จ่ายอีกหัวละ 50,000 บาท และเมื่อขยับขึ้นมาการเลือกระดับประเทศ เลือกในกลุ่มเดียวกันจ่าย 100,000 บาท และในการเลือกชั้นไขว้จ่ายอีกคนละ 500,000 บาท
หากข้อมูลเป็นไปตามที่ตัวเองได้ยินมาจริงแบบนี้คือข้อด้อย เพราะการเมืองยังเป็นเรื่องของผลประโยชน์ ประชาชนยังตามดูไม่ได้ โดยเฉพาะประชาชนที่เข้าไปสมัคร และอย่าลืมว่าเราจะติติงว่ากล่าวใครก็ได้ แต่คนที่ทำให้เป็นปัญหามากที่สุดคือคนที่เข้าสู่กระบวนการรับเงินมา ซึ่งคนที่รับเงินและโกงมาหรือฮั้วกัน เป็นคนทำให้ระบบนี้แย่ลง เช่นเดียวกับการใช้เวลาในการเลือกแต่ละรอบมีระยะห่างที่นาน ทำให้มีโอกาสไปโกงและวิ่งเต้นกันได้มาก ทั้งนี้ หากครั้งหน้าจะมีการเลือก สว.อีก ควรจะเลือกให้จบในวันเดียว
ผู้สื่อข่าวถามต่อไป หลังจากได้เห็นรายชื่อและหน้าตาของว่าที่ สว. หลายคนเกี่ยวข้องกับกลุ่มการเมือง และบางคนคุณสมบัติไม่ตรง รวมถึงมีเรื่องร้องเรียนการทุจริตเป็นจำนวนมาก การเลือก สว.ครั้งนี้ ควรจะเป็นโมฆะไปหรือไม่ รศ.ดร.เจษฎ์ ตอบว่า หากการเลือก สว.ครั้งนี้จะเป็นโมฆะ ก็เพราะว่าที่ สว. ที่เข้ามาส่วนใหญ่โกงและฮั้ว เข้ามาโดยไม่ชอบ แบบนี้ควรให้กระบวนการเป็นโมฆะไป แต่หากจะมองเรื่องคุณสมบัติหรือความรู้ หากบุคคลนั้นไม่ได้ทุจริตหรือมีส่วนเกี่ยวข้อง ก็ไม่อยากให้ตัดรอนเขาไป ให้รอการทำงานเป็นเครื่องพิสูจน์ และต้องมีความรู้ประจำในแวดวงรัฐสภา
ขณะที่ประเด็นมี สว.สายสีน้ำเงิน เข้ามาเป็นจำนวนมาก ตนก็ไม่รู้ว่ามีสายไหนเข้ามาบ้าง แต่ถ้าไม่ได้ฮั้วหรือโกง จะสายไหนก็เข้ามาได้ แต่หากมีการฮั้วและทุจริต จะเป็นสายไหนก็ไม่ดีทั้งนั้น ถ้าอยากจะให้บ้านเมืองดี ก็ช่วยทำให้การเมืองให้ดี ถ้าอยากให้บ้านเมืองเร็ว ก็ทำให้การเมืองเร็ว เพราะถ้าการเมืองเร็วอย่างอื่นก็เร็วหมด.
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : อ.เจษฎ์ รับ ได้ยินมาจ่ายเงินซื้อเก้าอี้ สว. ชี้ แต่ละรอบห่างนาน มีโอกาสวิ่งเต้น
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath