ความตึงเครียด "อิหร่าน-อิสราเอล" ถล่มการเดินเรือโลก

ความตึงเครียด “อิหร่าน-อิสราเอล” ถล่มการเดินเรือโลก

ภัยคุกคามจากอิหร่านได้นำไปสู่การริเริ่มทางการทูตทั่วโลกเพื่อขัดขวางความเป็นไปได้ที่จะเกิดความขัดเเย้งเพิ่มขึ้นในภูมิภาคนี้

ในอีกด้านหนึ่งมีความกังวลว่า “อุตสาหกรรมการเดินเรือทั่วโลก” กำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากและท้าทายมากขึ้น หลังจากที่ อิหร่าน เพิ่มความตึงเครียดในเอเชียตะวันตกด้วยการยิงโดรนและขีปนาวุธโจมตีอิสราเอล อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทำให้เกิดการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน และเพิ่มความเป็นไปได้ที่จะเกิดการติดขัดในเส้นทางเดินเรือ

ผู้เชี่ยวชาญกล่าว การโจมตีอิสราเอลของอิหร่านทำให้เกิดความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยการนำทั้งสองประเทศเข้าสู่ความขัดแย้งโดยตรง

อิหร่านยิงขีปนาวุธและโดรน 330 ลูกใส่อิสราเอลในช่วงดึกของคืนวันเสาร์ เพื่อตอบโต้ข้อกล่าวหาการโจมตีของอิสราเอลในภารกิจทางการทูตของสาธารณรัฐอิสลามในกรุงดามัสกัสเมื่อวันที่ 1 เมษายน ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายคน รวมถึงผู้บัญชาการระดับสูง 2 คน

มีความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่อ่าวเปอร์เซีย จะปิดตัวลง แม้ว่าหลายคนยังคงหวังว่าจะคลี่คลายความตึงเครียดอันรุนแรงในภูมิภาคนี้

อ่าวเปอร์เซีย บางครั้งเรียกว่า อ่าวอาหรับ เป็นอ่าวในเอเชียตะวันตก เชื่อมต่อกับอ่าวโอมานทางทิศตะวันออกโดย ช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นจุดอับทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก อยู่ระหว่างคาบสมุทรอาหรับกับประเทศอิหร่าน

อ่าวเปอร์เซียเป็นแหล่งน้ำมันดิบแบบเดี่ยวที่ใหญ่ที่สุดในโลกและเป็นที่ตั้งของแท่นขุดเจาะน้ำมันอัลซะฟะนียะ (Al-Safaniya) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ลอยตัวอยู่กลางอ่าวเปอร์เซีย

ขณะที่ คลองสุเอซ เป็นทางน้ำที่มนุษย์สร้างขึ้นในอียิปต์ เชื่อมทะเลเมดิเตอร์เรเนียนกับทะเลแดงผ่านคอคอดสุเอซ และแบ่งทวีปแอฟริกาและเอเชีย

การประชุม Singapore Maritime Conference ระหว่างวันที่ 15-19 เมษายน โดยผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 10,000 คน มีความเป็นของผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวสถานการณ์ความขัดเเย้งระหว่างอิหร่านกับอิสราเอลโดยเฉพาะผลกระทบต่อการเดินเือโลก

การเบี่ยงเบนเรือแต่ละลำคาดว่าจะมีค่าใช้จ่าย 30 ล้านเหรียญสหรัฐผ่านแหลมกู๊ดโฮปจากคลองสุเอซ ตามข้อมูลของ PacMarine Services ในสิงคโปร์

ข้อมูลจาก Sumitomo Mitsui Banking Corp กล่าวว่า ค่าขนส่งได้เพิ่มขึ้นแล้ว 3-4 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดโควิด

การเปลี่ยนเส้นทางเรือผ่านแหลมกู๊ดโฮปจะทำให้การเดินทางเพิ่มขึ้น 12-13 วันเมื่อเทียบกับการล่องเรือผ่านคลองสุเอซ จะส่งผลให้ค่าขนส่งพุ่งสูงขึ้น รวมทั้งเพิ่มมลภาวะและลดความพยายามในการจัดการสภาพภูมิอากาศ เนื่องจากเชื้อเพลิงจะถูกเผามากขึ้นเรื่อยๆ ตามข้อมูลของบริษัท Wartsila นั่นหมายถึง ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงน้ำมัน จะพุ่งสูงขึ้นตามไปด้วย

อุตสาหกรรมการเดินเรือทั่วโลกมีบทบาทสำคัญในการขนส่ง 80-85 เปอร์เซ็นต์ของการค้าโลก ผู้เชี่ยวชาญหวังว่าสถานการณ์ในตะวันออกกลางจะได้รับการควบคุม และห่วงโซ่อุปทานจะยังคงอยู่

โดยมีการประเมินว่า ประเทศผู้นำเข้าอุปทานจะเปลี่ยนมาซื้อจากตลาดใกล้เรือนเคียง แม้ว่าจะมีราคาแพงก็ตาม เเละเชื่อว่าการค้าจากเอเชียจะได้รับประโยชน์จากการส่งมอบสินค้าราคาแพงและราคาของผลิตภัณฑ์อาหารและสินค้าที่พุ่งสูงขึ้น

แต่นักเดินเรือจะต้องทนทุกข์และอุตสาหกรรมจะเผชิญกับการบีบตัวของกำลังคน เนื่องจากกะลาสีเรือไม่ต้องการขึ้นเรือ และพนักงานใหม่จะถูกกีดกันจากการเข้าร่วมในอุตสาหกรรมการขนส่ง ตามข้อมูลของ MarinePALS 

เเม้แต่ความเห็นที่ว่า หากอ่าวเปอร์เซียถูกปิดและเส้นทางอื่นๆ ขาดหาย สหรัฐฯ ในฐานะผู้ส่งออกน้ำมันสุทธิ จะได้รับประโยชน์จากราคาที่สูงขึ้น ผู้บริหารอุตสาหกรรมน้ำมันรายหนึ่งในงาน Maritime Week

ที่มา