เอเซีย พลัส ประเมินไตรมาส 3 หุ้นไทยฟื้นตัวกลับขึ้นไปเหนือ 1,400 จุด
บล.เอเซีย พลัส ประเมินดอกเบี้ยโลกเข้าสู่วัฏจักรขาลง แต่ดอกเบี้ยไทยยังไม่เปลี่ยน กยุทธ์การลงทุนเดือนก.ค. แนะนำหุ้นพื้นฐาน ESG ดี ได้แรงหนุนจากภาครัฐ
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด เปิดเผยว่าในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 ตลาดหุ้นไทยเผชิญศึกรอบด้าน เริ่มต้นด้วยตัวเลขเศรษฐกิจตกต่ำ GDP ไตรมาส 4 ปี 2566 อยู่ที่ 1.7% และลดลงต่อใน GDP ไตรมาส 1 ปี 2567 มาอยู่ที่ 1.5%
รวมถึงกำไรบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 4 ออกมาที่ 1.76 แสนล้านบาท ต่ำสุดในรอบ 5 ไตรมาส และยังเผชิญสงครามตะวันออกกลางต่อเนื่อง ด้วยการเมืองไทยที่ร้อนแรง ส่งผลให้ Fund Flow ต่างชาติไหลออก 1.1 แสนล้านบาท
กดดันดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET Index) ปรับตัวลง -8% และใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี ส่วนการเริ่มต้นครึ่งหลังของปีภาพเศรษฐกิจโลกที่ดูผ่อนคลายลง จากความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอย ท่ามกลางวัฏจักรดอกเบี้ยขาลงเริ่มชัดเจน
โดยเฉพาะช่วงในไตรมาส 3 ปี 2567 เชื่อว่าจะช่วยลดแรงกดดันต่อ อัตราแลกเปลี่ยน หนุนให้ค่าเงินบาทมีเสถียรภาพมากขึ้น ขณะที่ SET Index จะดีขึ้นตามลำดับ จากความกังวลสถานการณ์การเมืองอาจมีแรงกดดันลดลง
ขณะที่เศรษฐกิจไทย BOTTOM OUT จากหลายภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นการใช้จ่ายภาครัฐ (G) ภาค การการลงทุน (I) รวมถึงภาคการบริโภค (C) คาดเป็นตัวช่วยให้ GDP GROWTH ไทยทยอยเติบโตเป็นขั้นบันได
และประเมินกำไรงวดไตรมาส 2 ปี 2567 ทรงตัวในระดับ สูงมีโอกาสอยู่ในกรอบ 2.3 –2.7 แสนล้านบาท เติบโต YOY จากฐานที่ต่ำมีแรงหนุนเพิ่มจากค่าเงินบาทอ่อน และราคาน้ำมันยืนระดับสูงหนุน TRALING P/E ค่อยๆถูกลง
ส่วน FUND FLOW ต่างชาติไหลออกจากเอเชียใต้ และไหลออกจากตลาดหุ้นไทย มากที่สุดกว่า 1.1 แสนล้านบาท อีกทั้งในช่วงที่ผ่านมายังขายหุ้นไทยติดต่อกัน 26 วันทำการ เป็นการขายติดต่อกันที่ยาวนานที่สุดเป็นอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์ พร้อมกับมีสัดส่วน Short Sell สูงถึง 13% -17% ของมูลค่าซื้อขาย
สำหรับแรงผลักดันดัชนีในช่วงไตรมาสที่ 3 ประกอบด้วยการเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ, รอรับเม็ดเงินจากกองทุน THAIESG ใหม่เข้ามาหนุน และเริ่มเพิ่มเสถียรภาพจากตลาดหลักทรัพย์ อย่าง UPTICK คาดจะช่วยหนุนให้ ดัชนีค่อยๆ ทยอยฟื้นตัวกลับ ขึ้นไปเหนือ 1,400 จุด อีกครั้งได้ในไตรมาสนี้
กลยุทธ์การลงทุน แนะนำหุ้นพื้นฐานดี ได้เม็ดเงิน THAIESG ใหม่ เข้ามาหนุน กับ 2 ธีมหลัก หุ้นได้ประโยชน์จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ AOT, CK, GUNKUL และหุ้นปันผลระหว่างกาลสูง SIRI, ADVANC, TTB, TU