"โฮมโปร" เปิดยุทธศาสตร์ 5 ปี เดินหน้ากลยุทธ์ 3S ปั้นธุรกิจโตแสนล้าน

นายวีรพันธ์ อังสุมาลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ โฮมโปร (HomePro) เปิดเผยว่า โฮมโปรพลิกบทบาทธุรกิจครั้งใหญ่ ด้วยยุทธศาสตร์ 5 ปี เพื่อก้าวสู่ธุรกิจแสนล้าน พร้อมสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า คู่ค้า รวมถึงพันธมิตร ตอกย้ำการเป็นแบรนด์เบอร์หนึ่งผู้นำเรื่องบ้าน ภายใต้แผนดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็น ขยายสาขาครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ กว่า 170 สาขา, เปิดช่องทางการขายออนไลน์ให้ครอบคลุม และเชื่อมถึงกันแบบไร้รอยต่อ รองรับลูกค้า B2C และขยายฐานลูกค้าไป B2B มากขึ้น พร้อมพัฒนา 3 แอปพลิเคชัน ช้อปได้ไม่มีสะดุด ได้แก่ HomePro Online, Home Service, Home Card

นอกจากนี้ยังพัฒนาด้านระบบขนส่งและโลจิสติกส์ ขยายพื้นที่เพิ่มกว่า 1 แสนตร.ม. รองรับทุกความต้องการทั่วประเทศ, เพิ่มประสิทธิภาพศูนย์กระจายสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย รับและส่งออกสินค้ามากกว่า 4 แสนชิ้นต่อวัน, ระบบคลังสินค้าอัตโนมัติ-จัดการคลังได้มีประสิทธิภาพ แม่นยำ ลดความผิดพลาด, บริการให้เช่าคลังสินค้า, บริการขนส่งกลับ ด้วยต้นทุนต่ำ ตลอดจนส่งมอบสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ รวดเร็ว ถึงมือลูกค้า,ยกระดับประสบการณ์การซื้อสินค้าและบริการสุดพิเศษให้กับลูกค้า ภายใต้แนวคิด Lifetime Eco-System

โฮมโปรยังพร้อมขับเคลื่อนธุรกิจด้วยแผน Sustainability สร้างองค์กรเติบโตสมดุลอย่างยั่งยืนในทุกๆ มิติ อาทิ มุ่งสู่เป้าหมายองค์กร Net Zero ระดับโลก ภายในปี 2593, ผนึกกำลังพันธมิตรทุกภาคส่วน รับเทรนด์โลกอนาคตมุ่งเน้น ‘พลังงานสะอาดครบวงจร, เปิดตัวครั้งแรก! “First Closed Loop Circular Appliances” ผู้ค้าปลีกรายแรกที่ดำเนินโครงการ รีไซเคิล Waste of Electrical and Electrical Equipment (WEEE) พัฒนาสู่ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าหมุนเวียนแบบครบกระบวนการ ตั้งแต่การเก็บของที่ใช้งานแล้ว จากบ้านลูกค้า (HomePro Consumers) เข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลที่มีมาตรฐาน GRS รองรับ เพื่อให้ได้เม็ดพลาสติก PCR (Post Consumer Recycled) ที่มีคุณภาพ ในการนำกลับมาผลิตใหม่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าร่วมกับพันธมิตร ได้แก่ Haier, Toshiba, Venz และ SCG เพื่อเป้าหมายคือ ลดปริมาณขยะให้กับโลก อีกทั้งผนึกกำลังพันธมิตรทุกภาคส่วนรับเทรนด์โลกอนาคต มุ่งเน้นพลังงานสะอาดครบวงจร

ด้านขนส่งก็เปลี่ยนเป็นรถขนส่งพลังงานไฟฟ้า (EV Truck) ที่เร่งดำเนินการให้ได้ราว 50% ภายในปี 2573 ส่วนสาขาจัดจำหน่ายก็ติดตั้งโซล่าเซลล์ไปแล้ว 80 สาขา คิดเป็นกำลังการผลิตไฟมากกว่า 60 MWh และมีแผนที่จะขยายเพิ่มเติมต่อเนื่อง ทั้งยังมี EV Car สนับสนุนและส่งเสริมพนักงานใช้รถพลังงานสะอาด ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าจะเป็นก้าวใหม่ที่นำไปสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืนของธุรกิจโฮมโปร สร้างความเชื่อมั่นให้กับทุกภาคส่วน เติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อมกัน

สำหรับการทำธุรกิจอย่างยั่งยืนประกอบด้วย 3S

S1 : การเชื่อมต่อทุกช่องทาง อย่างไร้ขอบเขต (Synergized Omnichannel) ด้วยการขยายสโตร์ไปกว่า 170 สาขาครอบคลุมทั่วประเทศ พัฒนาช่องทางการขายออนไลน์ (Online Selling Platform) ครอบคลุมและเชื่อมถึงกันแบบไร้รอยต่อ ด้วยตัวเลือกสินค้าผ่านโฮมโปรออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น Website, HomePro Living (Shopee, Lazada, TikTok) และขยายฐานลูกค้าไปกลุ่มธุรกิจ B2B ให้มากขึ้น เพิ่มความสะดวกสบายในการสั่งซื้อสินค้า เสมือนมาซื้อสินค้าที่สาขาด้วยตนเอง ทั้งยังได้พัฒนา 3 แอปพลิเคชัน (Connected Seamless Apps.) ตอบโจทย์ทุกความต้องการให้มากขึ้น ได้แก่ HomePro Online App, Home Service App, Home Card App

ขณะเดียวกันก็ขยายพื้นที่และเพิ่มประสิทธิภาพศูนย์กระจายสินค้า (Distribution Centre) ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย 373,795 ตร.ม. และอนาคตจะขยายพื้นที่คลังสินค้าเพิ่มอีก 1 แสน ตร.ม. เพื่อรองรับการขยายธุรกิจภายในระยะเวลา 5 ปี โดยเพิ่มศักยภาพ (Speed Efficiency) รับและส่งออกสินค้าขนาดเล็กและใหญ่ มากกว่า 4 แสน ชิ้นต่อวัน และด้วยระบบคลังสินค้าอัตโนมัติ System : ASRS (Automated Storage and Retrieval System) ทำให้การบริหารจัดการคลังสินค้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รองรับการแข่งขันในธุรกิจ Home Solution และมีบริการเช่าคลังสินค้า ประหยัด คุ้มค่า (Rental Space) รองรับการเติบโตธุรกิจของคู่ค้าในระยะยาว รวมถึงบริการขนส่งกลับ (Backhaul) เพื่อช่วยคู่ค้าด้วยต้นทุนที่ต่ำ และยังเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสินค้าที่มีคุณภาพและรวดเร็ว (Last Mile Delivery)

S2 : การสร้างประสบการณ์พิเศษเฉพาะคุณ (Superior Experiences) ในการซื้อสินค้าและบริการ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ภายใต้การบริหารงานระบบ Lifetime Eco-System โดยออกแบบวงจรการบริโภคสินค้าและบริการภายใต้แนวคิดหมุนเวียนที่มีประสิทธิภาพ สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับภาพรวมธุรกิจด้วยการบริหารจัดการตั้งแต่การซื้อสินค้าและบริการ การดูแลตลอดอายุการใช้งาน จนถึงบริการหลังการขาย บริการซ่อมบำรุงจัดการทรัพยากรเหลือใช้อย่างถูกวิธี และการนำสินค้ามาผลิตใหม่ เชื่อมโยงทุกอย่างเข้าด้วยกัน ครอบคลุมทุกช่วงชีวิตของการใช้งานสินค้า

ไม่ว่าจะเป็นระบบ VVIP+Notification/Navigation แจ้งเตือนทุกครั้งเมื่อมีลูกค้าเข้าใช้บริการที่สาขา ลูกค้าสามารถค้นหาสินค้าได้ทันทีโดยไม่ต้องเดินไปที่ชั้นโชว์สินค้า, มีบริการใหม่ Pre-Order สามารถช้อปสินค้าได้ล่วงหน้าแล้วรอรับของได้เลย, บริการ Booking ช่วยให้ช้อปสินค้าได้รวดเร็วทันใจ, บริการ Customer Mobile Shopping สแกนเลือกซื้อสินค้า พร้อมชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ เลือกที่จะรอรับสินค้ากลับ หรือจัดส่งสินค้าถึงบ้าน ได้ตามความต้องการ อีกทั้งยังมีที่ปรึกษา (Home Solution Consultants) คอยให้คำแนะนำและบริการ มีเครื่องมือที่ช่วยออกแบบอย่าง Home Solution Tool and Home Inspiration และ ระบบ BYOD ช่วยยกระดับการขายสินค้าและบริการให้มีความสะดวก รวมไปถึงบริการ E-catalogue ที่ลูกค้าสามารถเลือกและสั่งซื้อสินค้าได้ด้วยตัวเอง พร้อมจัดส่งอย่างรวดเร็ว (Same Day Delivery and Installation)

S3 : การสร้างสรรค์นวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืน (Sustainable Innovation) ในปี พ.ศ. 2567 พร้อมเปิดตัว “First Retailer Making WEEE* For Closed Loop Circular Appliances by Post HomePro Consumers Recycled” หรือ ผู้ค้าปลีกรายแรกที่ดำเนินโครงการ รีไซเคิล WEEE พัฒนาสู่ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าหมุนเวียนแบบครบกระบวนการ ตั้งแต่การเก็บของที่ใช้งานแล้วจากบ้านลูกค้า (HomePro Consumers) เพื่อเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลที่มีมาตรฐาน GRS (Global Recycle Standard) รองรับ เพื่อให้ได้เม็ดพลาสติก PCR (Post Consumer Recycled) ที่มีคุณภาพ c]h;นำกลับมาผลิตใหม่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าร่วมกับพันธมิตร ได้แก่ Haier, Toshiba และ Venz เพื่อเป้าหมายการลดปริมาณขยะให้กับโลก

ก่อนหน้านี้โฮมโปรได้จัดทำโครงการ “Trade In-แลกเก่าเพื่อโลกใหม่” พร้อมผนึกกำลังร่วมกับ SCG พัฒนาผลิตสินค้ารักษ์โลก (Circular Product) นำวัสดุเหลือใช้มาออกแบบใหม่เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สามารถนำกลับมาได้ใช้อีกครั้ง และอนาคตเตรียมผนึกกำลังทุกภาคส่วน มุ่งสู่ธุรกิจพลังงานสะอาด และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั้งในระยะสั้นและยาว รวมถึงปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี ค.ศ.2050 ผ่านโครงการต่างๆ อาทิ ด้านขนส่ง เปลี่ยนเป็นรถขนส่งพลังงานไฟฟ้า (EV Car) ที่เร่งดำเนินการให้ได้ราว 50% ของพาหนะทั้งหมดภายในปี ค.ศ.2030, การติดตั้งโซลาร์เซลล์ ให้กับโฮมโปรและเมกาโฮม ไปแล้วกว่า 80 สาขา และมีแผนที่จะขยายการติดตั้งเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง