รู้จักสังคม Cashless society เมื่อคนไทยจะเลิกใช้เงินสด
รู้จักสังคม Cashless society เมื่อคนไทยจะเลิกใช้เงินสด
หากย้อนอดีตไปประเทศไทยเราก้าวเข้าสู่สังคม Cashless society จากการเปลี่ยนแปลงจากกระแสดิจิทัล (Wave of Digital Disruptive) ปี พ.ศ. 2538 ซึ่งอินเทอร์เน็ตได้เข้ามาพัฒนาโลกไปอย่างก้าวกระโดด ส่งผลไปถึงวงการการเงินโลกที่เปลี่ยนแปลงจากรูปแบบการใช้เงินกระดาษไปสู่เงินอิเล็กทรอนิกส์
ส่วนประเทศไทยเปอร์เซ็นต์การใช้จ่ายผ่าน Smart Payment สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 ถึงปัจจุบัน
ยกเลิก Robinhood กดดันแค่ช่วงสั้น แต่ระยะยาวเป็นบวก
เจาะลึก 6 ประเทศน่าลงทุน แนะจัดพอร์ตสู่ผลตอบแทนระยะยาว
สำหรับประเทศที่ใช้ระบบ Cashless Society อย่างเต็มตัว ก็คือ สวีเดน ที่ปัจจุบันเหลืออัตราการใช้เงินสดเพียง 2% หรือประเทศจีนที่กว่า 50% ของการใช้จ่ายทั้งประเทศ เปลี่ยนจากเงินสดเป็นผ่าน QR Code และ App ชำระเงิน และใช้จ่ายได้ถึงระดับแม่ค้าแผงลอย หรือแม้แต่การทำบุญก็ทำได้ด้วย QR Code เช่นกัน
ยิ่งไปกว่านั้นห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ ในประเทศจีนปัจจุบัน มีจำนวนพนักงานแคชเชียร์ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งส่วนใหญ่เปลี่ยนเป็นเครื่องรับชำระเงินแบบ Cashless หรือที่เรียกว่าระบบชำระเงินด้วยตนเอง (CCL Tech) โดยข้อดีของระบบชำระเงินด้วยตัวเองนี้ ก็คือความปลอดภัย, ถูกต้องและรวดเร็วกว่าเดิม แก้ปัญหาเรื่องความผิดพลาดในทุกมิติทั้งเหตุสุดวิสัยและการโจรกรรม ช่วยให้ห้างร้านใช้พนักงานเท่าที่จำเป็นซึ่งเป็นการลดค่าใช้จ่าย และระบบ CCL ยังสามารถออนไลน์เชื่อมโยงกับระบบการจัดการสต็อกสินค้าได้อย่างแม่นยำ
Gen Y, Gen Z ปัจจุบันชื่นชอบการชำระเงินด้วยตนเองแบบ Cashless มากกว่าการชำระเงินด้วยเงินสด
จากผลสำรวจพบว่าในมุมมอง Gen Y, Gen Z ปัจจุบันชื่นชอบการชำระเงินด้วยตนเองแบบ Cashless มากกว่าการชำระเงินด้วยเงินสดแบบเดิมๆ อีกทั้งเปอร์เซนต์การชำระเงินทางออนไลน์ที่สูงขึ้นของกลุ่ม Gen X และ Babyboomer แสดงให้เห็นว่าไทยกำลังก้าวสู่สังคม Cashless Society อย่างเต็มตัว
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ยังเป็นปัญหาของการเปลี่ยนระบบพนักงานรับชำระเงินเป็นระบบเครื่องรับชำระเงิน คือ ความรู้สึกว่ามันจะต้องยุ่งยากในการเปลี่ยนแปลง และมีปัจจัยมากมายที่ห้างร้าน SME ยังเห็นภาพไม่กระจ่างทำให้ลังเลในการเริ่มต้น