สายแข็งรวมตัว “สุริยันต์เล็ก” แลกเดือด “ฤทธิเดช”, “เสือคิม” ชนของแรง “เดอนิส” ศึก ONE ลุมพินี 60

OL60 cover photo

ONE เดินหน้ามอบความสนุกสุดมันให้แฟนกีฬาการต่อสู้อย่างต่อเนื่อง โดยสัปดาห์นี้เตรียมพบกับศึก ONE ลุมพินี 60 ถ่ายทอดสดสู่ผู้ชมมากกว่า 190 ประเทศทั่วโลก จากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในวันศุกร์ที่ 26 เม.ย.นี้ โดยขนนักสู้ฝีมือฉกาจ มาแลกเดือดกันแบบลุ้นระทึกทั้งสิ้น 12 คู่

240426 BKK OL60 Suriyanlek VS Rittidet 1200x1200px TH

คู่เอกนำรายการ เป็นการพบกันของ 2 นักชกจอมน็อกประจำรายการ ระหว่าง “สุริยันต์เล็ก พ.เย็นยิ่ง” นักสู้หัวใจใหญ่กว่าตับ วัย 27 ปี จากมหาสารคาม พบกับ “ฤทธิเดช ส.สมหมาย” มวยเดือดถอยไม่เป็น วัย 26 ปี จากศรีสะเกษ ในกติกามวยไทย พิกัดเฉพาะ (แคตช์เวต) 132 ป.

ผลงานล่าสุดของ “สุริยันต์เล็ก” แม้จะพ่าย “ป้อมเพชร พีเค.แสนชัย” ในศึก ONE ลุมพินี 54 เมื่อ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา แต่ด้วยลีลาการสู้แบบถึงใจ จึงทำให้ได้รับโบนัสเข้ากระเป๋าติดต่อกันเป็นไฟต์ที่ 6 พร้อมขึ้นแท่นเป็นนักชกที่พิชิตโบนัสได้มากครั้งที่สุดของรายการ ขณะที่ “ฤทธิเดช” คืนฟอร์มเก่ง กดน็อก “ต้มยำกุ้ง ภูมิใจไทย” ในศึก ONE ลุมพินี 55 เมื่อ 15 มี.ค.66 ขึ้นแท่นเป็นอีก 1 นักชก ที่พิชิตเงินโบนัส ไปแล้วมากกว่า 1 ล้านบาท และต้องการสานต่อฟอร์มฮอต ด้วยการเป็นคนแรกที่กดน็อกจอมอึดอย่าง “สุริยันต์เล็ก” ลงให้ได้

ขณะที่คู่รอง เป็นการเปิดศึกของ 2 คู่ปรับเก่าจากเวทีมวยช่อง 7 สี ที่จะโคจรมาพบกันเป็นครั้งแรกบนเวที ONE ลุมพินี ระหว่าง “โฟกัส แอ๊ดสันป่าตอง” มวยซ้ายครบเครื่อง วัย 20 ปี ดีกรีอดีตแชมป์เวทีมวยช่อง 7 สี รุ่น 130 ป. จากเชียงใหม่ พบกับ “คัมแบ็ค ทีเค.ยุทธนา” จอมบู๊ใจแกร่ง วัย 23 ปี จากนครราชสีมา ในกติกามวยไทย พิกัดเฉพาะ (แคตช์เวต) 130 ป.

สำหรับ “โฟกัส” และ “คัมแบ็ค” เคยปะทะกันมาแล้วในการแข่งขันมวยไทย 5 ยกของศึกมวยไทย 7 สี เมื่อปี 2565 และเป็น “โฟกัส” ที่เอาชนะคะแนนไปได้ ก่อนจะพัฒนาฝีมือขึ้นมา จนผงาดคว้าแชมป์ช่อง 7 สี รุ่น 130 ป. ในปีที่ผ่านมา ขณะที่ “คัมแบ็ค” ก็กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นไม่แพ้ใครมาแล้ว 5 ไฟต์ติดต่อกัน ซึ่งด้วยผลงานอันร้อนแรงของทั้งคู่ จึงทำให้ถูกประกบมาประชันฝีมือกันอีกครั้ง ในรูปแบบมวยไทย 3 ยก

240426 BKK OL60 Suakim VS Demirkapu 1200x1200px TH

ด้านคู่เอกภาคอินเตอร์ “เสือร้ายเมืองจันท์” เสือคิม สจ.โต้งปราจีน นักชกหนุ่มวัย 28 ปี จากจันทบุรี ดีกรีอดีตแชมป์เวทีมวยลุมพินี 3 รุ่น คว้าโอกาสกลับมากู้ศรัทธามหาชนอีกครั้ง พบกับ “เดอนิส เดอมีร์คาปู” จอมบู๊พลังเดือด วัย 23 ปี ตัวแทนตุรกี -โมร็อกโก โดยจะแลกเดือดกันภายใต้กติกามวยไทย พิกัดเฉพาะ (แคตช์เวต) 140 ป.

โดย “เสือคิม” ไฟต์นี้มุ่งมั่นตั้งใจ หวังจะเก็บชัยชนะให้ได้ เพื่อเรียกศรัทธาของแฟนมวยกลับคืนมาอีกครั้ง หลังไฟต์ล่าสุดในศึก ONE ลุมพินี 47 เมื่อ 12 ม.ค.67 พลาดท่าพ่ายน็อก “อเล็กเซย์ บาลีโก” ไปอย่างน่าเสียดายในยกสุดท้าย โดยจะต้องเผชิญหน้าด่านหินอย่าง “เดอนิส” ที่เปิดตัวอย่างสุดปังในศึก ONE ลุมพินี 53 เมื่อ 23 ก.พ.67 จากการกดน็อกจอมแกร่ง อย่าง “บัวเขียว ป.เปาอินทร์” ด้วยเวลาเพียง 59 วินาทีของยกแรก

นอกจากนี้แฟนกีฬาการต่อสู้จะได้ร่วมลุ้น “ศรศึกน้อย เอฟเอ.กรุ๊ป” คว้าชัยพร้อมโบนัสไฟต์ที่ 4 ติดต่อกัน ปะทะ “เอซากุ โอกาซาวาระ” กำปั้นหน้าหล่อ จากญี่ปุ่น รวมถึง “จูเนียร์ แฟร์เท็กซ์” สาวน้อยมหัศจรรย์ ลุ้นเก็บชัย 5 ไฟต์รวด พบ “มาซามิ มาชิดะ” นักสู้จากญี่ปุ่น ที่จะมาเปิดตัวเป็นครั้งแรก

240426 BKK OL60 Boutcard TH 1

โปรแกรมการแข่งขันทุกคู่ศึก ONE ลุมพินี 60

• คู่เอก สุริยันต์เล็ก พ.เย็นยิ่ง vs ฤทธิเดช ส.สมหมาย (มวยไทย แคตช์เวต 132 ป.)
• คู่รอง โฟกัส แอ๊ดสันป่าตอง vs คัมแบ็ค ทีเค.ยุทธนา (มวยไทย แคตช์เวต 130 ป.)
• ขุนพลน้อย ส.สมหมาย vs สองฝั่งโขง เอฟเอ.กรุ๊ป (มวยไทย แคตช์เวต 136 ป.)
• ก้าวไกล ช.ห้าพยัคฆ์ vs สุวัฒน์เล็ก ทีเด็ด99 (มวยไทย รุ่นสตรอว์เวต 115 – 125 ป.)
• ยอดนำชัย แฟร์เท็กซ์ vs มเหศวร เอกเมืองนนท์ (มวยไทย รุ่นอะตอมเวต 105 – 115 ป.)
• แสงศักดิ์ดา บอยท่าฉาง vs เดชภูผา โชติบางแสน (มวยไทย แคตช์เวต 113 ป.)
• เสือคิม สจ.โต้งปราจีน vs เดอนิส เดอมีร์คาปู (มวยไทย แคตช์เวต 140 ป.)
• คูปาร์ รอยัล vs คาอิโตะ โอดะ (การต่อสู้แบบผสมผสาน รุ่นฟลายเวต 125 – 135 ป.)
• ศรศึกน้อย เอฟเอ.กรุ๊ป vs เอซากุ โอกาซาวาระ (มวยไทย แคตช์เวต 132 ป.)
• โทมัส วาน นิจนัตเทน vs ปานมงคล ซีเอ็มเอ อะคาเดมี (มวยไทย แคตช์เวต 129 ป.)
• จูเนียร์ แฟร์เท็กซ์ vs มาซามิ มาชิดะ (มวยไทย รุ่นอะตอมเวต 105 – 115 ป.)
• ลีซี วาห์ต vs นัตสึกิ ทาคาโมโตะ (ปล้ำจับล็อก รุ่นสตรอว์เวต 115 – 125 ป.)

ศึก ONE ลุมพินี 60 ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) วันศุกร์ที่ 26 เม.ย.นี้ แฟนกีฬาการต่อสู้ชาวไทยสามารถจองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง THAI TICKET MAJOR คู่แรกเริ่มเวลา 19.30 น. และรับชมทางช่องทางต่าง ๆ ดังนี้

• ช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 20.30 น.