นักวิทยาศาสตร์พบ “มอสส์ทะเลทราย” สามารถมีชีวิตรอดบนดาวอังคารได้
นักวิทยาศาสตร์พบ “มอสส์ทะเลทราย” สามารถมีชีวิตรอดบนดาวอังคารได้
ในภาพยนตร์ชื่อดังเรื่อง “The Martian” สิ่งหนึ่งที่หลายคนจดจำได้คือการที่ตัวเอกเอาชีวิตรอดบนดาวอังคารด้วยการปลูกมันฝรั่ง แต่ในความเป็นจริงแล้ว นักวิทยาศาสตร์เพิ่งค้นพบว่า พืชที่สามารถอยู่รอดบนดาวเคราะห์สีแดงได้ คือ “มอสส์ทะเลทราย” ต่างหาก และมันอาจมีบทบาทสำคัญในการสร้างชีวิตบนดาวอังคาร
นักวิทยาศาสตร์ในประเทศจีนรายงานว่า มอสส์สเต็ปป์ (Syntrichia caninervis) สามารถทนต่อสภาวะคล้ายดาวอังคารได้ ไม่ว่าจะเป็นความแห้งแล้ง การแผ่รังสีในระดับสูง และความเย็นจัด
นาซาจ้าง SpaceX 3 หมื่นล้านบาท นำสถานีอวกาศนานาชาติกลับมายังโลก
สถิติที่ไม่เคยถูกบันทึก! พบผีเสื้อบินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก 4,200 กม.
“ฉางเอ๋อ-6” ถึงโลกแล้ว พร้อมตัวอย่างด้านไกลของดวงจันทร์ชิ้นแรก
มอสส์สเต็ปป์สามารถพบได้ในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก รวมถึงทวีปแอนตาร์กติกาและทะเลทรายโมฮาวี (Mojave Desert) เป็นหนึ่งในสายพันธุ์มอสส์ที่พบได้มากที่สุด
ทีมวิจัยกล่าวว่า การค้นพบของพวกเขาเป็นการศึกษาแรกเกี่ยวกับการอยู่รอดของพืชทั้งต้นในสภาพแวดล้อมดังกล่าว ขณะเดียวกันก็มุ่งเน้นไปที่ศักยภาพในการปลูกพืชดังกล่าวบนพื้นผิวดาวอังคาร มากกว่าปลูกในเรือนกระจก
“ข้อมูลเชิงลึกที่ไม่ซ้ำใครของเราวางรากฐานสำหรับการตั้งอาณานิคมในอวกาศโดยใช้พืชที่ได้รับการคัดสรรโดยธรรมชาติแล้วว่าปรับให้เข้ากับสภาวะที่รุนแรงได้” ทีมวิจัยเขียน
ศาสตราจารย์สจวร์ต แม็กแดเนียล ผู้เชี่ยวชาญด้านมอสส์จากมหาวิทยาลัยฟลอริดา ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการศึกษาวิจัยครั้งนี้ บอกว่า “การปลูกพืชบนพื้นผิวเป็นส่วนสำคัญของภารกิจอวกาศในระยะยาว เนื่องจากพืชเปลี่ยนคาร์บอนไดออกไซด์และน้ำให้เป็นออกซิเจนและคาร์โบไฮเดรตได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยพื้นฐานแล้วเป็นอากาศและอาหารที่มนุษย์ต้องการเพื่อความอยู่รอด มอสส์ในทะเลทรายไม่สามารถกินได้ แต่สามารถให้ประโยชน์ที่สำคัญอื่น ๆ ในอวกาศได้”
ด้าน ดร.อกาทา ซูปันสกา จากสถาบัน SETI เห็นพ้องว่า มอสส์สามารถช่วยเพิ่มคุณค่าและเปลียนวัสดุหินที่พบบนพื้นผิวดาวอังคารเพื่อให้พืชชนิดอื่นเติบโตได้
ทีมวิจัยระบุว่า มอสส์ในทะเลทรายไม่เพียงแต่รอดชีวิต แต่ยังฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากภาวะขาดน้ำเกือบสมบูรณ์ นอกจากนี้ยังสามารถงอกใหม่ได้ภายใต้สภาวะการเติบโตปกติ หลังจากใช้เวลา 5 ปีในสภาวะอุณหภูมิ -80 องศาเซลเซียสและใช้เวลา 30 วันที่อุณหภูมิ -196 องศาเซลเซียส และหลังจากสัมผัสกับรังสีแกมมา ด้วยปริมาณประมาณ 500 เกรย์ยูนิต โดยสามารถเติบโตใหม่ได้ด้วย
จากนั้น ทีมวิจัยได้สร้างสภาพอวดล้อมที่มีความกดดัน อุณหภูมิ ก๊าซ และรังสีอัลตราไวโอเล็ตคล้ายกับดาวอังคาร โดยพบว่ามอสส์สามารถอยู่รอดได้ในสภาพแวดล้อมคล้ายดาวอังคาร และสามารถงอกใหม่ได้ภายใต้สภาวะการเติบโตปกติ แม้จะผ่านการสัมผัสรังสีเป็นเวลา 7 วันก็ตาม
ทีมวิจัยระบุว่า “เมื่อมองไปในอนาคต เราคาดหวังว่า มอสส์ที่มีศักยภาพที่ดีนี้สามารถถูกนำไปยังดาวอังคารหรือดวงจันทร์เพื่อทดสอบความเป็นไปได้ของการตั้งอาณานิคมพืชและการเจริญเติบโตในอวกาศ”
แม็กแดเนียลตั้งข้อสังเกตว่า พืชส่วนใหญ่ไม่สามารถทนต่อความเครียดจากการเดินทางในอวกาศได้ “งานวิจัยนี้น่าตื่นเต้นเพราะมันแสดงให้เห็นว่า มอสส์ทะเลทรายสามารถรอดพ้นจากความเครียดบางส่วนที่อาจพบระหว่างการเดินทางไปดาวอังคารได้ รวมถึงระดับรังสีที่สูงมาก อุณหภูมิที่เย็นจัด และระดับออกซิเจนที่ต่ำมาก”
แต่เขาเสริมว่า การวิจัยยังมีข้อจำกัด “การทดลองเหล่านี้ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญ แต่ไม่ได้แสดงให้เห็นว่า มอสส์ทะเลทรายสามารถเป็นแหล่งออกซิเจนที่สำคัญภายใต้สภาวะของดาวอังคาร และไม่ได้แสดงให้เห็นว่าพวกมันสามารถแพร่พันธุ์ได้บนดาวอังคาร”
เรียบเรียงจาก The Guardian