หมออ๋อง รองประธานสภาคนกลาง บนบัลลังก์เป็นธรรม-ไม่ห่างก้าวไกล

หมออ๋อง รองประธานสภาคนกลาง บนบัลลังก์เป็นธรรม-ไม่ห่างก้าวไกล

ภาพประกอบข่าว

คอลัมน์ : สัมภาษณ์ ผู้เขียน : ณัฐวุฒิ กรัณยโสภณ,วรุฒ สุมทุมพฤกษ์

ปฏิเสธไม่ได้ว่า “ปดิพัทธ์ สันติภาดา” หรือ “หมออ๋อง” รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 จากพรรคเป็นธรรม แต่ก่อนหน้านี้ เขาคือตัวแทน พรรคก้าวไกล ที่ขึ้นมานั่งบัลลังก์ประธานสภา

เขาต้องทำหน้าที่ ในช่วงเวลาที่ การเมืองใน-นอกสภา ถกเถียงวาระที่แหลมคม ทั้ง การแก้รัฐธรรมนูญ การแก้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ประเด็นการเมืองควบเศรษฐกิจ อย่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้าน

หมออ๋อง รองประธานสภาคนกลาง บนบัลลังก์เป็นธรรม-ไม่ห่างก้าวไกล

ภาพประกอบข่าว

มี “พรรคก้าวไกล” ในฐานะหัวขบวนฝ่ายค้านเป็นสมการสำคัญ

ประชาชาติธุรกิจ สนทนากับ “ปดิพัทธ์” ถึงการทำหน้าที่ในสภาของเขา เป็นตัวแทนของพรรคเป็นธรรม หรือพรรคก้าวไกลกันแน่

สภาควรจัดการอย่างไรกับการแก้ไขมาตรา 112 แก้รัฐธรรมนูญ

พรรคก้าวไกลจะถูก “ยุบพรรค” หรือไม่ คำตอบของเขามีดังนี้

อยู่เป็นธรรม ใกล้ชิด “ก้าวไกล”

คำถามแรกว่าสถานะของเขาว่าอยู่พรรคเป็นธรรม แต่ปฏิบัติหน้าที่ให้พรรคก้าวไกลหรือเปล่า “ปดิพัทธ์” ตอบว่า จริง ๆ ปฏิบัติงานให้ทุกพรรค เพราะสถานะของรองประธานสภาไม่ได้เป็นรองประธานสภา ของใคร แค่ต้องสังกัดพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่ทำงานต้องทำงานให้ทุกพรรค

แต่ถามว่าพรรคเป็นธรรม กับ พรรคก้าวไกล มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันไหม ก็เรียกว่าเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้าน อาจมีเวลาพูดคุยกับพวกเขามากกว่าพรรคร่วมรัฐบาล แต่กระทบกับความเป็นกลางไหม..ต้องบอกว่าไม่มี

เป็นกลาง ไม่เลือกปฏิบัติ

แล้วนิยามความเป็นกลางของ “หมออ๋อง” คืออะไร เขาตอบว่า ความเป็นกลางถูกเขียนไว้ต้องเป็นกลางในที่ประชุม หรือในการนำประชุม มีมิติที่ชัดเจนอยู่

คือเราไม่เลือกปฏิบัติ ไม่ว่าเป็นคนมาจากพรรคไหน กฎหมายจะถูกเสนอโดยใคร แต่เรามีมาตรฐานการทำงานที่สม่ำเสมอตรงกัน สส. 500 คนที่อยู่ในห้องประชุม ทุกคนอ่านข้อบังคับข้อเดียวกัน แต่ก็ตีความต่างกัน ใช้ต่างกัน

เพราะฉะนั้น หน้าที่ของประธานก็คือต้องเป็นผู้วินิจฉัย แต่เป็นไปไม่ได้หรอกที่จะถูกใจคนทั้ง 500 คน ต้องมีคำวิพากษ์วิจารณ์ตามหลังว่า วินิจฉัยถูก วินิจฉัยผิด

ผมคิดว่าความเป็นกลาง คือ มาตรฐานการดำเนินงาน ไม่ใช่ว่าเราตัดสินอะไรไม่ได้เลยแล้วห้ามมีคอมเมนต์เลย

แต่ในการทำหน้าที่ประธาน กลับมี สส.ฝ่ายรัฐบาลลุกขึ้นประท้วงว่า “ประธานไม่เป็นกลาง” ในจังหวะที่ให้พรรคก้าวไกลได้พูด หรือได้สิทธิประท้วง เป็นสิ่งที่ทำให้ลำบากใจหรือไม่

เขาตอบทันทีว่า ไม่ลำบากครับ ตอนผมเป็น สส. ผมก็ทำอย่างนี้ เพราะว่าทุกคนมี Passion ในการอภิปราย ถ้าประธานตัดสินอะไรที่ทำให้เขาไม่สามารถพูดได้ ก็รู้สึกว่าประธานคงไม่แฟร์กับเขา แต่ถ้าสมาชิกติงเยอะ ๆ ก็ต้องกลับมาทบทวนว่าเราตัดสินใจหรือวินิจฉัย ขาดเหตุผลที่รอบคอบหรือเปล่า ซึ่งเป็นประโยชน์

แก้ ม.112 ไม่ล้มล้างการปกครอง

ก่อนหน้านี้ ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย กรณีพรรคก้าวไกล หาเสียงแก้ไขมาตรา 112 ว่าเป็นการล้มล้างการปกครอง ต่อไปนี้สภาจะแก้ไขมาตรา 112 ได้หรือไม่

“ปดิพัทธ์” ตอบว่า ถ้าเราดูคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ มีแค่จำเลย 2 คน ก็คือ คุณพิธา (ลิ้มเจริญรัตน์) กับพรรคก้าวไกล ดังนั้น ช่องทางการเสนอกฎหมายยังมีอีก 3 ช่อง คือเสนอโดย คณะรัฐมนตรี เสนอโดยประชาชน เสนอโดย สส. เข้าชื่อกัน 20 คน

ถ้าเราจะเคารพคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ก็คือแค่จำเลย 2 ท่านนั้นที่ต้องระวังเป็นพิเศษ และถ้าเราไปดูในคำตัดสิน ท่อนที่เขียนไว้ชัดเจนคือ สามารถเสนอได้โดยในกระบวนการนิติบัญญัติโดยชอบ

และผมก็ยืนยันว่าการแก้ 112 ไม่ใช่ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ถูกแก้มาแล้วหลายครั้งหลายตอน และโทษตอนนี้หนักกว่าตอนเป็นสมบูรณาญาสิทธิราชย์ และถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง

เริ่มต้นหลัง 6 ตุลาคม 2519 และหลัง 6 ตุลา 2519 คณะรัฐประหารเองก็แก้ไขมาตลอด เพราะฉะนั้น ผมคิดว่ามันก็มีโอกาสที่จะแก้ได้

และต้องอย่าลืมว่ามันแค่เป็นการแก้กฎหมายอาญา ไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปสถาบันแบบที่ทุกคนเข้าใจ เป็นแค่แก้กฎหมายอาญามาตราเดียวเท่านั้น ที่ทำให้ความผิดได้สัดส่วนที่ถูกต้องและไม่ถูกใช้เป็นเครื่องมือการเมือง

“ผมว่าการแก้ ม.112 ก็ยังไม่เท่ากับหรือเท่ากับทั้งหมดของการปฏิรูปสถาบัน”

ถามย้ำว่า ไม่ถือเป็นการล้มล้างการปกครอง รองประธานสภาตอบว่า “มันจะล้มได้ยังไงครับ แก้ไขกฎหมาย เราไปดูในประวัติศาสตร์โลก หรือประวัติศาสตร์ไทย การล้มล้างการปกครองทำได้ด้วยการรัฐประหาร กับการมีกองกำลัง การแก้กฎหมายข้อหนึ่ง แล้วการปกครองจะล้มได้เนี่ย ผมว่าเป็นสมมุติฐานที่เกินจริงไปมาก”

ให้สภาเป็นเวทีถกเถียง

แล้วคิดว่าการปฏิรูปในสถาบัน การแก้ไขมาตรา 112 ควรนำมาถกในสภาไหม หรือปล่อยไว้ให้พูดกันนอกสภา “ปดิพัทธ์” กล่าวว่า เรามีบทเรียนจากทั้งไทยและประวัติศาสตร์โลก ว่า ถ้าเราเชื่อในสันติวิธี ถ้าเราเชื่อในเรื่องของสิทธิในการพูด ถ้าเราเชื่อในเรื่องของเสียงส่วนใหญ่ ไม่มีที่ไหนเหมาะสมไปมากกว่าสภาแล้ว

เพราะในสภาเวลาคุณพูด มันไม่มีใครทำร้ายคุณ แต่ถ้าคุณไปพูดบนถนนอาจจะมีการทำร้ายกัน คุณพูดไม่ใช่ฝ่ายเดียว คุณต้องถูกกำกับให้ฟังด้วย เพราะคุณพูดได้แค่เวลาที่จำกัด แต่ถ้าไปพูดข้างนอกเวทีปราศรัยจะเป็นพูดฝ่ายเดียว โดยที่ไม่รับฟังอะไรกันเลยก็ได้ ผมคิดว่าการพูดในสภา เหมาะสมต่อการแก้ไขความขัดแย้งทุกเรื่อง

ประเทศที่หนักหนาสาหัสกว่าเราผ่านสงครามโลก ผ่านสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ผ่านการแบ่งแยกดินแดน สภาก็เป็นพื้นที่ในการถกเถียงหาทางออก ถ้าเรามีความหวังในสภาว่าเป็นพื้นที่ในการถกเถียงหาทางออกในสันติวิธี เราก็จะไม่พึ่งพาวิธีการอื่นหรือไม่ใช้ความรุนแรงกัน

“ปดิพัทธ์” บอกว่า ในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา ไม่เคยมีการพูดถึงกฎหมายมาตรา 112 ในสภา

“บางทีเราอาจกลัวเกินไป และ 10 ปีที่ผ่านมาก็เรียกว่าเป็นทศวรรษที่สูญหายไปของประชาธิปไตย เพราะฉะนั้น สังคมไทยไม่เคยเรียนรู้การถกเถียงในสันติวิธีมานานเกินไปแล้ว เราอยู่กับผู้นำที่เถียงไม่ได้ เราอยู่กับการแสดงความคิดเห็นและต้องเข้าคุก แต่เราก็ไม่เคยเห็นสภาว่าถกกันหนัก ๆ แล้วไม่มีใครเป็นอะไรหน้าที่ของเราคือทำให้มันเกิดขึ้นให้ได้เท่านั้น”

ยุบพรรค=ฆาตกรรมเสียง ปชช.

คำถามสำคัญ พรรคก้าวไกลจะสุดที่ถูกยุบพรรคหรือไม่ “ปดิพัทธ์” ไม่ตอบคำถามตรง ๆ แต่ตั้งใจสื่อความหมายที่ตรงประเด็นกว่า

“ผมให้ความเห็นจะไม่เหมาะสม แต่ผมพูดได้อย่างเดียว การยุบพรรคการเมืองไม่มีผล ไม่มีทางที่จะทำซ้ำเดิมได้ว่ายุบพรรคการเมืองแล้วจะทำให้การปกครองมันง่าย มันเชื่อง มันหุบปากประชาชนได้ เพราะว่าประชาชนวันนี้กับเมื่อ 20 ปีที่ผ่านมาต่างไปจากเดิมมาก”

“ผมไม่รู้อนาคตของพรรคต่าง ๆ จะเป็นอย่างไร ผมแค่อยากบอกผู้มีอำนาจว่า การยุบพรรคไม่ได้เป็นคำตอบของการแก้ปัญหาแน่นอน”

พิสูจน์จากการยุบพรรคอนาคตใหม่ ก้าวไกลก็ยังโตขึ้น หรือเปล่า “ปดิพัทธ์” ตอบว่า มันถูกครึ่งนึงฮะ แต่ไม่ควรทำให้สังคมเชื่อว่ายุบก็ยุบได้ เพราะการยุบพรรคเป็นอาชญากรรม เป็นการฆาตกรรมเสียงของประชาชน

พรรคการเมืองควรตั้งง่ายยุบยาก และถ้าจบ ก็ต้องจบด้วยมือประชาชนก็คือประชาชนไม่เลือกแล้วถึงจะตายไป

แต่บ้านเมืองของเรามีอำนาจอื่นมากำหนดตั้งแต่ขาเข้า ตรงกลาง แล้วขาออกของพรรคการเมือง ซึ่งอันนี้อันตรายมากต่อระบบประชาธิปไตย

“ทางออกคือรัฐธรรมนูญใหม่เท่านั้นเลยครับ ตอนนี้การแก้ด้วยคำวิพากษ์วิจารณ์ การแก้ด้วยข้อเสนอทางวิชาการ เป็นการแตะแค่ผิวเผิน เพราะสุดท้ายพิมพ์เขียวอำนาจคือ รัฐธรรมนูญเท่านั้น ต้องแก้รัฐธรรมนูญ”

แก้ รธน.เล็กน้อย ไม่ถือว่าแก้

คิดว่าการแก้รัฐธรรมนูญจะผ่านไปได้หรือไม่ ตอนนี้ยังไม่มีสัญญาณชัดเจนจากรัฐบาล เขาตอบว่า ยังมีความหวัง ผมคิดว่าเสียงเรียกร้องของประชาชนผ่านการเลือกตั้งที่ผ่านมา 75% ออกมาเลือกพรรคที่มีนโยบายชัดเจนว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ถ้ารัฐบาลไม่ได้แก้รัฐธรรมนูญ คิดว่าจะมีแรงกดดันมายังรัฐบาลมากพอสมควร แต่ถามว่าจะแก้อย่างไร ทั้งกระบวนการ ที่มา เนื้อหา เป็นเรื่องที่เราต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด

ในปี 2562 มีการแก้รัฐธรรมนูญ สุดท้ายเราได้อะไรมา… เราได้แค่ระบบเลือกตั้ง แต่ไม่กระทบศูนย์กลางอำนาจของการแต่งตั้งเลย

“ดังนั้น ถ้ารัฐบาลนี้จะแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย แต่ไปแก้เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แก้ที่ไม่ใช่เรื่องศูนย์กลางอำนาจของการแต่งตั้ง อันนั้นไม่เรียกว่าการแก้รัฐธรรมนูญ”

ปดิพัทธ์ คิดว่าการจะแก้ให้สภาเป็นเสาหลักของอำนาจประชาชน ต้องเขียนรัฐธรรมนูญใหม่หมด ไม่ได้บอกว่ารัฐธรรมนูญ 2560 แย่ทุกมาตรา อย่างมาตรา 77 ก็ดีมาก แต่พอดีว่าที่มามันยอมรับไม่ได้ เราไม่ได้ต้องการกฎหมายที่ดีนะครับ แต่ต้องการกฎหมายที่ชอบธรรม เพราะฉะนั้น ที่มาสำคัญมาก

“คนร่างอาจจะร่างไม่ดีที่สุดก็ได้ แต่ได้รับฉันทานุมัติ เพราะดีไม่ดีใครวัดล่ะครับ ถ้าเป็นกลุ่มคนเล็ก ๆ บอกว่ารัฐธรรมนูญนี้มันก็ดีสำหรับพวกเขาหรือเปล่า แล้วก็มองว่าประชาชนร่างอาจจะไม่ดี ประชาชนร่างก็บอกว่าอาจจะไม่สมบูรณ์หรอก แต่มาจากเสียงส่วนใหญ่และที่มามันถูกต้อง อันนี้ต้องถกเถียงกันให้ดี ผมให้ความสำคัญกับที่มามาก ๆ”

และรัฐธรรมนูญไทยมีข้อวิจารณ์มากว่า มันยืดยาวเกินไป หลายอย่างที่ไม่จำเป็นต้องอยู่ในรัฐธรรมนูญ ไม่มีประเทศไหนนะครับ เอาระบบเลือกตั้งไว้ในรัฐธรรมนูญ ก็แค่บอกให้มีการเลือกตั้งโดยตรง แต่เราเขียนทุกวิธีว่าจะได้ สส.ได้อย่างไร ไม่มีรัฐธรรมนูญประเทศไหนเอายุทธศาสตร์ไปไว้ในรัฐธรรมนูญเพราะยุทธศาสตร์ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย ๆ

รัฐธรรมนูญไทยที่เขียนใหม่ฉบับหน้า ถ้าจะให้ตีความความเป็นประชาธิปไตยและมีความเป็นสากลมาก ที่มา การจัดหมวดหมู่ การแบ่งอำนาจต้องกระชับ ชัดเจน แก้ยาก

แล้วจะทำอย่างไรให้รัฐธรรมนูญฉบับต่อไป ไม่ถูกฉีก “ปดิพัทธ์” บอกว่า เป็นคำถามที่ตอบยาก แต่ถามว่าใครฉีกรัฐธรรมนูญได้บ้าง ก็ต้องก่อสงครามไม่ก็ยึดอำนาจ เพราะฉะนั้นคำตอบมีเรื่องเดียวคือว่าถ้าประชาชนเท่านั้นฉบับนี้มาจากอำนาจประชาชนจริง ๆ ประชาชนรู้สึกรักและหวงแหนมันจริง ๆ จะไม่มีใครยอมให้ฉีกรัฐธรรมนูญ

“แต่ถ้ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่นี้ประชาชนบอกว่าใครร่างก็ไม่รู้ ตัวแทนของเราก็ไม่มี ความเห็นของเราก็ไม่ใช่ ความเป็นเจ้าของรัฐธรรมนูญก็ไม่มี ใครยึดอำนาจก็ยึดไป ผมคิดว่ามันสำคัญตรงกระบวนการนี้แหละ”

ยกระดับสภาต้องรื้อโครงสร้าง

ปดิพัทธ์บอกว่า สภายังไม่พ้นจุดตกต่ำ องค์กรอิสระมีอำนาจล้นเกิน จากรัฐธรรมนูญ เพราะโครงสร้างอำนาจในรัฐธรรมนูญ 2560 กับตอนรัฐประหาร ยังไม่ได้แตกต่างกันนัก

3 อำนาจ ตุลาการ บริหาร นิติบัญญัติ อำนาจประชาชนที่มันสม่ำเสมอต่อเนื่อง มีที่มาที่ไปชัดเจน คือนิติบัญญัติ แต่รัฐธรรมนูญ 2560 เขียนให้อำนาจจากการเลือกตั้งมีน้อย อำนาจจากการแต่งตั้งมีมาก

ไม่ว่าจะเป็น สว. ไม่ว่าจะเป็นองค์กรอิสระ ไม่ว่าจะเป็นยุทธศาสตร์ชาติ เป็นไปไม่ได้ที่เราจะมีตัวตนและศักดิ์ศรีทัดเทียมกับอำนาจอื่นในรัฐธรรมนูญฉบับนี้ หนทางเดียวที่จะเป็นไปได้คือการแก้รัฐธรรมนูญเท่านั้น

เปิดฟลอร์ถกเงินกู้ 5 แสนล้าน

อีกวาระหนึ่ง หากรัฐบาลเดินหน้าโครงการดิจิทัลวอลเลต 1 หมื่นบาท ผ่านการออก พ.ร.บ.เงินกู้ 5 แสนล้าน สภาเตรียมรับมืออย่างไร “ปดิพัทธ์” บอกว่า คงไม่ง่ายเหมือนตอน พ.ร.ก.เงินกู้ ในช่วงโควิด เพราะว่า พ.ร.บ.เงินกู้ ต้องผ่านทั้ง 3 วาระ ต้องมีความเห็นของหลายฝ่ายเข้ามา

รัฐบาลเองก็พยายามจะแก้ไขปัญหา ก่อนเอากฎหมายเข้าสภาเพราะยังแก้ปัญหาไม่จบ และถ้าเข้าสภาเลยก็อาจจะเจอปัญหาอีกแบบหนึ่งได้ ดังนั้นต้องเตรียมความแม่นยำทางกฎหมาย ความแม่นยำทางกฎหมายที่เชื่อมโยงกับองค์กรอื่น

ต้องมีความเข้าใจด้านเศรษฐศาสตร์การลงทุนที่ดี ซึ่งผมคิดว่าผมก็เตรียมเป็นพื้นฐานเอาไว้ แล้วก็ฟังให้เข้าใจว่าผู้อภิปรายอยู่ในประเด็นหรือเปล่า

ถ้า พ.ร.บ.เงินกู้ มาปะทะกันในสภาจะทำอย่างไร เขาบอกว่า ก็ดีแล้วครับ สภาฯมันต้องปะทะกัน สภาไทยเรียบร้อยเกินไปด้วยซ้ำ ถ้าไปดูสภาฯอังกฤษ สภาอเมริกา สภาสเปน สภาเยอรมัน มันต้องถกเถียงกันจริง ๆ ไม่ใช่พูดพอเป็นพิธี เพราะว่าเรากำลังพูดถึงเงินภาษี เรากำลังพูดถึงความรับผิดชอบ เรากำลังพูดถึงนโยบาย เพราะฉะนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะมาถกกันเล็ก ๆ น้อย ๆ พอเป็นพิธีแล้วก็ผ่านไป ผมคาดหวังการถกเถียงที่เอาจริงเอาจังเข้มข้น

6 เดือนของหมออ๋องในสภา

“หมออ๋อง” รีวิวการทำงานของตัวเองในรอบ 6 เดือนว่า แบ่งเป็น 3 เรื่อง ตอนผมสัญญาไว้ในสภากับสัญญากับประชาชน ก็คือ จะทำสภาให้โปร่งใสมีประสิทธิภาพและเป็นของประชาชน

ที่เข้ามา 6 เดือน เรามีการเปิดพื้นที่อย่างลานประชาชนให้มีการฉลองวันรัฐธรรมนูญครั้งแรกในรอบ 60 ปี เรามีการเปิดลานประชาชนให้กลุ่มเคลื่อนไหวทางสังคม สามารถใช้ลานประชาชนในการรณรงค์ได้ซึ่งก็มีมาใช้แล้ว 2 กลุ่มก็คือแอมเนสตี้ กลุ่มรณรงค์นิรโทษกรรมภาคประชาชน

เราเปิดให้ประชาชนเข้ามาเป็นสักขีพยานการประชุม ในการอภิปรายงบประมาณและได้เสียงรับเสียงตอบรับที่ดีมากว่าประชาชนอยากเข้ามาเป็นสักขีพยานไม่ใช่แค่มาเยี่ยมชมสภา

มีการปรับปรุงหลักสูตรการอบรม เด็กฝึกงาน นักศึกษาฝึกงานใหม่ เพราะนักศึกษาฝึกงานที่เข้ามา ต้องเป็นบุคลากรที่เราให้ความสำคัญ เราพยายามทำให้สภาของเราเป็นสถานที่ที่ควรจะเรียนรู้ได้มาก ในเรื่องของระบบสภารัฐธรรมนูญและระบอบประชาธิปไตย อันนี้ก็เรียกว่าสภาประชาชน

สภาโปร่งใสตอนนี้ทำสำเร็จแล้ว คือการเปิดเผยข้อมูลการทำงาน สส.เรียกว่าเป็นแฟ้มผลงาน สส. เข้าไปในเว็บไซต์เราจะเจอช่องทางการติดต่อ สส.เราจะเจอผลงานของ สส.แบบเรียลไทม์ ไม่ว่าจะเป็นการอภิปราย การลงมติ การทำกระทู้ การเป็นจ้าของร่าง พ.ร.บ. การเป็นกรรมาธิการ

ล่าสุดที่ไม่เคยมีการเปิดเผยมาเลยตลอดประวัติศาสตร์ คือเปิดเผยรายชื่อผู้ช่วยผู้เชียว ผู้ชำนาญการประจำตัวของ สส.อันนี้ความโปร่งใสที่เราจะเปิดเผยว่าสดที่คุณเลือกมาทำงานเป็นอย่างไร ขาด ลา มาสายเท่าไหร่  เป็นผลงานให้ประชาชนพิจารณาในการเลือกตั้งครั้งต่อไป

โปร่งใสที่เราทำสำเร็จแล้วก็คือ เราติดสามารถติดตามสถานะของร่างกฎหมายแบบเรียลไทม์ได้แล้วว่าตอนนี้กฎหมายที่ทุกฝ่าย อยู่ในสถานะไหน ติดอยู่ที่ใครมัน เคลื่อนไหวไปตรงไหนยังไงบ้าง อันนี้เว็บไซต์สภาก็ปรับปรุงเรียบร้อยแล้ว

สุดท้ายที่เรายังทำความโปร่งใสขั้นสุดไม่ได้เพราะเรายังไม่ทำสิ่งที่เรียกว่าเป็น open data ซึ่งเราก็ตั้งกรรมการขึ้นมาเรียบร้อยแล้ว คือคณะธรรมาภิบาลข้อมูล   อะไรเปิดอะไร เปิดเมื่อร้องขอ อะไรปิด ทุกกระบวนการของสภาจะโปร่งใสมากขึ้น

สุดท้ายคือมีประสิทธิภาพอันนี้ยากที่สุด เพราะว่าเราต้องทำ 2 เรื่องให้สำเร็จก็คือทำเรื่องของดิจิตอลทรานส์ฟอร์เมชั่นสภาให้ได้อันนี้เป็นโปรเจกต์ระยะยาว 4 ปีที่เรากำลังจับทิศทางที่จะ go cloud แล้วก็ทำแพลตฟอร์ม 2 อันให้เป็นดิจิตอลก็คือการร่างกฎหมายและการพิจารณางบประมาณ

แล้วก็อีกคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมาแล้วจะคิกออฟกันปลายเดือน คือคณะกรรมการปรับปรุงโครงสร้างข้าราชการรัฐสภา จะรับฟังความคิดเห็นคนทั่วทุกฝ่าย  มีการยกระดับการทำงานฝ่ายกฎหมายของสภาฯให้กลายเป็นสำนักงานนิติบัญญัติที่ที่แข็งแรง

มีการควบรวมองค์กรที่ซ้ำซ้อนระหว่าง สส กับ สว ให้มีประสิทธภาพมากขึ้น ถ้าเราทำสำเร็จใน 4 ปี เราก็จะมีองค์กรใหม่ที่ทันสมัยแล้วก็พร้อมสำหรับภารกิจที่มีประสิทธิภาพในอนาคตอันนี้เป็นงานระยะยาว

แก้ปัญหาสภามาเฟีย

แต่ที่ผ่านมาสภา ถูกมองว่ามีแต่พวก เจ้าพ่อ มาเฟีย นักธุรกิจการเมือง ถามหมออ๋องว่า เห็นกลุ่มคนเหล่านี้หรือไม่ เขาบอกว่า ถ้าสมัย 1 เห็นเยอะเลย สมัย 2 เห็นน้อยลงแล้ว เพราะมีการพลัดรุ่นของ สส.เยอะ ผมไม่ได้ negative กับนักธุรกิจ เพราะคนต้องทำมาหากินและใช้เวลามาลงการเมือง แต่เราดูว่าการพูดคุยเรื่องผลประโยชน์ของตัวเองน้อยลง การไปแอบคุยกันตามห้องเล็กๆ ก็คงมี แต่น้อยลง

กรณีอดีต สส. บางท่าน โดนคดีอย่างเช่นการตบทรัพย์ การเสียบบัตรแทนกันการทำหลายอย่างแล้วมันมีโทษจริงๆ ให้เกิดขึ้น ผมคิดว่าทำให้สภาชุดนี้ดูดีขึ้น ส่วนถ้าจะมีข่าวเรื่องการทะเลาะกันในสภาบ้างมีการภาพข่าวที่เป็นดราม่าบ้าง ถ้าคิดเป็นสัดส่วนเวลาจริงๆแล้ว นิดเดียว  เวลาในการอภิปรายในการผ่านกฎหมายทั้งหมด 100%  อาจจะมีดราม่า 2% แต่ 98% ผมคิดว่ายังมีคุณภาพสูง แค่ว่ามันไม่ สามารถเป็นข่าวที่ตื่นเต้นได้นะเพราะผมคิดว่าในทิศทางภาพรวม เรายังไปได้ดีมาก

ก่อนหน้านี้มีข่าวใหญ่โตว่า มี นัก (ร้องเรียน) การเมือง ถูกตั้งข้อกล่าวหาว่า “ตบทรัพย์” โดยใช้กระบวนการสภาเป็นฉากหน้า จะมีมาตรการแก้ปัญหาไม่ให้สภาถูกใช้เป็นเครื่องมือหากินหรือไม่

หมออ๋อง กล่าวว่า มีช่วงหนึ่ง สภาถูกมองว่ามีอำนาจใหญ่เกินไปเหนือฝ่ายข้าราชการ อาจจะเป็นที่มาของการรัฐประหารด้วย พราะนักการเมืองถูกมองว่าใช้อำนาจทางสภานี่แหละในการเอาผลประโยชน์  ซึ่งก็มีทั้งข้อเท็จจริงและก็มีทั้งคำกล่าวหา

ถ้าเราเรียนรู้จากอดีตแล้ว เรามาจัดสมดุลอำนาจของสภานิติบัญญัติ ผมก็คิดว่าสภาจริงๆ สส. ไม่ควรจะเกี่ยวข้องกับโครงการอะไรทั้งสิ้นเลย ควรจะทำหน้าที่นิติบัญญัติจริงๆแล้วก็กำกับดูแลการบริหารจริงๆ

ถ้าเราผลักดันการทำงานที่โปร่งใสได้ ยกตัวอย่างเช่นการถ่ายทอดสดการประชุมกรรมาธิการ ก็จะไม่มีใครกล้าตบทรัพย์กันในการประชุมกรรมาธิการคุณต้องไปทำแอบที่อื่น แต่ทีนี้คุณทำไม่ได้เพราะว่ามีสายตาของสื่อมวลชนและสายตาของประชาชนจับจ้องอยู่ แล้วสุดท้ายผมคิดว่าถ้านักการเมือง สลัดออกจากการเป็นกลุ่มก๊วนการเมืองได้

“ผมเข้ามาที่นี่ผมไม่ได้อยู่ก๊วนใคร แต่ถ้าเป็นนักการเมืองเก่าๆ อาจจะต้องสังกัดก๊วน และการนำมาซึ่งก๊วน นำมาซึ่งการต่อรองโครงการแน่นอน เพราะต้องใช้เงินมากมายในการดูแลก๊วน แต่ถ้า สส.ทุกคนมาด้วยเอกสิทธิมาด้วยอำนาจของประชาชนจริงๆ ผมคิดว่าเราเปลี่ยนแปลงเรื่องนี้ได้”

ดดสภา = ไร้ความรับผิดชอบ

แล้วการโดดประชุมสภา มองว่าเป็นปัญหาหรือไม่ หมออ๋อง กล่าวว่า การโดดงานทุกงานก็มีปัญหา ไม่ว่าจะอาชีพไหน ในวันที่เรานำประชุมสภาเรื่องที่ถูกนำเข้า เราอยากเห็นที่ประชุมแน่นๆ เพราะเราจะได้รู้ว่ามีคนฟัง ไม่ใช่เดินเข้ามายกมืออย่างเดียว ไม่ได้ฟังอะไรเลย อ่านกลุ่มไลน์เอา มันก็คงไม่ดีนักต่อสภาพแวดล้อม บรรยากาศของสภา

สภาของเราถือว่าประชุมยาว ต่างประเทศ ประชุมสั้นกว่านี้ พูดสั้นกว่านี้ ตรงกว่านี้ ดังนั้น เมื่อประชุมยาว มีหน้าที่แทรกเช่น การประชุมกรรมาธิการ เป็นไปไม่ได้ว่าจะมีคนครบตลอดเวลาในสภา ถ้าขาดจากห้องประชุมด้วยเหตุผลนี้ผมรับได้ แต่ถ้ามาเซ็นชื่อตอนเช้าแล้วกลับบ้านเลยเพราะรู้ว่าไม่มีโหวต ถามว่าเกิดขึ้นได้ไหม ก็เกิดขึ้นได้ถ้าติดภารกิจจริงๆ

แต่ถ้าขาดโดยเป็นกิจวัตร ขาดโดยการไร้ความรับผิดชอบผมคิดว่าประชาชนจับจ้องอยู่ ถ้าลงมติเมื่อไหร่แล้วสภาล่ม หรือใช้เวลาเป็นชั่วโมงๆ ในการรอ อันนี้ไม่ได้เกิดจากข้อผิดพลาดปกติแต่เกิดจากการไร้วินัยแล้ไร้วินัยและความรับผิดชอบของแต่ละคน

เลือก สว.ในเจตจำนง คณะรัฐประหาร

ให้เขามองทะลุถึงการเลือกตั้ง สว.และ อบจ.การเมืองช็อตต่อไปจะเป็นอย่างไร รองประธานสภาคนที่ 1 วิเคราะห์ว่า ตั้งแต่ตั้งบอร์ดประกันสังคมแล้ว ยังไม่ต้องพูดเลือกตั้ง สว.เลย คนมาลงใช้สิทธิกับผู้มีสิทธิทั้งหมดเป็นสัดส่วนที่น้อยมาก การเลือกตั้งระบบปิดแบบนี้ทำให้เห็นว่าโอกาสที่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจะเลือกตั้งโดยตรงค่อนข้างยาก และผลการเลือกตั้งออกมา กอ.รมน.ก็เอารายชื่อไปตรวจสอบอีก เพื่ออะไร ทั้งที่เขาผ่านคุณสมบัติในการสมัครแล้ว ที่สำคัญยังมีความพยายามจะแก้กฎหมายในเรื่องบอร์ดประกันสังคมให้มาจากการแต่งตั้งด้วย

ทั้งหมด แสดงให้เห็นว่าเราอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญเดิมและเจตจำนงเดิมของคณะรัฐประหาร คือ ประเทศนี้อำนาจประชาชนอย่ามาก อนุญาตให้เลือกตั้งได้แต่อย่ามากเกินไป ดังนั้น ผมคิดว่ายังไม่มีฝันดีของการเลือกตั้ง สว.

ปิดท้ายการสนทนา ให้ “หมออ๋อง” ประเมินคะแนนตัวเอง แต่เขาตอบนึกสักครู่ก่อนตอบว่า ให้ไม่ได้เลย คนให้คะแนนนักการเมืองมีคนเดียวคือประชาชน ถ้าผมทำดีแทบตาย รู้สึกว่าตัวเองทำดี แต่สอบตกรอบหน้า การให้คะแนนของผมมันไม่มีประโยชน์ แต่ผมมีการประเมินเสมอ ผ่านทีมงาน ผ่านการทบทวนดูแผนงาน

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : หมออ๋อง รองประธานสภาคนกลาง บนบัลลังก์เป็นธรรม-ไม่ห่างก้าวไกล

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่

– Website : https://www.prachachat.net

News Related
  • สู้ไม่ไหว! ByteDance ปิดบริษัทลูก Nuverse พร้อมปลดพนักงาน 1,000 คน

    Courtesy of ByteDance https://assets.beartai.com/uploads/speaker/post-1334883.mp3?cb=1701136108.mp3 สำนักข่าวนิกเกอิเอเชียรายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวว่า ByteDance บริษัทแม่ของแพลตฟอร์มวิดีโอสั้นยอดนิยมอย่าง TikTok สั่งปลดพนักงานในแผนกเกมออกราว 1,000 คน พร้อมยกเลิกการพัฒนาเกมที่ยังไม่ได้เปิดตัวทั้งหมด และเตรียมขายเกมที่มีอยู่ในปัจจุบันให้บริษัทอื่นด้วย แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ByteDance มองว่าธุรกิจเกมไม่ได้สำคัญมากนักและมีโอกาสที่จำกัดในการสร้างรายได้ บริษัทจึงเลือกที่จะทุ่มเทกับธุรกิจหลักมากกว่า เช่น TikTok แพลตฟอร์มวิดีโอสั้นที่พ่วงมากับอีคอมเมิร์ซ ซึ่งกำลังประสบความสำเร็จอย่างมากในปัจจุบัน ทั้งนี้ ByteDance เคยมีความทะเยอทะยานอย่างมากกับธุรกิจเกม และต้องการต่อกรกับยักษ์ใหญ่อย่าง Tencent Holdings บริษัทเกมที่ใหญ่ที่สุดในโลกเมื่อพิจารณาจากรายได้ โดย ByteDance ได้ลงทุนอย่างจริงจังในธุรกิจเกมมาตั้งแต่ปี 2016 และในระหว่างปี 2019 ถึงปี 2022 พวกเขาทุ่มเงินมากถึง 4,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 151,200 ล้านบาท เพื่อลงทุนในบริษัทเกมมากกว่า 19 แห่ง ความทะเยอทะยานของ ByteDance ค่อย ๆ ลดลงจากผลงานที่น่าผิดหวัง ...
    See Details: สู้ไม่ไหว! ByteDance ปิดบริษัทลูก Nuverse พร้อมปลดพนักงาน 1,000 คน
  • สุภโชคเยือนกิเลนฯ ! เจลีก เอเชีย ชาลเลนจ์ เผยโปรแกรมหวดทีมไทยลีก

    สุภโชค สารชาติ เจลีก ลีกฟุตบอลอาชีพแห่งประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้จัดการแข่งขัน เจลีก เอเชีย ชาลเลนจ์ 2023/24 ได้ประกาศโปรแกรมการแข่งขันในปีนี้ออกมาแล้ว สำหรับปีนี้จะใช้ชื่อเต็มว่า ไทยประกันชีวิต เจลีก เอเชีย ชาลเลนจ์ 2023/24 พาวเวอร์ดบาย เมจิ ยาสึดะ หลังได้ ไทยประกันชีวิต เข้ามาเป็นผู้สนับสนุนหลักอีกทั้งยังได้เซ็นข้อตกลงกับบริษัท นิคอน คอร์เปอเรชั่น ในฐานะ “บรอนซ์ พาร์ทเนอร์” ด้วย เจลีก เอเชีย ชาลเลนจ์ 2023/24 จะมี 4 ทีมเข้าร่วมการแข่งขันประกอบด้วย 2 ทีมไทยลีก เมืองทอง ยูไนเต็ด และ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ส่วนทีมจากเจลีก ประกอบด้วย ฮอกไกโด คอนซาโดเล่ ซัปโปโร และ เซเรโซ ...
    See Details: สุภโชคเยือนกิเลนฯ ! เจลีก เอเชีย ชาลเลนจ์ เผยโปรแกรมหวดทีมไทยลีก
  • ครม.ไฟเขียว 5 จังหวัด เปิดสถานบริการในโรงแรมได้ถึงตี 4

    ภาพประกอบข่าว ครม. เคาะกฎกระทรวงขยายเวลาให้สถานบริการที่ตั้งในโรงแรมถูกกฎหมาย สถานบริการที่ตั้งใน 5 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ ภูเก็ต ชลบุรี เชียงใหม่ และเกาะสมุย ได้ถึง 4.00 น. วันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 28 พ.ย. 2566 ได้อนุมัติร่างกฎกระทรวงกำหนดวันเวลาเปิดปิดของสถานบริการ (ฉบับที่….) พ.ศ… ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวงฯ จะกำหนดให้สถานบริการที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ดังต่อไปนี้เปิดให้บริการได้ถึงเวลา 4.00 น. ของวันรุ่งขึ้นได้ ได้แก่ สถานบริการที่ตั้งที่อยู่ในสถานที่ตั้งโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม, สถานบริการที่ตั้งอยู่ในท้องที่กรุงเทพมหานคร, จังหวัดภูเก็ต, จังหวัดชลบุรี, จังหวัดเชียงใหม่ และท้องที่อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ภาพประกอบข่าว สำหรับท้องที่อื่นที่ประสงค์จะให้สถานบริการเปิดทำการได้ถึง 4.00 ...
    See Details: ครม.ไฟเขียว 5 จังหวัด เปิดสถานบริการในโรงแรมได้ถึงตี 4
  • อิสราเอลต้อนรับการมาเยือนของ Elon Musk หารือการใช้เน็ต Starlink ในฉนวนกาซา

    Elon_Musk_Plan_City_Cover https://assets.beartai.com/uploads/speaker/post-1334745.mp3?cb=1701136565.mp3 วันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน อิสราเอลได้ต้อนรับการมาเยือนของ อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ในระหว่างที่หยุดทำสงครามกับฮามาสเป็นการชั่วคราว ซึ่งได้บรรลุข้อตกลงในหลักการสำหรับการใช้อินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมสตาร์ลิงก์ (Starlink) ในฉนวนกาซา หลังจากมัสก์รับปากว่าจะให้การช่วยเหลือการเชื่อมต่อเน็ตในฉนวนกาซาผ่าน “องค์กรช่วยเหลือที่สากลยอมรับ” ในช่วงที่อิสราเอลเริ่มถล่มฉนวนกาซาอย่างหนักจนการสื่อสารถูกตัดขาดลง ช่วงบ่ายของวันจันทร์ ไอแซค เฮอร์ซอก (Isaac Herzog) ประธานาธิบดีของอิสราเอลมีกำหนดจะพูดคุยกับมัสก์ และพวกเขาจะเข้าร่วมพูดคุยกับญาติของตัวประกันที่ถูกกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาจับตัวไว้ เพื่อหาทางต่อสู้กับการต่อต้านชาวยิวที่เพิ่มขึ้นบนโลกออนไลน์ ในวันเดียวกัน เบนจามิน เนทันยาฮู (Benjamin Netanyahu) นายกรัฐมนตรีของอิสราเอล มีกำหนดหารือกับมัสก์เกี่ยวกับความปลอดภัยของเอไอ และจะมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันผ่านการถ่ายทอดสดออนไลน์ หลังจากทั้งสองพึ่งพบกันล่าสุดในแคลิฟอร์เนียเมื่อ 18 กันยายน เกี่ยวกับการต่อต้านชาวยิวบนแพลตฟอร์ม X และหาจุดสมดุลของเสรีภาพในการแสดงออก ปลายเดือนตุลาคม ช่วงที่มัสก์เผยว่าจะมอบเน็ตสตาร์ลิงก์ให้ใช้งานในฉนวนกาซา ชโลโม คาร์ฮี (Shlomo Karhi) กสทช. ของอิสราเอลได้แสดงความไม่เห็นด้วย เพราะมองว่ากลุ่มฮามาสจะนำเน็ตไปใช้ในการก่อการร้าย แต่การพูดคุยล่าสุดเน็ตสตาร์ลิงก์จะถูกใช้ในอิสราเอลเฉพาะเมื่อได้รับอนุมัติจากกระทรวงคมนาคมของอิสราเอล ซึ่งรวมถึงในฉนวนกาซาด้วย ...
    See Details: อิสราเอลต้อนรับการมาเยือนของ Elon Musk หารือการใช้เน็ต Starlink ในฉนวนกาซา
  • 'ไบท์แดนซ์' จ่อยุบธุรกิจเกม หลังแย่งส่วนแบ่งตลาดจาก 'เทนเซ็นต์' ไม่สำเร็จ

    ‘ไบท์แดนซ์’ จ่อยุบธุรกิจเกม หลังแย่งส่วนแบ่งตลาดจาก ‘เทนเซ็นต์’ ไม่สำเร็จ สำนักข่าวบลูมเบิร์กอ้างอิงแหล่งข่าวเผยว่า ไบท์แดนซ์ บริษัทแม่ติ๊กต็อกวางแผนปลดพนักงานฝ่ายเกมมิงและยุบธุรกิจพัฒนาเกมที่เป็นหน้าเป็นหน้าของบริษัทอย่าง Nuverse ถือเป็นการถอนตัวออกจากอุตสาหกรรมเกมครั้งใหญ่ ยกชัยชนะให้กับคู่แข่งอย่างเทนเซ็นต์ทันที แหล่งข่าวระบุว่า ไบท์แดนซ์ เตรียมปลดพนักงานหลายร้อยคน รวมทั้งยุบหลายโครงการที่กำลังพัฒนาและฉุดศักยภาพยอดขายของธุรกิจที่มีอยู่ ตามที่รอยเตอร์เคยรายงานหน้านี้ บริษัทยังพิจารณาขายเซี่ยงไฮ้ มูนตัน เทคโนโลยี สตูดิโอพัฒนาวิดีโอเกมชั้นนำที่ซื้อมาด้วยมูลค่า 4,000 ล้านดอลลาร์ (1.4 แสนบาท) เมื่อปี 2564 ด้วย การสร้างเกม ถือเป็นธุรกิจที่มีความไม่แน่นอนเป็นอย่างมาก โดยนับตั้งแต่ปีก่อน ไบท์แดนซ์เริ่มปิดสตูดิโอของตนเองและปลอดพนักงานฝ่ายพัฒนาหลายคน หลังเปลี่ยนไปโฟกัสธุรกิจหลักอย่างติ๊กต็อก แพลตฟอร์มวิดีโอสั้น ๆ และธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และเดือนนี้ก็ปลดพนักงานเกือบ 1 ใน 4 ของฝ่ายพิโค (Pico) ธุรกิจอุปกรณ์โลกเสมือน ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่ภาคธุรกิจเกมในโทรศัพท์มือถือของจีน ประสบปัญหาฟื้นธุรกิจให้ถึงจุดสูงสุดเหมือนช่วงโควิด-19 ในขณะที่เศรษฐกิจโลกชอละตัว ไบท์แดนซ์จึงค่อย ๆ ลดความทะเยอทะยานในอุตสาหกรรมเกม เมื่อไม่สามารถแย่งส่วนแบ่งตลาดจากเทนเซ็นต์ได้ ในทางกลับกันผู้นำอุตสาหกรรมเกมอย่างเทนเซ็นต์ ยังคงรักษาการเติบโตของธุรกิจได้อย่างยั่งยืน เพราะได้รับแรงหนุนจากเครดิตผู้นำอุตสาหกรรม ...
    See Details: 'ไบท์แดนซ์' จ่อยุบธุรกิจเกม หลังแย่งส่วนแบ่งตลาดจาก 'เทนเซ็นต์' ไม่สำเร็จ
  • TISCO ESU ฟันธง! เศรษฐกิจโลกปี 67 ชะลอตัว ชี้ ‘พันธบัตรโลก’ สร้างผลตอบแทน 8-15% ดีกว่าหุ้น

    ภาพประกอบข่าว TISCO ESU ฟันธง! เศรษฐกิจโลกปี 67 ชะลอตัว ชี้ ‘พันธบัตรโลก’ สร้างผลตอบแทน 8-15% ดีกว่าหุ้น เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) ชี้เศรษฐกิจโลกปี 2567 จะโตแบบชะลอตัวเมื่อเทียบกับปี 2566 ผลจากนโยบายการเงินที่เข้มงวดในรอบหลายทศวรรษ ประกอบกับอัตราเงินเฟ้อและดอกเบี้ยยังทรงตัวในระดับสูง แต่ไม่เลวร้ายถึงขั้น “เศรษฐกิจถดถอย”  แนะลงทุนพันธบัตรเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทน 8-15% ช่วยกระจายความเสี่ยงและลดผลขาดทุนของพอร์ตโดยรวม นายธรรมรัตน์ กิตติสิริพัฒน์ หัวหน้าฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจ ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) (Mr.Thammarat Kittisiripat, Head of Economic Unit, TISCO Economic Strategy Unit) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจโลกในปี 2567 จะชะลอตัวลง อันเป็นผลจากนโยบายการเงินที่เข้มงวดที่สุดในรอบหลายทศวรรษที่จะส่งผลกดดันต่อกิจกรรมเศรษฐกิจอย่างชัดเจน ทั้งกิจกรรมด้านบริการและภาคการผลิต นอกจากนี้ ด้วยอัตราเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูงกว่ากรอบเป้าหมายของธนาคารกลางต่างๆ และมีแนวโน้มว่าจะปรับตัวลดลงอย่างช้าๆ ทำให้ TISCO ESU ประเมินว่า อัตราดอกเบี้ยทั่วโลกในปี 2567 จะยังคงอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง เพราะธนาคารกลางจะต้องควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ตามเป้าหมาย ทั้งนี้ แม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวแต่ยังให้น้ำหนักไม่มาก ที่จะเข้าสู่ “ภาวะถดถอย” โดยหากอ้างอิงจากการคาดการณ์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่มองว่าเศรษฐกิจของประเทศในกลุ่มที่ “พัฒนาแล้ว” จะชะลอตัวลงต่อเนื่อง ...
    See Details: TISCO ESU ฟันธง! เศรษฐกิจโลกปี 67 ชะลอตัว ชี้ ‘พันธบัตรโลก’ สร้างผลตอบแทน 8-15% ดีกว่าหุ้น
  • “นฤมล” ถกผู้ส่งออก-นำเข้าปศุสัตว์ -บริษัทส่งออกผลไม้ หวังดันไทย-จีน

    นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์  ผู้แทนการค้าไทย หารือผู้แทนสมาคมผู้ส่งออกและนำเข้าปศุสัตว์และผลิตภัณฑ์จากปศุสัตว์ไทย และตัวแทนบริษัทส่งออกผลไม้ไทย เพื่อร่วมมือผลักดันการส่งออกโคและผลไม้ไทยไปจีน ผู้แทนการค้ากล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า การส่งออกเดือน ต.ค.2566 มีมูลค่า 23,578.8 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 8% เป็นบวกต่อเนื่อง 3 เดือนติดต่อกัน และสูงสุดในรอบ 13 เดือน นับจากเดือนก.ย.2565 ซึ่งการส่งออกที่เพิ่มขึ้น มาจากการเพิ่มขึ้นของสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร 9.3% โดยสินค้าเกษตร เพิ่ม 12.3% และสินค้าอุตสาหกรรมเกษตร เพิ่ม 5.9% สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น ข้าว ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง อาหารสุนัขและแมว ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ ไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง สิ่งปรุงรสอาหาร ผักกระป๋องและผักแปรรูป ผู้แทนการค้ากล่าวว่า สินค้าเกษตรจึงเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจของไทย จากการหารือกับสมาคมผู้ส่งออกฯ ที่ผ่านมาประเทศไทยติดปัญหาการส่งออกโคมีชีวิตไปยังประเทศจีน ซึ่งต้องให้ผ่านการรับรองจาก ...
    See Details: “นฤมล” ถกผู้ส่งออก-นำเข้าปศุสัตว์ -บริษัทส่งออกผลไม้ หวังดันไทย-จีน
  • มองหลากมุม “นโยบายเงินช่วยให้เปล่า” กับ การกระตุ้นเศรษฐกิจ

    หากนึกย้อนไปในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ปฏิเสธไม่ได้ว่า เศรษฐกิจทั่วโลกเจอผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้อุปสงค์หายไปอย่างกระทันหัน (Demand Shock) และเป็นต้นตอที่นำไปสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจอื่นตามมา จึงทำให้เราเห็นมาตรการการคลังและการเงินมากหน้าหลายตาถูกงัดออกมาใช้เพื่อพยุงเศรษฐกิจขนานใหญ่ สอดคล้องกับ IMF ที่ประเมินว่าเม็ดเงินจากมาตรการสนับสนุนทางการคลัง (Fiscal Support) ที่ใช้ในปี 2020 รวมกันทั่วโลกอาจสูงถึง 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 13% ของจีดีพี ซึ่งมากกว่าช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2009 ที่ใช้เม็ดเงินอัดฉีดไปเพียง 6.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ถึง 11% ของจีดีพี ณ ขณะนั้น “การอัดฉีดเงินเข้าภาคประชาชนโดยตรง” หรือ Helicopter Drop ก็เป็นหนึ่งในมาตรการยอดนิยมที่ 58 ประเทศทั่วโลกใช้ในวิกฤตระลอกล่าสุด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้าใจง่ายและตรงประเด็นกว่าเมื่อเทียบกับการลดอัตราดอกเบี้ยหรือการซื้อสินทรัพย์ผ่านเครื่องมือทางการเงิน อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องส่งผ่านตัวกลางใด ๆ จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าเครื่องมือทางการคลังอื่น โดยเฉพาะกับประเทศที่มีความพร้อมด้าน Payment Ecosystem ที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบตรงประเด็น อย่างไรก็ดี เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบดังกล่าวมักถูกใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตรุนแรงหรือช่วงที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย เพื่อให้เกิดการจับจ่ายเป็นวงกว้างและนำไปสู่การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้หลาย ...
    See Details: มองหลากมุม “นโยบายเงินช่วยให้เปล่า” กับ การกระตุ้นเศรษฐกิจ
  • กยศ. แจงปมนักศึกษาพยาบาลไม่ได้รับอนุมัติเงินกู้ ยันคุณสมบัติครบได้ทุกคน

    หากนึกย้อนไปในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ปฏิเสธไม่ได้ว่า เศรษฐกิจทั่วโลกเจอผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้อุปสงค์หายไปอย่างกระทันหัน (Demand Shock) และเป็นต้นตอที่นำไปสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจอื่นตามมา จึงทำให้เราเห็นมาตรการการคลังและการเงินมากหน้าหลายตาถูกงัดออกมาใช้เพื่อพยุงเศรษฐกิจขนานใหญ่ สอดคล้องกับ IMF ที่ประเมินว่าเม็ดเงินจากมาตรการสนับสนุนทางการคลัง (Fiscal Support) ที่ใช้ในปี 2020 รวมกันทั่วโลกอาจสูงถึง 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 13% ของจีดีพี ซึ่งมากกว่าช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2009 ที่ใช้เม็ดเงินอัดฉีดไปเพียง 6.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ถึง 11% ของจีดีพี ณ ขณะนั้น “การอัดฉีดเงินเข้าภาคประชาชนโดยตรง” หรือ Helicopter Drop ก็เป็นหนึ่งในมาตรการยอดนิยมที่ 58 ประเทศทั่วโลกใช้ในวิกฤตระลอกล่าสุด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้าใจง่ายและตรงประเด็นกว่าเมื่อเทียบกับการลดอัตราดอกเบี้ยหรือการซื้อสินทรัพย์ผ่านเครื่องมือทางการเงิน อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องส่งผ่านตัวกลางใด ๆ จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าเครื่องมือทางการคลังอื่น โดยเฉพาะกับประเทศที่มีความพร้อมด้าน Payment Ecosystem ที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบตรงประเด็น อย่างไรก็ดี เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบดังกล่าวมักถูกใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตรุนแรงหรือช่วงที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย เพื่อให้เกิดการจับจ่ายเป็นวงกว้างและนำไปสู่การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้หลาย ...
    See Details: กยศ. แจงปมนักศึกษาพยาบาลไม่ได้รับอนุมัติเงินกู้ ยันคุณสมบัติครบได้ทุกคน
  • น้ำผึ้ง ณัฐริกา สูญเสียครั้งใหญ่จนเป็นซึมเศร้า เคยไปดูศพเพื่อปลง (คลิป)

    หากนึกย้อนไปในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ปฏิเสธไม่ได้ว่า เศรษฐกิจทั่วโลกเจอผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้อุปสงค์หายไปอย่างกระทันหัน (Demand Shock) และเป็นต้นตอที่นำไปสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจอื่นตามมา จึงทำให้เราเห็นมาตรการการคลังและการเงินมากหน้าหลายตาถูกงัดออกมาใช้เพื่อพยุงเศรษฐกิจขนานใหญ่ สอดคล้องกับ IMF ที่ประเมินว่าเม็ดเงินจากมาตรการสนับสนุนทางการคลัง (Fiscal Support) ที่ใช้ในปี 2020 รวมกันทั่วโลกอาจสูงถึง 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 13% ของจีดีพี ซึ่งมากกว่าช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2009 ที่ใช้เม็ดเงินอัดฉีดไปเพียง 6.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ถึง 11% ของจีดีพี ณ ขณะนั้น “การอัดฉีดเงินเข้าภาคประชาชนโดยตรง” หรือ Helicopter Drop ก็เป็นหนึ่งในมาตรการยอดนิยมที่ 58 ประเทศทั่วโลกใช้ในวิกฤตระลอกล่าสุด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้าใจง่ายและตรงประเด็นกว่าเมื่อเทียบกับการลดอัตราดอกเบี้ยหรือการซื้อสินทรัพย์ผ่านเครื่องมือทางการเงิน อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องส่งผ่านตัวกลางใด ๆ จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าเครื่องมือทางการคลังอื่น โดยเฉพาะกับประเทศที่มีความพร้อมด้าน Payment Ecosystem ที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบตรงประเด็น อย่างไรก็ดี เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบดังกล่าวมักถูกใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตรุนแรงหรือช่วงที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย เพื่อให้เกิดการจับจ่ายเป็นวงกว้างและนำไปสู่การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้หลาย ...
    See Details: น้ำผึ้ง ณัฐริกา สูญเสียครั้งใหญ่จนเป็นซึมเศร้า เคยไปดูศพเพื่อปลง (คลิป)
  • เขินมาก”พัคมินยอง-คิมแจอุค”อวดโมเมนต์ชวนจิ้นผ่านไขหัวใจยัยแฟนเกิร์ล

    หากนึกย้อนไปในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ปฏิเสธไม่ได้ว่า เศรษฐกิจทั่วโลกเจอผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้อุปสงค์หายไปอย่างกระทันหัน (Demand Shock) และเป็นต้นตอที่นำไปสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจอื่นตามมา จึงทำให้เราเห็นมาตรการการคลังและการเงินมากหน้าหลายตาถูกงัดออกมาใช้เพื่อพยุงเศรษฐกิจขนานใหญ่ สอดคล้องกับ IMF ที่ประเมินว่าเม็ดเงินจากมาตรการสนับสนุนทางการคลัง (Fiscal Support) ที่ใช้ในปี 2020 รวมกันทั่วโลกอาจสูงถึง 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 13% ของจีดีพี ซึ่งมากกว่าช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2009 ที่ใช้เม็ดเงินอัดฉีดไปเพียง 6.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ถึง 11% ของจีดีพี ณ ขณะนั้น “การอัดฉีดเงินเข้าภาคประชาชนโดยตรง” หรือ Helicopter Drop ก็เป็นหนึ่งในมาตรการยอดนิยมที่ 58 ประเทศทั่วโลกใช้ในวิกฤตระลอกล่าสุด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้าใจง่ายและตรงประเด็นกว่าเมื่อเทียบกับการลดอัตราดอกเบี้ยหรือการซื้อสินทรัพย์ผ่านเครื่องมือทางการเงิน อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องส่งผ่านตัวกลางใด ๆ จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าเครื่องมือทางการคลังอื่น โดยเฉพาะกับประเทศที่มีความพร้อมด้าน Payment Ecosystem ที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบตรงประเด็น อย่างไรก็ดี เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบดังกล่าวมักถูกใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตรุนแรงหรือช่วงที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย เพื่อให้เกิดการจับจ่ายเป็นวงกว้างและนำไปสู่การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้หลาย ...
    See Details: เขินมาก”พัคมินยอง-คิมแจอุค”อวดโมเมนต์ชวนจิ้นผ่านไขหัวใจยัยแฟนเกิร์ล
  • กวาง ขายเรือนหอ 16 ล้านได้แล้ว ขอบคุณที่ให้บทเรียนดีๆ ‘น้ำหวาน’ โผล่เมนต์ลา

    หากนึกย้อนไปในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ปฏิเสธไม่ได้ว่า เศรษฐกิจทั่วโลกเจอผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้อุปสงค์หายไปอย่างกระทันหัน (Demand Shock) และเป็นต้นตอที่นำไปสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจอื่นตามมา จึงทำให้เราเห็นมาตรการการคลังและการเงินมากหน้าหลายตาถูกงัดออกมาใช้เพื่อพยุงเศรษฐกิจขนานใหญ่ สอดคล้องกับ IMF ที่ประเมินว่าเม็ดเงินจากมาตรการสนับสนุนทางการคลัง (Fiscal Support) ที่ใช้ในปี 2020 รวมกันทั่วโลกอาจสูงถึง 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 13% ของจีดีพี ซึ่งมากกว่าช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2009 ที่ใช้เม็ดเงินอัดฉีดไปเพียง 6.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ถึง 11% ของจีดีพี ณ ขณะนั้น “การอัดฉีดเงินเข้าภาคประชาชนโดยตรง” หรือ Helicopter Drop ก็เป็นหนึ่งในมาตรการยอดนิยมที่ 58 ประเทศทั่วโลกใช้ในวิกฤตระลอกล่าสุด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้าใจง่ายและตรงประเด็นกว่าเมื่อเทียบกับการลดอัตราดอกเบี้ยหรือการซื้อสินทรัพย์ผ่านเครื่องมือทางการเงิน อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องส่งผ่านตัวกลางใด ๆ จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าเครื่องมือทางการคลังอื่น โดยเฉพาะกับประเทศที่มีความพร้อมด้าน Payment Ecosystem ที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบตรงประเด็น อย่างไรก็ดี เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบดังกล่าวมักถูกใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตรุนแรงหรือช่วงที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย เพื่อให้เกิดการจับจ่ายเป็นวงกว้างและนำไปสู่การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้หลาย ...
    See Details: กวาง ขายเรือนหอ 16 ล้านได้แล้ว ขอบคุณที่ให้บทเรียนดีๆ ‘น้ำหวาน’ โผล่เมนต์ลา
  • SHARGE เปลี่ยนชื่อแบรนด์ ตอกย้ำเบอร์ 1 ธุรกิจ EV Charger ครบวงจร

    หากนึกย้อนไปในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ปฏิเสธไม่ได้ว่า เศรษฐกิจทั่วโลกเจอผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้อุปสงค์หายไปอย่างกระทันหัน (Demand Shock) และเป็นต้นตอที่นำไปสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจอื่นตามมา จึงทำให้เราเห็นมาตรการการคลังและการเงินมากหน้าหลายตาถูกงัดออกมาใช้เพื่อพยุงเศรษฐกิจขนานใหญ่ สอดคล้องกับ IMF ที่ประเมินว่าเม็ดเงินจากมาตรการสนับสนุนทางการคลัง (Fiscal Support) ที่ใช้ในปี 2020 รวมกันทั่วโลกอาจสูงถึง 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 13% ของจีดีพี ซึ่งมากกว่าช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2009 ที่ใช้เม็ดเงินอัดฉีดไปเพียง 6.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ถึง 11% ของจีดีพี ณ ขณะนั้น “การอัดฉีดเงินเข้าภาคประชาชนโดยตรง” หรือ Helicopter Drop ก็เป็นหนึ่งในมาตรการยอดนิยมที่ 58 ประเทศทั่วโลกใช้ในวิกฤตระลอกล่าสุด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้าใจง่ายและตรงประเด็นกว่าเมื่อเทียบกับการลดอัตราดอกเบี้ยหรือการซื้อสินทรัพย์ผ่านเครื่องมือทางการเงิน อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องส่งผ่านตัวกลางใด ๆ จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าเครื่องมือทางการคลังอื่น โดยเฉพาะกับประเทศที่มีความพร้อมด้าน Payment Ecosystem ที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบตรงประเด็น อย่างไรก็ดี เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบดังกล่าวมักถูกใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตรุนแรงหรือช่วงที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย เพื่อให้เกิดการจับจ่ายเป็นวงกว้างและนำไปสู่การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้หลาย ...
    See Details: SHARGE เปลี่ยนชื่อแบรนด์ ตอกย้ำเบอร์ 1 ธุรกิจ EV Charger ครบวงจร
  • สภาการพยาบาลออกประกาศ ห้ามให้ยาแก้ปวด Diclofenac ชนิดฉีด

    หากนึกย้อนไปในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ปฏิเสธไม่ได้ว่า เศรษฐกิจทั่วโลกเจอผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้อุปสงค์หายไปอย่างกระทันหัน (Demand Shock) และเป็นต้นตอที่นำไปสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจอื่นตามมา จึงทำให้เราเห็นมาตรการการคลังและการเงินมากหน้าหลายตาถูกงัดออกมาใช้เพื่อพยุงเศรษฐกิจขนานใหญ่ สอดคล้องกับ IMF ที่ประเมินว่าเม็ดเงินจากมาตรการสนับสนุนทางการคลัง (Fiscal Support) ที่ใช้ในปี 2020 รวมกันทั่วโลกอาจสูงถึง 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 13% ของจีดีพี ซึ่งมากกว่าช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2009 ที่ใช้เม็ดเงินอัดฉีดไปเพียง 6.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ถึง 11% ของจีดีพี ณ ขณะนั้น “การอัดฉีดเงินเข้าภาคประชาชนโดยตรง” หรือ Helicopter Drop ก็เป็นหนึ่งในมาตรการยอดนิยมที่ 58 ประเทศทั่วโลกใช้ในวิกฤตระลอกล่าสุด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้าใจง่ายและตรงประเด็นกว่าเมื่อเทียบกับการลดอัตราดอกเบี้ยหรือการซื้อสินทรัพย์ผ่านเครื่องมือทางการเงิน อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องส่งผ่านตัวกลางใด ๆ จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าเครื่องมือทางการคลังอื่น โดยเฉพาะกับประเทศที่มีความพร้อมด้าน Payment Ecosystem ที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบตรงประเด็น อย่างไรก็ดี เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบดังกล่าวมักถูกใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตรุนแรงหรือช่วงที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย เพื่อให้เกิดการจับจ่ายเป็นวงกว้างและนำไปสู่การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้หลาย ...
    See Details: สภาการพยาบาลออกประกาศ ห้ามให้ยาแก้ปวด Diclofenac ชนิดฉีด

OTHER NEWS

ถ้าไม่ไหวไปที่อื่น ! ไข่มุกหลงกล้อง-ทศกัณฐ์เดดแอร์ ศึกแข่งผู้ประกาศข่าวสุดเดือด!

ถ้าไม่ไหวไปที่อื่น ! ไข่มุกหลงกล้อง-ทศกัณฐ์เดดแอร์ ศึกแข่งผู้ประกาศข่าวสุดเดือด! รอบ Real Chance กับโจทย์ผู้ประกาศข่าวเที่ยงอมรินทร์ เดือดสุด !! เพราะเป็นรอบที่น้องๆ ทีมสีส้ม “ไข่มุก-ชาโอม-จอย” และทีมสีม่วง “ฟิว-ทศกัณฐ์-ปอนด์” ต้องมานั่งโต๊ะเป็นผู้ประกาศข่าวจริงๆ รอบ Real Chance กับโจทย์ผู้ประกาศข่าวเที่ยงอมรินทร์ ใน THE REAL NEXT GEN อมรินทร์เน็กซ์เจน Presented By est cola รายการเรียลลิตี้ ... Read more »

นายกฯ เผย ครม.เคาะขึ้นเงินเดือน ขรก.แล้ว รอฟังโฆษกแถลงได้เลย

ภาพประกอบข่าว นายกฯ เผย ครม.พิจารณาวาระขึ้นเงินเดือนแล้ว ให้โฆษก รบ.แถลง พร้อมเรียก รมต.เพื่อไทยถกต่อ เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 28 พฤศจิกายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์เพียงสั้นๆ ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ในวันนี้ที่ประชุม ครม.ได้มีการพิจารณาวาระการขึ้นเงินเดือนข้าราชการ ซึ่งมอบหมายให้โฆษกประจำสำนักนายกฯเป็นผู้แถลง ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ภายหลังนายกฯเป็นประธานการประชุม ครม.ชุดใหญ่แล้ว นายกฯได้เชิญรัฐมนตรีในส่วนของพรรคเพื่อไทย (พท.) ... Read more »

ศาลสั่งจำคุก 6 เดือน ‘เด่นนาโพธิ์’ ตะลึงว่าจ้างตัวเอง ‘ล้มมวย’!

ภาพประกอบข่าว ศาลสั่งจำคุก 6 เดือน ‘เด่นนาโพธิ์’ ตะลึงว่าจ้างตัวเอง ‘ล้มมวย’! จากรกรณีที่ เด่นนาโพธิ์ ส.ธัญญาลักษณ์ นักมวยไทย ขึ้นชกกับ ก้องนภา ศรีมงคล เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2565 ที่เวทีมวยวัดบ้านตากลาง ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ โดยการชกครั้งนี้ เด่นนาโพธิ์ แพ้น็อกไปอย่างกังขาในยกที่ 3 ทั้งที่ เด่นนาโพธิ์ เป็นฝ่ายฟันศอก ก้องนภา ... Read more »

พีพี วอนแฟนคลับไม่รุกล้ำเวลาส่วนตัว อยากเจอกันแบบสบายใจ

พีพี วอนแฟนคลับไม่รุกล้ำเวลาส่วนตัว อยากเจอกันแบบสบายใจ ก่อนแง้มข่าวดีกลางปีหน้า แม้ว่าก่อนหน้านี้ บริษัท PP Krit Entertainment ของศิลปินนักแสดงชื่อดัง พีพี กฤษฏ์ อำนวยเดชกร ได้ออกหนังสือชี้แจงมาตรการด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของศิลปิน หลังมีบุคคลบางกลุ่มพยายามละเมิดความเป็นส่วนตัว แต่ดูเหมือนว่ายังคงมีหลายคนที่ไม่ปฏิบัติตามกฎดังกล่าว จนเป็นเหตุให้คนใกล้ชิดต้องออกมาพูดเตือนสติเรื่องนี้อีกครั้งผ่านทางโซเชียล ล่าสุดเจอ พีพี ในงาน centralwOrld Light Up Christmas Tree Celebration ที่ ลานสแควร์A หน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เจ้าตัวให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นนี้ว่า ... Read more »

สมยศ เผยเซ็นสัญญา"อิชิอิ"คุมบอลไทยระยะสั้นแค่ช่วงวาระชุดบริหารปัจจุบัน

สมยศ เผยเซ็นสัญญา”อิชิอิ”คุมบอลไทยระยะสั้นแค่ช่วงวาระชุดบริหารปัจจุบัน จากกรณี “มาดามแป้ง”นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมฟุตบอลชายทีมชาติไทย ประกาศอย่างเป็นทางการแยกทาง มาโน่ โพลกิ้ง จากหัวหน้าผู้ฝึกสอน หลังผลงานคัดบอลโลก 2 นัดแรกไม่เป็นไปตามเป้าหมาย โดยตั้ง มาซาทาดะ อิชิอิ โค้ชชาวญี่ปุ่น อดีตกุนซือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มารับตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนคนใหม่ แทนทันที ล่าสุด “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้เผยว่าเรื่องการเลือกโค้ช เราให้เกียรติซึ่งกันและกัน มาดามแป้ง ... Read more »

ปุ้ย TPN อัปเดต มิสยูนิเวิร์ส 2023 หลังรัฐบาลนิการากัว สั่งห้ามเข้าประเทศ

หลังจากจบการประกวด Miss Universe 2023 แต่งานนี้ก็ยังมีเรื่องให้ ปุ้ย ปิยาภรณ์ หรือที่แฟนนางงามรู้จักในชื่อ ปุ้ย TPN ต้องมาชี้แจงหลายประเด็นที่เกิดขึ้น ทั้งเรื่องที่ Miss Universe คนล่าสุดเข้าประเทศไม่ได้ หรือประเด็นที่บริษัท TCG จะฟ้อง JKN ซึ่ง JKN เป็นบริษัทแม่ และ TPN เป็นบริษัทลูก จะโดนร่างแหไปด้วยหรือไม่ งานนี้เจ้าตัวก็ได้ตอบแบบเคลียร์ว่า “ข่าวที่ว่ามิสยูนิเวิร์สเขาเข้าประเทศไม่ได้น่ะเหรอ นี่ก็ได้คุยกับ ND ... Read more »

เจ้าหน้าที่คุมประพฤติซิ่งแจ๊ซเมาพุ่งชนคู่กรณีจนรถพลิกคว่ำ

เจ้าหน้าที่คุมประพฤติซิ่งแจ๊ซเมาพุ่งชนคู่กรณีจนรถพลิกคว่ำ เจ้าหน้าที่คุมประพฤติซิ่งรถแจ๊ซเมาหนักเดินเซขึ้นรถตำรวจ หลังจากพยายามขับรถพุ่งชนคู่กรณีจนรถพลิกคว่ำ แถมไม่สลดในมือยังถือกระป๋องเบียร์ วันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 เวลา 10.00 น. ตำรวจ สน.ท่าพระ รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์ เฉี่ยวชนกันจนเกิดพลิกคว่ำ บริเวณอุโมงค์ท่าพระ มุ่งหน้าจาก ถนน จรัญสนิทวงศ์ มุ่งหน้าถนน รัชดาท่าพระ จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสานอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณเชิงลาดขาลงทางลอดอุโมงข้ามแยกใต้แยกท่าพระ ทิศทางมุ่งหน้ามาจากถนนจรัญสนิทวงศ์ มุ่งหน้าไปทางถนน รัชดาท่าพระ แขวง วัดท่าพระ เขต บางกอกใหญ่ ... Read more »
Top List in the World