“ภูมิธรรม” ร่ายยาวตอบกระทู้สดก้าวไกล ปมเสรีภาพสื่อ ยัน รัฐบาลไม่คุกคาม-แทรกแซง

“ภคมน” สส.ก้าวไกล ตั้งกระทู้สดถามปมเสรีภาพสื่อ หลังล่าสุดถูกจับ 2 คน “ภูมิธรรม” ร่ายยาวแจง ยืนยัน รัฐบาลให้ความสำคัญ ย้ำ ไม่เคยคุกคาม-แทรกแซง แต่ทุกคนต้องอยู่ใต้กฎหมาย ตอกกลับ อย่าหมกมุ่นกับสิ่งที่เคยเกิด

เมื่อเวลาประมาณ 11.55 น. วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 เข้าสู่กระทู้ถามสดด้วยวาจาของ น.ส.ภคมน หนุนอนันต์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ถาม โดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ตอบกระทู้ถาม

น.ส.ภคมน เริ่มตั้งกระทู้ถามถึงเรื่องการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของสื่อมวลชน โดยย้อนไปตั้งแต่ปี 2557 ที่มีการรัฐประหารเป็นต้นมา มีการละเมิดเสรีภาพสื่อมวลชนหลายรูปแบบ ทั้งการใช้กำลัง การเซนเซอร์ การแทรกแซงการทำงาน รวมถึงการฟ้องปิดปากสื่อ กระทั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2567 มีการจับกุมผู้สื่อข่าวและช่างภาพ ตามหมายจับศาลอาญา จากกิจกรรมของผู้ชุมนุมกลุ่มหนึ่งที่พ่นสีลงบนกำแพงวัดพระแก้วเมื่อช่วงมีนาคม 2566 โดยหมายจับเชื่อมโยงว่าสื่อมวลชนถ่ายภาพกิจกรรมดังกล่าว เป็นการกระทำร่วมสนับสนุนผู้กระทำผิดในคดีอาญา

ทั้งนี้ รัฐบาล โดยเฉพาะสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบังคับใช้กฎหมาย ควรให้ความเคารพและคำนึงถึงสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชน ในการจำกัดหรือระงับเสรีภาพ ไม่ว่าด้วยวิธีการใดก็ตาม ต้องเป็นไปตามกฎหมาย โดยเฉพาะการตั้งข้อกล่าวหาหรือดำเนินคดี ต้องไม่สร้างข้อจำกัด หรือก่อให้เกิดความหวาดวิตกในการนำเสนอข่าวต่อสาธารณะ นอกจากไม่สมควรมีใครถูกฟ้องปิดปากแล้ว และขอตั้งคำถามถึงการดำเนินการที่ข้ามขั้นตอน ส่งหมายจับโดยไม่มีการส่งหมายเรียกมาก่อน เข้าใจว่าเป็นเรื่องในรัฐบาลที่แล้ว แต่ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์ข้ามขั้นตอนได้อย่างไร และจะมีแนวทางในการแก้ปัญหาในกระบวนการยุติธรรมได้อย่างไร โดยเฉพาะกับคดีฟ้องปิดปาก หากตอบไม่ได้ จะเป็นการทำลายความน่าเชื่อถือ ความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมทั้งระบบ และที่สำคัญ นี่คือการส่งสัญญาณเตือนสื่อมวลชนเพื่อสร้างความหวาดกลัวต่อการทำหน้าที่หรือไม่

“ภูมิธรรม” ร่ายยาวตอบกระทู้สดก้าวไกล ปมเสรีภาพสื่อ ยัน รัฐบาลไม่คุกคาม-แทรกแซง

“ภูมิธรรม” ร่ายยาวตอบกระทู้สดก้าวไกล ปมเสรีภาพสื่อ ยัน รัฐบาลไม่คุกคาม-แทรกแซง

นายภูมิธรรม ตอบว่า ได้ฟังคำถามแล้วรู้ถึงความห่วงใยที่มีต่อสื่อมวลชน แต่ยืนยันว่ารัฐบาลนี้เห็นเรื่องสิทธิเสรีภาพเป็นเรื่องสำคัญ และเราก็ห่วงใยในสิทธิเสรีภาพของประชาชนและสื่อมวลชน ทุกอย่างที่เกิดหากพูดหลักการไม่ตอบโจทย์ รัฐบาลและฝ่ายค้านก็เห็นไม่ต่างกัน แต่ต้องไปดูรูปธรรมที่เกิด กระบวนการทั้งหมดเป็นอย่างไร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่กระบวนการยุติธรรมดำเนินตามสิ่งที่เกิดขึ้น อีกทั้งการที่ผู้ตั้งกระทู้เกริ่นยาวไปจะสร้างความไม่เข้าใจ กลายเป็นการกระทำของรัฐบาลนี้ ยังดีที่พูดในสุดท้ายว่าเป็นของรัฐบาลเก่า ไม่เกี่ยวกับรัฐบาลนี้

“จริงๆ ควรจะเข้ามาสู่รัฐบาลนี้เลยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเรื่องหนึ่ง ถ้าไปโยงแบบนั้น ทำเหมือนกับว่ารัฐบาลนี้ได้เห็นพ้องต้องกันและทำมาตลอด อยากเรียนว่า ไม่อยากให้ใช้วาทกรรมแบบนี้ หรือการใช้เหตุผลแวดล้อมเหล่านี้มาคุยและมาหาทางแก้ปัญหากับรัฐบาลปัจจุบัน”

ก่อนชี้แจงต่อไปว่า รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนตามระบอบประชาธิปไตย และมาจากการที่พรรคการเมืองในสภาผู้แทนราษฎร รวมทั้งวุฒิสภา ให้ความไว้วางใจและโหวตให้ นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี นี่เป็นประชาธิปไตยระบบรัฐสภาโดยแท้ และหัวใจของประชาธิปไตยคือเสรีภาพและหลักการถ่วงดุลอำนาจ ทั้งอำนาจนิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ ที่สำคัญไม่น้อยไปกว่ากันคือ อำนาจการถ่วงดุลจากเสียงของประชาชนโดยตรง และเสียงของประชาชนที่สะท้อนผ่านสื่อมวลชนก็เป็นเรื่องที่สำคัญ ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ เป็นงานของรัฐบาล ที่จะต้องปกป้องเสรีภาพของสื่อมวลชน ในฐานะเป็นอีกหนึ่งในการสร้างสมดุลอำนาจประชาธิปไตย

ทั้งนี้ รัฐบาลยืนยัน และคิดว่าเป็นสิ่งที่เราจะปฏิบัติอย่างเต็มที่ เราเห็นไม่ต่างกัน เรามาจากการเลือกตั้ง เราเห็นคุณค่าของการที่ประชาชนจะทำหน้าที่ในการถ่วงดุล อันนี้ก็ไม่ต่างกัน การใช้สิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชน ของประชาชน ก็ไม่ต่างกัน แต่สิ่งสำคัญในระบอบประชาธิปไตย การใช้สิทธิเสรีภาพก็ต้องเป็นไปตามกฎหมายรัฐธรรมนูญที่ให้อำนาจไว้ ถ้ามีสิ่งใดล่วงเกินหรือละเมิด ก็ต้องให้กระบวนการยุติธรรมเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยจะไม่ยืนยันหรือสรุปว่าเป็นอย่างไร เพราะคิดว่ากระบวนการยุติธรรมกำลังทำหน้าที่ เรื่องนี้เกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลที่แล้ว มีการสืบสวนมาโดยตลอดจนกระทั่งมีหลักฐาน ไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลนี้โดยตรง เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกระบวนการที่สืบทราบและมีหลักฐาน ซึ่งจริงหรือไม่อำนาจการตัดสินใจอยู่ที่ศาล และศาลอนุมัติดำเนินการให้ออกหมายจับได้ เพราะฉะนั้น เป็นไปตามกระบวนยุติธรรม และเชื่อว่ารัฐบาลปัจจุบันสนับสนุนตรงนี้อย่างเต็มที่

“รัฐบาลชุดนี้อยู่ในอำนาจเพิ่งทำงานได้ 5 เดือน อย่างที่ผมได้กล่าวไปแล้วหลายครั้ง เป็นการทำงานโดยที่ไม่ได้มีงบประมาณอะไรมาทำตามโครงการที่ตัวเองอยากทำ ยังไม่ได้ใช้งบประมาณเกี่ยวกับการลงทุนเลย เราทำในโครงสร้างต่างๆ ที่สั่งสมมาจากความผิดในอดีต หรือปัญหาที่เกิดขึ้นทับถมมา เพราะฉะนั้น เรื่องที่ถามก็เป็นเรื่องที่อยู่ในกระบวนการที่เราจะดู โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องความรุนแรง หรือวิกฤติทางเศรษฐกิจ เราก็กำลังทำ ซึ่งสังคมมีความเห็นแตกต่างกัน หลายเรื่องยังไม่สามารถทำได้ในปัจจุบัน เรื่องกระบวนการยุติธรรม ก็มีความเห็น กำลังเข้าไปดู เข้าไปวางรายละเอียดต่างๆ” 

พร้อมขอบคุณที่ให้ข้อคิดให้รัฐบาลได้ไปพิจารณาและรอบคอบยิ่งขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม อำนาจของรัฐบาลไม่มีทางเหนือกฎหมาย เพราะฉะนั้นในเมื่อกระบวนการทางกฎหมายกำลังทำ เราอย่าเพิ่งไปสรุปหรือด่วนสรุปว่าตรงนี้รัฐบาลปิดปาก หรือตรงนั้นเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ลองดูกระบวนการยุติธรรมก่อน เชื่อว่ารัฐบาลนี้ไม่ปล่อยให้อำนาจของประชาชนหรือเสรีภาพของประชาชนถูกคุกคาม ทุกสิ่งที่ใช้กฎหมายหรือการทำงาน ต้องคำนึงหัวใจของพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบ แล้วก็ต้องคำนึงถึงหัวใจของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานต่างๆ ซึ่งอาจจะมีผิดบ้างถูกบ้างก็ว่ากันเป็นรายๆ ไปอย่าเหมารวมว่าเป็นระบบไปทั้งหมด

“ภูมิธรรม” ร่ายยาวตอบกระทู้สดก้าวไกล ปมเสรีภาพสื่อ ยัน รัฐบาลไม่คุกคาม-แทรกแซง

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีในคณะรัฐบาลเกือบทุกท่าน ต่างก็เคยถูกวิพากษ์วิจารณ์ มากไปกว่านั้นยังมีเรื่องเฟกนิวส์ ใส่ร้ายป้ายสีทั้งตัวท่านนายกรัฐมนตรีและหลายๆ คน สิ่งเหล่านั้นบางครั้งบางเรื่องก็เข้าข่ายการคุกคาม แต่รัฐบาลยังไม่เคยมอบหมายใครไปฟ้องคนเหล่านั้น เชื่อมั่นในเสรีภาพแห่งการพูด และเชื่อมั่นในวิจารณญาณของคนในสังคม มั่นใจว่าความหลากหลายของเนื้อหาเหล่านี้ ท้ายที่สุดมันจะถูกคัดกรองด้วยตนเองจากวุฒิภาวะของสังคมและจากประชาชน จะมองเห็นได้ว่ากระบวนการทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร เป็นความผิดแบบไหน หรือใครควรจะเป็นผู้รับผิดชอบ

“กรณีของสื่อมวลชน 2 รายจากสำนักข่าวประชาไท และสเปซบาร์ รัฐบาลก็เสียใจที่เรื่องนี้เกิดขึ้น แต่ต้องเรียนให้ทราบว่าหมายจับออกมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2566 ทางตำรวจและฝ่ายความมั่นคงมีพยานหลักฐานที่ทำไว้ก่อนที่รัฐบาลเศรษฐาจะเข้ามา ดังนั้น กระบวนการออกหมายจับและกระบวนการดำเนินการจับกุมไม่ได้อยู่ในขอบเขตอำนาจที่รัฐบาลนี้จะเข้าไปก้าวก่ายได้ ท่านคงไม่สบายใจถ้ามีเรื่องราวต่างๆ เกิดขึ้น และมีรัฐบาลนี้เข้าไปก้าวก่ายจัดการ หรือไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม”

ขณะที่กรณีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวานนี้ (14 กุมภาพันธ์ 2567) ในเรื่องญัตติด่วนขบวนเสด็จ ก็กลายเป็นไวรัลไปหมด ไม่มีใครสบายใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ตนเองถามทุกคนที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะเรื่องเมื่อวาน ถ้าดูเฉพาะฉาบฉวย สบายใจหรือที่อดีตหัวหน้าพรรคของท่านหรือหัวหน้าท่านไปเกี่ยวข้อง สัมพันธ์กับคนที่ก่อคดี ตนที่คุกคามขบวนเสด็จ โบราณเขาบอกรักวัวให้ถูกรักลูกให้ตี เรารักใครถ้าทำไม่ดีเราก็ต้องช่วยกันตักเตือนคะคาน เดี๋ยวนี้เขาใช้การพูดคุยให้ความรู้ ให้ความคิด สิ่งใดกฎหมายบังคับ สิ่งใดสมควรหรือไม่สมควร

“อยู่ๆ เรื่องนี้กลายมาเป็นโทษรัฐบาล ผมว่าฝ่ายค้านต้องทำหน้าที่ตรวจสอบอย่างมีเหตุผล แทนที่จะไปพูดถึงบุคคลที่ได้ดำเนินการไปถูกผิดตามกระบวนการยุติธรรมอย่างเคร่งครัด เมื่อวานท่านกำลังเรียกร้องให้เคร่งครัดอยู่ดีๆ วันนี้ท่านบอกว่าเรากำลังใช้อำนาจไปคุกคาม หน้าที่ของรัฐบาลคือดำเนินการตามสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างเป็นจริงและให้กระบวนการยุติธรรมเพื่ออำนวยความยุติธรรมกับทุกๆ คนที่เกี่ยวข้อง ท่านก็คงไม่สบายใจถ้าใครมากล่าวหาท่านโดยตรงว่าเป็นอย่างโน้นอย่างนี้ หรือว่าอยู่เบื้องหลังอะไรต่างๆ ใจเย็นๆ นะครับ ทุกอย่างว่ากันไปตามเหตุผล ว่าไปตามกฎหมาย ถ้ากฎหมายไปสร้างเรื่องเท็จมาทำร้ายการแสดงออกของพี่น้องประชาชน อันนั้นเรามาคุยกัน เป็นหน้าที่ของรัฐบาลและฝ่ายค้านต้องดำเนินการ

แต่ขณะนี้ไม่ได้ถูกปิดกั้นการแสดงออก เพียงแต่การแสดงออกสมควรหรือไม่สมควร ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นมีลักษณะคล้ายกัน ไม่ว่าจะเป็นการพ่นสีกำแพงวัดพระแก้ว หรือการบีบแตรไล่ขบวนเสด็จ ไปแทรกเข้าขบวนเสด็จ เหมือนกันทั้งหมด กฎหมายก็พยายามทำ แต่ก็พยายามให้ความนุ่มนวล จนหลายท่านอาจจะบอกว่าทำไมเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ทำงานอย่างเคร่งครัด เหมือนกับที่มีการอภิปรายสนับสนุนเมื่อวานนี้ เมื่อเรื่องเกิดขึ้นเราพยายามอิงตามกระบวนการยุติธรรม แต่ท่านยังตั้งคำถาม ก็ฟังไว้เป็นอุทาหรณ์ ผมก็จะนำเรื่องนี้เสนอ ครม. พิจารณา แต่อยากให้ช่วยดูให้ครบถ้วนและอย่าเพิ่งด่วนสรุป อย่าเพิ่งใช้วาทกรรม” 

นายภูมิธรรม ยังชี้แจงต่อไปว่า ตนดูข่าวบางช่องทำถ่ายภาพสภาฯ และมีไฟลุกท่วมจอ ท่านอยากให้ความขัดแย้งกลับมาหรือ รัฐบาลนี้พยายามจะแก้ไขปัญหาความขัดแย้งไปแล้ว และถ้าความขัดแย้งแบบใหม่เกิดขึ้นมา ท่านกำลังปลุกให้กระแสสังคมขึ้นมาชนหน้ากัน อยากเห็นเมืองไทยกลับไปสู่วังวนแบบเดิมหรือและขออย่าห่วง รัฐบาลนี้ยืนยัน คุ้มครองสิทธิเสรีภาพประชาชน คุ้มครองสิทธิเสรีภาพที่ผ่านทางสื่อมวลชน แต่ไม่ว่าจะเป็นประชาชนหรือสื่อมวลชน รัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ต้องรักษากฎกติกา สังคมถึงจะสงบสุข ทุกอย่างจะเดินไปได้ ส่วนกระบวนการยุติธรรมที่เกิดขึ้น ถ้ามีจุดรั่วไหลหรือไม่สมบูรณ์เรามาช่วยกันแก้ปัญหา เชื่อว่าจากการที่นำเสนอคงทำให้ท่านสบายใจ ไม่ต้องห่วง รัฐบาลนี้ยังยืนยันคุ้มครองสิ่งเหล่านี้อย่างเต็มที่

“ภูมิธรรม” ร่ายยาวตอบกระทู้สดก้าวไกล ปมเสรีภาพสื่อ ยัน รัฐบาลไม่คุกคาม-แทรกแซง

น.ส.ภคมน กล่าวต่อไปว่า ดีใจที่ นายภูมิธรรม ยังยืนยันในหลักการและเชื่อในเสรีภาพของประชาชน แต่ต้องตั้งสติเพราะวันนี้ไม่ได้พูดเรื่องขบวนเสด็จ แต่เรากำลังพูดเรื่องเสรีภาพของสื่อมวลชน อย่าเพิ่งไปไกลมากกว่านั้น และต้องยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าบ้านเราสื่อมวลชนไม่ได้เป็นอิสระจากทุนอย่างเด็ดขาดขนาดนั้น โดยเฉพาะธุรกิจสื่อมวลชนต้องพึ่งพาแหล่งทุนในการสนับสนุน ไม่มีทุนไหนที่พร้อมแบบรับความเสี่ยงโดยการทำให้รัฐไม่พอใจ ทำให้สื่อไม่มีอิสระมากพอ กรณีที่รัฐออกหมายจับทำให้ลดความน่าเชื่อถือของเขา และเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้งในยุครัฐบาลเผด็จการ

“ไม่ได้บอกว่ารัฐบาลนี้ปิดปากหรือแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม แต่กระบวนการยุติธรรมที่ไม่เป็นไปตามกระบวนการเช่นนี้เราจะแก้ไขอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดขึ้น จะการันตีหรือมีแนวทางอย่างไรเพื่อให้กระบวนการยุติธรรมนี้เป็นไปตามขั้นตอน ทราบดีว่าเรื่องเกิดตั้งแต่รัฐบาลที่แล้ว รัฐสภาเป็นพื้นที่กว้างและปลอดภัยที่สุดของสังคมตอนนี้ที่เราจะหยิบยกมาพูดกัน และสิ่งที่รัฐต้องตระหนักอยู่เสมอคือ สื่อมวลชนไม่ใช่ PR หรือ IO (ไอโอ) ของรัฐ อย่าติดนิสัยของพวกเผด็จการ เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาหยิบกล้องขึ้นมาบันทึกภาพ หยิบปากกาขึ้นมาบันทึกสถานการณ์ ข้อเท็จจริงออกมาอย่างไรก็ต้องยอมรับ เพราะหน้าที่ที่สำคัญของสื่อคือการนำเสนอข้อเท็จจริง ไม่ใช่การนำเสนอความเห็นเพื่อเทิดทูนและสร้างความราบรื่นให้แก่รัฐบาล แต่เป็นการสะท้อนสิ่งที่เกิดขึ้น สะท้อนความจริง ไม่ว่าความจริงนั้นจะมีประโยชน์ต่อฝ่ายไหนก็ตาม อยากเห็นภาพต่างจากรัฐบาลเผด็จการ”

สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวยืนยันอีกครั้งว่า เสรีภาพของสื่อมวลชนคือ เสรีภาพของประชาชน การผลักให้สื่อเป็นคู่ขัดแย้ง เท่ากับว่ากำลังเลือกที่จะยืนฝั่งตรงข้ามกับประชาชน แล้วใครจะเป็นหู เป็นตา เป็นปากแทนประชาชน หวังว่ารัฐบาลชุดนี้สลัดรอยต่อของรัฐบาลเผด็จการได้ แล้วคืนศักดิ์ศรี คืนเสรีภาพให้สื่อมวลชน อีกทั้งคาดหวังว่ารัฐบาลชุดนี้จะเปิดพื้นที่ตรงกลางให้กว้างที่สุด ให้คนที่เขาอยู่ตรงนี้ได้ทำหน้าที่อย่างเต็มภาคภูมิ อย่าตีตราหรือผลักไสให้ไปอยู่ข้างใดข้างหนึ่ง ดังนั้น คำถามคือรัฐบาลจะมีแนวทางส่งเสริมเสรีภาพสื่ออย่างไรไม่ให้ถูกละเมิดเสรีภาพในการเสนอ ไม่ให้ถูกเซนเซอร์ ไม่ให้ถูกฟ้องร้องแบบนี้ และรัฐบาลจากการันตีได้หรือไม่ว่าเหตุการณ์ลิดรอนเสรีภาพครั้งนี้จะเป็นการลดทอนความน่าเชื่อถือครั้งสุดท้ายของสื่อมวลชน

“ภูมิธรรม” ร่ายยาวตอบกระทู้สดก้าวไกล ปมเสรีภาพสื่อ ยัน รัฐบาลไม่คุกคาม-แทรกแซง

จากนั้น นายภูมิธรรม ได้ลุกขึ้นตอบอีกครั้งว่า “อย่ากังวลใจ อย่าหมกมุ่นกับสิ่งที่เคยเกิด แล้วก็อย่าจินตนาการต่อเนื่องว่ารัฐบาลที่เข้ามาใหม่จะต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ ผมเรียนยืนยันครับว่า รัฐบาลนี้ให้ความเคารพต่อเสรีภาพประชาชน และโดยเฉพาะสื่อมวลชน เรายึดตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 35 ที่ถือว่าสื่อมวลชนมีเสรีภาพในการนำเสนอข่าวและข้อคิดเห็น เราส่งเสริมให้สื่อกำกับดูแลควบคุมกันเอง ผมอยากกราบเรียนว่าเรายึดถือตามรัฐธรรมนูญ”

ทั้งนี้ ไม่อยากให้เอาเรื่องอดีตมาผูกพันกับปัจจุบันแล้วมาเสนอ ถ้าบอกว่ารัฐบาลนี้จะคุกคามสื่อ มีหลายรายการและหลายคอลัมนิสต์ที่พูดถึงรัฐบาลในทางที่ไม่ดีมากมาย แต่รัฐบาลนี้ไม่เคยเข้าไปแตะต้อง ถือเป็นเสรีภาพ เพราะฉะนั้นอยากให้ทำใจให้กว้าง ยืนยันว่าสื่อมวลชนทั้งหลายไม่ได้อยู่เหนือกฎหมาย เราคุ้มครองสิทธิเสรีภาพแน่ แต่ต้องอยู่ในกรอบ แม้อาจเกินเลยไปบ้างแต่รัฐบาลนี้ก็ยังไม่เคยเข้าไปทำอะไร รัฐบาลนี้ยึดมั่นในเสรีภาพ และอย่าไปกังวลใจแทนสื่อมวลชน 2 คนนั้น กระบวนการยุติธรรมดำเนินการไป ถ้าถึงที่สุดแล้วหลักฐานออกมาว่ายังไม่เพียงพอ เราค่อยมาวิพากษ์วิจารณ์ว่าเขาดำเนินการไม่เหมาะ ตนมีโอกาสคุยเจ้าหน้าที่เขายืนยันว่ามีหลักฐานครบถ้วน แต่เราทั้งสองฝ่ายอย่าเพิ่งไปยืนข้างใคร รอหลักฐานก่อนแล้วค่อยมาว่ากัน

แต่ถ้าหลักฐานชัดก็ต้องเข้าใจ ต้องยอมรับว่ากระบวนการเป็นอย่างไร วันนี้เรายังไม่ได้สรุป ให้กระบวนการดำเนินการไป รัฐบาลนี้รู้ดีว่าสื่อไม่ใช่ PR และไม่ใช่ IO ของใคร ไปถามประชาชนดูว่าสื่อมวลชนวันนี้ทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์และ IO ให้รัฐบาลมากน้อยแค่ไหน ดูได้ทุกช่อง เพราะฉะนั้นอย่าเอาเรื่องอย่างนี้มาบอกว่ารัฐบาลคุกคามสื่อ อยู่กับความเป็นจริง และคนที่จะตอบได้ดีที่สุดว่ารัฐบาลคุกคามสื่อ หรือว่าคนที่กล่าวหาพูดไม่ครบถ้วน โดยมีประโยชน์ที่ตัวเองอยากเชื่ออยากเห็นประชาชนคือคำตอบ

“ภูมิธรรม” ร่ายยาวตอบกระทู้สดก้าวไกล ปมเสรีภาพสื่อ ยัน รัฐบาลไม่คุกคาม-แทรกแซง

อย่างไรก็ตามเมื่อ น.ส.ภคมน ยืนยันว่า การคุยกันวันนี้เพื่อหลักการในอนาคต และความขัดแย้งไม่ได้เกิดจากการตั้งคำถามหรือข้อสงสัย แต่เกิดขึ้นจากความรู้สึกว่าไม่มีความยุติธรรม การแก้ปัญหานี้คือการตอบคำถามของความรู้สึกเหล่านั้นอย่างสิ้นสงสัย การกล่าวหาว่าเป็นวาทกรรม เป็นการปฏิเสธว่าปัญหาไม่มีอยู่จริง และไม่นำไปสู่การแก้ปัญหาใด พร้อมฝากว่า อย่าให้ลูกผสมที่ผสมข้ามขั้วมา กลืนกินไปทั้งหมด

นายภูมิธรรม ลุกตอบครั้งสุดท้ายว่า “ท่านก็ยังติดใจเรื่องการตั้งรัฐบาลอยู่ และไม่ได้เป็นรัฐบาลต่อ เลยติดใจเรื่องลูกผสม จริงๆ มาตามกระบวนการประชาธิปไตยทั้งหมด สิ่งที่ท่านพูดผมคิดว่าหลักการเราไม่ต่างกัน รัฐบาลนี้ยืนยันอยู่แล้ว ปัญหาคือท่านมองว่ารัฐบาลนี้ไม่รับฟัง เอาสิ่งต่างๆ มาปกป้องตัวเอง และชี้หน้าคนอื่น ผมว่าทั้งหมดอยู่ที่ข้อเท็จจริง การปฏิบัติที่เป็นจริงอยู่ที่ข้อเท็จจริงที่คนเห็น ท่านจะพูดวาทกรรมสวยหรูอย่างไร หรือท่านจะบอกว่าท่านเป็นสื่อมวลชนมาอย่างไรก็ตาม ผมว่าวันนี้เราเถียงกันเรื่องรูปธรรมที่เกิดขึ้น รัฐบาลยืนยันว่ายึดมั่นในรัฐธรรมนูญ ยึดมั่นการให้เสรีภาพพี่น้องประชาชน และยึดมั่นการเคารพเสรีภาพของสื่อ”

ขณะเดียวกัน สิ่งที่แตกต่างกันวันนี้คือการมองรูปธรรม การมีบทบาทเข้าไปเกี่ยวข้องกับรูปธรรม ทุกกรณีที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับความมั่นคง มันเป็นเรื่องที่ต้องเอาข้อเท็จจริงมาพูด ท่านบอกว่าเราทำให้มันเกิดความรุนแรงมากขึ้น ในทางตรงกันข้าม เรื่องที่เกิดขึ้นมีอยู่ทั้งสองมุมมอง ถ้าท่านหยิบมาพูดแล้วมันเกินความเป็นจริง ก็กลายเป็นจุดชนวนให้ความขัดแย้งในสังคมขยายตัวมากขึ้น ไม่ว่าใครก็ตามที่ปลุกให้เกิดความรุนแรง 2 ฝ่าย ล้วนแต่กำลังจะสร้างเงื่อนไขให้เกิดความวุ่นวาย ให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา เศรษฐกิจประเทศล้มเหลวมาจนขนาดนี้ ต้องการหรือ อยากให้เข้าใจสิ่งนี้ และคิดว่าแม้ข้อมูลอาจจะเหมือนกันแต่ทัศนะอาจจะต่างกัน ท้ายที่สุด ประชาชนเป็นผู้พิจารณาว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นต่างๆ มีกระบวนการมาอย่างไร ท่านแสดงความเห็นบทบาทอย่างไร รัฐบาลทำอะไรทุกอย่างเป็นอย่างไร ประชาชนเป็นคำตอบ.

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : “ภูมิธรรม” ร่ายยาวตอบกระทู้สดก้าวไกล ปมเสรีภาพสื่อ ยัน รัฐบาลไม่คุกคาม-แทรกแซง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่

– Website : www.thairath.co.th

– LINE Official : Thairath

News Related
  • สู้ไม่ไหว! ByteDance ปิดบริษัทลูก Nuverse พร้อมปลดพนักงาน 1,000 คน

    Courtesy of ByteDance https://assets.beartai.com/uploads/speaker/post-1334883.mp3?cb=1701136108.mp3 สำนักข่าวนิกเกอิเอเชียรายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวว่า ByteDance บริษัทแม่ของแพลตฟอร์มวิดีโอสั้นยอดนิยมอย่าง TikTok สั่งปลดพนักงานในแผนกเกมออกราว 1,000 คน พร้อมยกเลิกการพัฒนาเกมที่ยังไม่ได้เปิดตัวทั้งหมด และเตรียมขายเกมที่มีอยู่ในปัจจุบันให้บริษัทอื่นด้วย แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ByteDance มองว่าธุรกิจเกมไม่ได้สำคัญมากนักและมีโอกาสที่จำกัดในการสร้างรายได้ บริษัทจึงเลือกที่จะทุ่มเทกับธุรกิจหลักมากกว่า เช่น TikTok แพลตฟอร์มวิดีโอสั้นที่พ่วงมากับอีคอมเมิร์ซ ซึ่งกำลังประสบความสำเร็จอย่างมากในปัจจุบัน ทั้งนี้ ByteDance เคยมีความทะเยอทะยานอย่างมากกับธุรกิจเกม และต้องการต่อกรกับยักษ์ใหญ่อย่าง Tencent Holdings บริษัทเกมที่ใหญ่ที่สุดในโลกเมื่อพิจารณาจากรายได้ โดย ByteDance ได้ลงทุนอย่างจริงจังในธุรกิจเกมมาตั้งแต่ปี 2016 และในระหว่างปี 2019 ถึงปี 2022 พวกเขาทุ่มเงินมากถึง 4,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 151,200 ล้านบาท เพื่อลงทุนในบริษัทเกมมากกว่า 19 แห่ง ความทะเยอทะยานของ ByteDance ค่อย ๆ ลดลงจากผลงานที่น่าผิดหวัง ...
    See Details: สู้ไม่ไหว! ByteDance ปิดบริษัทลูก Nuverse พร้อมปลดพนักงาน 1,000 คน
  • สุภโชคเยือนกิเลนฯ ! เจลีก เอเชีย ชาลเลนจ์ เผยโปรแกรมหวดทีมไทยลีก

    สุภโชค สารชาติ เจลีก ลีกฟุตบอลอาชีพแห่งประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้จัดการแข่งขัน เจลีก เอเชีย ชาลเลนจ์ 2023/24 ได้ประกาศโปรแกรมการแข่งขันในปีนี้ออกมาแล้ว สำหรับปีนี้จะใช้ชื่อเต็มว่า ไทยประกันชีวิต เจลีก เอเชีย ชาลเลนจ์ 2023/24 พาวเวอร์ดบาย เมจิ ยาสึดะ หลังได้ ไทยประกันชีวิต เข้ามาเป็นผู้สนับสนุนหลักอีกทั้งยังได้เซ็นข้อตกลงกับบริษัท นิคอน คอร์เปอเรชั่น ในฐานะ “บรอนซ์ พาร์ทเนอร์” ด้วย เจลีก เอเชีย ชาลเลนจ์ 2023/24 จะมี 4 ทีมเข้าร่วมการแข่งขันประกอบด้วย 2 ทีมไทยลีก เมืองทอง ยูไนเต็ด และ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ส่วนทีมจากเจลีก ประกอบด้วย ฮอกไกโด คอนซาโดเล่ ซัปโปโร และ เซเรโซ ...
    See Details: สุภโชคเยือนกิเลนฯ ! เจลีก เอเชีย ชาลเลนจ์ เผยโปรแกรมหวดทีมไทยลีก
  • ครม.ไฟเขียว 5 จังหวัด เปิดสถานบริการในโรงแรมได้ถึงตี 4

    ภาพประกอบข่าว ครม. เคาะกฎกระทรวงขยายเวลาให้สถานบริการที่ตั้งในโรงแรมถูกกฎหมาย สถานบริการที่ตั้งใน 5 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ ภูเก็ต ชลบุรี เชียงใหม่ และเกาะสมุย ได้ถึง 4.00 น. วันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 28 พ.ย. 2566 ได้อนุมัติร่างกฎกระทรวงกำหนดวันเวลาเปิดปิดของสถานบริการ (ฉบับที่….) พ.ศ… ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวงฯ จะกำหนดให้สถานบริการที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ดังต่อไปนี้เปิดให้บริการได้ถึงเวลา 4.00 น. ของวันรุ่งขึ้นได้ ได้แก่ สถานบริการที่ตั้งที่อยู่ในสถานที่ตั้งโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม, สถานบริการที่ตั้งอยู่ในท้องที่กรุงเทพมหานคร, จังหวัดภูเก็ต, จังหวัดชลบุรี, จังหวัดเชียงใหม่ และท้องที่อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ภาพประกอบข่าว สำหรับท้องที่อื่นที่ประสงค์จะให้สถานบริการเปิดทำการได้ถึง 4.00 ...
    See Details: ครม.ไฟเขียว 5 จังหวัด เปิดสถานบริการในโรงแรมได้ถึงตี 4
  • อิสราเอลต้อนรับการมาเยือนของ Elon Musk หารือการใช้เน็ต Starlink ในฉนวนกาซา

    Elon_Musk_Plan_City_Cover https://assets.beartai.com/uploads/speaker/post-1334745.mp3?cb=1701136565.mp3 วันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน อิสราเอลได้ต้อนรับการมาเยือนของ อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ในระหว่างที่หยุดทำสงครามกับฮามาสเป็นการชั่วคราว ซึ่งได้บรรลุข้อตกลงในหลักการสำหรับการใช้อินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมสตาร์ลิงก์ (Starlink) ในฉนวนกาซา หลังจากมัสก์รับปากว่าจะให้การช่วยเหลือการเชื่อมต่อเน็ตในฉนวนกาซาผ่าน “องค์กรช่วยเหลือที่สากลยอมรับ” ในช่วงที่อิสราเอลเริ่มถล่มฉนวนกาซาอย่างหนักจนการสื่อสารถูกตัดขาดลง ช่วงบ่ายของวันจันทร์ ไอแซค เฮอร์ซอก (Isaac Herzog) ประธานาธิบดีของอิสราเอลมีกำหนดจะพูดคุยกับมัสก์ และพวกเขาจะเข้าร่วมพูดคุยกับญาติของตัวประกันที่ถูกกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาจับตัวไว้ เพื่อหาทางต่อสู้กับการต่อต้านชาวยิวที่เพิ่มขึ้นบนโลกออนไลน์ ในวันเดียวกัน เบนจามิน เนทันยาฮู (Benjamin Netanyahu) นายกรัฐมนตรีของอิสราเอล มีกำหนดหารือกับมัสก์เกี่ยวกับความปลอดภัยของเอไอ และจะมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันผ่านการถ่ายทอดสดออนไลน์ หลังจากทั้งสองพึ่งพบกันล่าสุดในแคลิฟอร์เนียเมื่อ 18 กันยายน เกี่ยวกับการต่อต้านชาวยิวบนแพลตฟอร์ม X และหาจุดสมดุลของเสรีภาพในการแสดงออก ปลายเดือนตุลาคม ช่วงที่มัสก์เผยว่าจะมอบเน็ตสตาร์ลิงก์ให้ใช้งานในฉนวนกาซา ชโลโม คาร์ฮี (Shlomo Karhi) กสทช. ของอิสราเอลได้แสดงความไม่เห็นด้วย เพราะมองว่ากลุ่มฮามาสจะนำเน็ตไปใช้ในการก่อการร้าย แต่การพูดคุยล่าสุดเน็ตสตาร์ลิงก์จะถูกใช้ในอิสราเอลเฉพาะเมื่อได้รับอนุมัติจากกระทรวงคมนาคมของอิสราเอล ซึ่งรวมถึงในฉนวนกาซาด้วย ...
    See Details: อิสราเอลต้อนรับการมาเยือนของ Elon Musk หารือการใช้เน็ต Starlink ในฉนวนกาซา
  • 'ไบท์แดนซ์' จ่อยุบธุรกิจเกม หลังแย่งส่วนแบ่งตลาดจาก 'เทนเซ็นต์' ไม่สำเร็จ

    ‘ไบท์แดนซ์’ จ่อยุบธุรกิจเกม หลังแย่งส่วนแบ่งตลาดจาก ‘เทนเซ็นต์’ ไม่สำเร็จ สำนักข่าวบลูมเบิร์กอ้างอิงแหล่งข่าวเผยว่า ไบท์แดนซ์ บริษัทแม่ติ๊กต็อกวางแผนปลดพนักงานฝ่ายเกมมิงและยุบธุรกิจพัฒนาเกมที่เป็นหน้าเป็นหน้าของบริษัทอย่าง Nuverse ถือเป็นการถอนตัวออกจากอุตสาหกรรมเกมครั้งใหญ่ ยกชัยชนะให้กับคู่แข่งอย่างเทนเซ็นต์ทันที แหล่งข่าวระบุว่า ไบท์แดนซ์ เตรียมปลดพนักงานหลายร้อยคน รวมทั้งยุบหลายโครงการที่กำลังพัฒนาและฉุดศักยภาพยอดขายของธุรกิจที่มีอยู่ ตามที่รอยเตอร์เคยรายงานหน้านี้ บริษัทยังพิจารณาขายเซี่ยงไฮ้ มูนตัน เทคโนโลยี สตูดิโอพัฒนาวิดีโอเกมชั้นนำที่ซื้อมาด้วยมูลค่า 4,000 ล้านดอลลาร์ (1.4 แสนบาท) เมื่อปี 2564 ด้วย การสร้างเกม ถือเป็นธุรกิจที่มีความไม่แน่นอนเป็นอย่างมาก โดยนับตั้งแต่ปีก่อน ไบท์แดนซ์เริ่มปิดสตูดิโอของตนเองและปลอดพนักงานฝ่ายพัฒนาหลายคน หลังเปลี่ยนไปโฟกัสธุรกิจหลักอย่างติ๊กต็อก แพลตฟอร์มวิดีโอสั้น ๆ และธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และเดือนนี้ก็ปลดพนักงานเกือบ 1 ใน 4 ของฝ่ายพิโค (Pico) ธุรกิจอุปกรณ์โลกเสมือน ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่ภาคธุรกิจเกมในโทรศัพท์มือถือของจีน ประสบปัญหาฟื้นธุรกิจให้ถึงจุดสูงสุดเหมือนช่วงโควิด-19 ในขณะที่เศรษฐกิจโลกชอละตัว ไบท์แดนซ์จึงค่อย ๆ ลดความทะเยอทะยานในอุตสาหกรรมเกม เมื่อไม่สามารถแย่งส่วนแบ่งตลาดจากเทนเซ็นต์ได้ ในทางกลับกันผู้นำอุตสาหกรรมเกมอย่างเทนเซ็นต์ ยังคงรักษาการเติบโตของธุรกิจได้อย่างยั่งยืน เพราะได้รับแรงหนุนจากเครดิตผู้นำอุตสาหกรรม ...
    See Details: 'ไบท์แดนซ์' จ่อยุบธุรกิจเกม หลังแย่งส่วนแบ่งตลาดจาก 'เทนเซ็นต์' ไม่สำเร็จ
  • TISCO ESU ฟันธง! เศรษฐกิจโลกปี 67 ชะลอตัว ชี้ ‘พันธบัตรโลก’ สร้างผลตอบแทน 8-15% ดีกว่าหุ้น

    ภาพประกอบข่าว TISCO ESU ฟันธง! เศรษฐกิจโลกปี 67 ชะลอตัว ชี้ ‘พันธบัตรโลก’ สร้างผลตอบแทน 8-15% ดีกว่าหุ้น เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) ชี้เศรษฐกิจโลกปี 2567 จะโตแบบชะลอตัวเมื่อเทียบกับปี 2566 ผลจากนโยบายการเงินที่เข้มงวดในรอบหลายทศวรรษ ประกอบกับอัตราเงินเฟ้อและดอกเบี้ยยังทรงตัวในระดับสูง แต่ไม่เลวร้ายถึงขั้น “เศรษฐกิจถดถอย”  แนะลงทุนพันธบัตรเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทน 8-15% ช่วยกระจายความเสี่ยงและลดผลขาดทุนของพอร์ตโดยรวม นายธรรมรัตน์ กิตติสิริพัฒน์ หัวหน้าฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจ ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) (Mr.Thammarat Kittisiripat, Head of Economic Unit, TISCO Economic Strategy Unit) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจโลกในปี 2567 จะชะลอตัวลง อันเป็นผลจากนโยบายการเงินที่เข้มงวดที่สุดในรอบหลายทศวรรษที่จะส่งผลกดดันต่อกิจกรรมเศรษฐกิจอย่างชัดเจน ทั้งกิจกรรมด้านบริการและภาคการผลิต นอกจากนี้ ด้วยอัตราเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูงกว่ากรอบเป้าหมายของธนาคารกลางต่างๆ และมีแนวโน้มว่าจะปรับตัวลดลงอย่างช้าๆ ทำให้ TISCO ESU ประเมินว่า อัตราดอกเบี้ยทั่วโลกในปี 2567 จะยังคงอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง เพราะธนาคารกลางจะต้องควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ตามเป้าหมาย ทั้งนี้ แม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวแต่ยังให้น้ำหนักไม่มาก ที่จะเข้าสู่ “ภาวะถดถอย” โดยหากอ้างอิงจากการคาดการณ์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่มองว่าเศรษฐกิจของประเทศในกลุ่มที่ “พัฒนาแล้ว” จะชะลอตัวลงต่อเนื่อง ...
    See Details: TISCO ESU ฟันธง! เศรษฐกิจโลกปี 67 ชะลอตัว ชี้ ‘พันธบัตรโลก’ สร้างผลตอบแทน 8-15% ดีกว่าหุ้น
  • “นฤมล” ถกผู้ส่งออก-นำเข้าปศุสัตว์ -บริษัทส่งออกผลไม้ หวังดันไทย-จีน

    นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์  ผู้แทนการค้าไทย หารือผู้แทนสมาคมผู้ส่งออกและนำเข้าปศุสัตว์และผลิตภัณฑ์จากปศุสัตว์ไทย และตัวแทนบริษัทส่งออกผลไม้ไทย เพื่อร่วมมือผลักดันการส่งออกโคและผลไม้ไทยไปจีน ผู้แทนการค้ากล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า การส่งออกเดือน ต.ค.2566 มีมูลค่า 23,578.8 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 8% เป็นบวกต่อเนื่อง 3 เดือนติดต่อกัน และสูงสุดในรอบ 13 เดือน นับจากเดือนก.ย.2565 ซึ่งการส่งออกที่เพิ่มขึ้น มาจากการเพิ่มขึ้นของสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร 9.3% โดยสินค้าเกษตร เพิ่ม 12.3% และสินค้าอุตสาหกรรมเกษตร เพิ่ม 5.9% สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น ข้าว ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง อาหารสุนัขและแมว ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ ไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง สิ่งปรุงรสอาหาร ผักกระป๋องและผักแปรรูป ผู้แทนการค้ากล่าวว่า สินค้าเกษตรจึงเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจของไทย จากการหารือกับสมาคมผู้ส่งออกฯ ที่ผ่านมาประเทศไทยติดปัญหาการส่งออกโคมีชีวิตไปยังประเทศจีน ซึ่งต้องให้ผ่านการรับรองจาก ...
    See Details: “นฤมล” ถกผู้ส่งออก-นำเข้าปศุสัตว์ -บริษัทส่งออกผลไม้ หวังดันไทย-จีน
  • มองหลากมุม “นโยบายเงินช่วยให้เปล่า” กับ การกระตุ้นเศรษฐกิจ

    หากนึกย้อนไปในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ปฏิเสธไม่ได้ว่า เศรษฐกิจทั่วโลกเจอผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้อุปสงค์หายไปอย่างกระทันหัน (Demand Shock) และเป็นต้นตอที่นำไปสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจอื่นตามมา จึงทำให้เราเห็นมาตรการการคลังและการเงินมากหน้าหลายตาถูกงัดออกมาใช้เพื่อพยุงเศรษฐกิจขนานใหญ่ สอดคล้องกับ IMF ที่ประเมินว่าเม็ดเงินจากมาตรการสนับสนุนทางการคลัง (Fiscal Support) ที่ใช้ในปี 2020 รวมกันทั่วโลกอาจสูงถึง 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 13% ของจีดีพี ซึ่งมากกว่าช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2009 ที่ใช้เม็ดเงินอัดฉีดไปเพียง 6.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ถึง 11% ของจีดีพี ณ ขณะนั้น “การอัดฉีดเงินเข้าภาคประชาชนโดยตรง” หรือ Helicopter Drop ก็เป็นหนึ่งในมาตรการยอดนิยมที่ 58 ประเทศทั่วโลกใช้ในวิกฤตระลอกล่าสุด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้าใจง่ายและตรงประเด็นกว่าเมื่อเทียบกับการลดอัตราดอกเบี้ยหรือการซื้อสินทรัพย์ผ่านเครื่องมือทางการเงิน อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องส่งผ่านตัวกลางใด ๆ จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าเครื่องมือทางการคลังอื่น โดยเฉพาะกับประเทศที่มีความพร้อมด้าน Payment Ecosystem ที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบตรงประเด็น อย่างไรก็ดี เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบดังกล่าวมักถูกใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตรุนแรงหรือช่วงที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย เพื่อให้เกิดการจับจ่ายเป็นวงกว้างและนำไปสู่การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้หลาย ...
    See Details: มองหลากมุม “นโยบายเงินช่วยให้เปล่า” กับ การกระตุ้นเศรษฐกิจ
  • กยศ. แจงปมนักศึกษาพยาบาลไม่ได้รับอนุมัติเงินกู้ ยันคุณสมบัติครบได้ทุกคน

    หากนึกย้อนไปในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ปฏิเสธไม่ได้ว่า เศรษฐกิจทั่วโลกเจอผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้อุปสงค์หายไปอย่างกระทันหัน (Demand Shock) และเป็นต้นตอที่นำไปสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจอื่นตามมา จึงทำให้เราเห็นมาตรการการคลังและการเงินมากหน้าหลายตาถูกงัดออกมาใช้เพื่อพยุงเศรษฐกิจขนานใหญ่ สอดคล้องกับ IMF ที่ประเมินว่าเม็ดเงินจากมาตรการสนับสนุนทางการคลัง (Fiscal Support) ที่ใช้ในปี 2020 รวมกันทั่วโลกอาจสูงถึง 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 13% ของจีดีพี ซึ่งมากกว่าช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2009 ที่ใช้เม็ดเงินอัดฉีดไปเพียง 6.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ถึง 11% ของจีดีพี ณ ขณะนั้น “การอัดฉีดเงินเข้าภาคประชาชนโดยตรง” หรือ Helicopter Drop ก็เป็นหนึ่งในมาตรการยอดนิยมที่ 58 ประเทศทั่วโลกใช้ในวิกฤตระลอกล่าสุด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้าใจง่ายและตรงประเด็นกว่าเมื่อเทียบกับการลดอัตราดอกเบี้ยหรือการซื้อสินทรัพย์ผ่านเครื่องมือทางการเงิน อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องส่งผ่านตัวกลางใด ๆ จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าเครื่องมือทางการคลังอื่น โดยเฉพาะกับประเทศที่มีความพร้อมด้าน Payment Ecosystem ที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบตรงประเด็น อย่างไรก็ดี เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบดังกล่าวมักถูกใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตรุนแรงหรือช่วงที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย เพื่อให้เกิดการจับจ่ายเป็นวงกว้างและนำไปสู่การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้หลาย ...
    See Details: กยศ. แจงปมนักศึกษาพยาบาลไม่ได้รับอนุมัติเงินกู้ ยันคุณสมบัติครบได้ทุกคน
  • น้ำผึ้ง ณัฐริกา สูญเสียครั้งใหญ่จนเป็นซึมเศร้า เคยไปดูศพเพื่อปลง (คลิป)

    หากนึกย้อนไปในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ปฏิเสธไม่ได้ว่า เศรษฐกิจทั่วโลกเจอผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้อุปสงค์หายไปอย่างกระทันหัน (Demand Shock) และเป็นต้นตอที่นำไปสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจอื่นตามมา จึงทำให้เราเห็นมาตรการการคลังและการเงินมากหน้าหลายตาถูกงัดออกมาใช้เพื่อพยุงเศรษฐกิจขนานใหญ่ สอดคล้องกับ IMF ที่ประเมินว่าเม็ดเงินจากมาตรการสนับสนุนทางการคลัง (Fiscal Support) ที่ใช้ในปี 2020 รวมกันทั่วโลกอาจสูงถึง 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 13% ของจีดีพี ซึ่งมากกว่าช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2009 ที่ใช้เม็ดเงินอัดฉีดไปเพียง 6.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ถึง 11% ของจีดีพี ณ ขณะนั้น “การอัดฉีดเงินเข้าภาคประชาชนโดยตรง” หรือ Helicopter Drop ก็เป็นหนึ่งในมาตรการยอดนิยมที่ 58 ประเทศทั่วโลกใช้ในวิกฤตระลอกล่าสุด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้าใจง่ายและตรงประเด็นกว่าเมื่อเทียบกับการลดอัตราดอกเบี้ยหรือการซื้อสินทรัพย์ผ่านเครื่องมือทางการเงิน อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องส่งผ่านตัวกลางใด ๆ จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าเครื่องมือทางการคลังอื่น โดยเฉพาะกับประเทศที่มีความพร้อมด้าน Payment Ecosystem ที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบตรงประเด็น อย่างไรก็ดี เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบดังกล่าวมักถูกใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตรุนแรงหรือช่วงที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย เพื่อให้เกิดการจับจ่ายเป็นวงกว้างและนำไปสู่การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้หลาย ...
    See Details: น้ำผึ้ง ณัฐริกา สูญเสียครั้งใหญ่จนเป็นซึมเศร้า เคยไปดูศพเพื่อปลง (คลิป)
  • เขินมาก”พัคมินยอง-คิมแจอุค”อวดโมเมนต์ชวนจิ้นผ่านไขหัวใจยัยแฟนเกิร์ล

    หากนึกย้อนไปในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ปฏิเสธไม่ได้ว่า เศรษฐกิจทั่วโลกเจอผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้อุปสงค์หายไปอย่างกระทันหัน (Demand Shock) และเป็นต้นตอที่นำไปสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจอื่นตามมา จึงทำให้เราเห็นมาตรการการคลังและการเงินมากหน้าหลายตาถูกงัดออกมาใช้เพื่อพยุงเศรษฐกิจขนานใหญ่ สอดคล้องกับ IMF ที่ประเมินว่าเม็ดเงินจากมาตรการสนับสนุนทางการคลัง (Fiscal Support) ที่ใช้ในปี 2020 รวมกันทั่วโลกอาจสูงถึง 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 13% ของจีดีพี ซึ่งมากกว่าช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2009 ที่ใช้เม็ดเงินอัดฉีดไปเพียง 6.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ถึง 11% ของจีดีพี ณ ขณะนั้น “การอัดฉีดเงินเข้าภาคประชาชนโดยตรง” หรือ Helicopter Drop ก็เป็นหนึ่งในมาตรการยอดนิยมที่ 58 ประเทศทั่วโลกใช้ในวิกฤตระลอกล่าสุด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้าใจง่ายและตรงประเด็นกว่าเมื่อเทียบกับการลดอัตราดอกเบี้ยหรือการซื้อสินทรัพย์ผ่านเครื่องมือทางการเงิน อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องส่งผ่านตัวกลางใด ๆ จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าเครื่องมือทางการคลังอื่น โดยเฉพาะกับประเทศที่มีความพร้อมด้าน Payment Ecosystem ที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบตรงประเด็น อย่างไรก็ดี เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบดังกล่าวมักถูกใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตรุนแรงหรือช่วงที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย เพื่อให้เกิดการจับจ่ายเป็นวงกว้างและนำไปสู่การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้หลาย ...
    See Details: เขินมาก”พัคมินยอง-คิมแจอุค”อวดโมเมนต์ชวนจิ้นผ่านไขหัวใจยัยแฟนเกิร์ล
  • กวาง ขายเรือนหอ 16 ล้านได้แล้ว ขอบคุณที่ให้บทเรียนดีๆ ‘น้ำหวาน’ โผล่เมนต์ลา

    หากนึกย้อนไปในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ปฏิเสธไม่ได้ว่า เศรษฐกิจทั่วโลกเจอผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้อุปสงค์หายไปอย่างกระทันหัน (Demand Shock) และเป็นต้นตอที่นำไปสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจอื่นตามมา จึงทำให้เราเห็นมาตรการการคลังและการเงินมากหน้าหลายตาถูกงัดออกมาใช้เพื่อพยุงเศรษฐกิจขนานใหญ่ สอดคล้องกับ IMF ที่ประเมินว่าเม็ดเงินจากมาตรการสนับสนุนทางการคลัง (Fiscal Support) ที่ใช้ในปี 2020 รวมกันทั่วโลกอาจสูงถึง 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 13% ของจีดีพี ซึ่งมากกว่าช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2009 ที่ใช้เม็ดเงินอัดฉีดไปเพียง 6.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ถึง 11% ของจีดีพี ณ ขณะนั้น “การอัดฉีดเงินเข้าภาคประชาชนโดยตรง” หรือ Helicopter Drop ก็เป็นหนึ่งในมาตรการยอดนิยมที่ 58 ประเทศทั่วโลกใช้ในวิกฤตระลอกล่าสุด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้าใจง่ายและตรงประเด็นกว่าเมื่อเทียบกับการลดอัตราดอกเบี้ยหรือการซื้อสินทรัพย์ผ่านเครื่องมือทางการเงิน อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องส่งผ่านตัวกลางใด ๆ จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าเครื่องมือทางการคลังอื่น โดยเฉพาะกับประเทศที่มีความพร้อมด้าน Payment Ecosystem ที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบตรงประเด็น อย่างไรก็ดี เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบดังกล่าวมักถูกใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตรุนแรงหรือช่วงที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย เพื่อให้เกิดการจับจ่ายเป็นวงกว้างและนำไปสู่การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้หลาย ...
    See Details: กวาง ขายเรือนหอ 16 ล้านได้แล้ว ขอบคุณที่ให้บทเรียนดีๆ ‘น้ำหวาน’ โผล่เมนต์ลา
  • SHARGE เปลี่ยนชื่อแบรนด์ ตอกย้ำเบอร์ 1 ธุรกิจ EV Charger ครบวงจร

    หากนึกย้อนไปในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ปฏิเสธไม่ได้ว่า เศรษฐกิจทั่วโลกเจอผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้อุปสงค์หายไปอย่างกระทันหัน (Demand Shock) และเป็นต้นตอที่นำไปสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจอื่นตามมา จึงทำให้เราเห็นมาตรการการคลังและการเงินมากหน้าหลายตาถูกงัดออกมาใช้เพื่อพยุงเศรษฐกิจขนานใหญ่ สอดคล้องกับ IMF ที่ประเมินว่าเม็ดเงินจากมาตรการสนับสนุนทางการคลัง (Fiscal Support) ที่ใช้ในปี 2020 รวมกันทั่วโลกอาจสูงถึง 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 13% ของจีดีพี ซึ่งมากกว่าช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2009 ที่ใช้เม็ดเงินอัดฉีดไปเพียง 6.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ถึง 11% ของจีดีพี ณ ขณะนั้น “การอัดฉีดเงินเข้าภาคประชาชนโดยตรง” หรือ Helicopter Drop ก็เป็นหนึ่งในมาตรการยอดนิยมที่ 58 ประเทศทั่วโลกใช้ในวิกฤตระลอกล่าสุด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้าใจง่ายและตรงประเด็นกว่าเมื่อเทียบกับการลดอัตราดอกเบี้ยหรือการซื้อสินทรัพย์ผ่านเครื่องมือทางการเงิน อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องส่งผ่านตัวกลางใด ๆ จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าเครื่องมือทางการคลังอื่น โดยเฉพาะกับประเทศที่มีความพร้อมด้าน Payment Ecosystem ที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบตรงประเด็น อย่างไรก็ดี เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบดังกล่าวมักถูกใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตรุนแรงหรือช่วงที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย เพื่อให้เกิดการจับจ่ายเป็นวงกว้างและนำไปสู่การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้หลาย ...
    See Details: SHARGE เปลี่ยนชื่อแบรนด์ ตอกย้ำเบอร์ 1 ธุรกิจ EV Charger ครบวงจร
  • สภาการพยาบาลออกประกาศ ห้ามให้ยาแก้ปวด Diclofenac ชนิดฉีด

    หากนึกย้อนไปในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ปฏิเสธไม่ได้ว่า เศรษฐกิจทั่วโลกเจอผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้อุปสงค์หายไปอย่างกระทันหัน (Demand Shock) และเป็นต้นตอที่นำไปสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจอื่นตามมา จึงทำให้เราเห็นมาตรการการคลังและการเงินมากหน้าหลายตาถูกงัดออกมาใช้เพื่อพยุงเศรษฐกิจขนานใหญ่ สอดคล้องกับ IMF ที่ประเมินว่าเม็ดเงินจากมาตรการสนับสนุนทางการคลัง (Fiscal Support) ที่ใช้ในปี 2020 รวมกันทั่วโลกอาจสูงถึง 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 13% ของจีดีพี ซึ่งมากกว่าช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2009 ที่ใช้เม็ดเงินอัดฉีดไปเพียง 6.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ถึง 11% ของจีดีพี ณ ขณะนั้น “การอัดฉีดเงินเข้าภาคประชาชนโดยตรง” หรือ Helicopter Drop ก็เป็นหนึ่งในมาตรการยอดนิยมที่ 58 ประเทศทั่วโลกใช้ในวิกฤตระลอกล่าสุด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้าใจง่ายและตรงประเด็นกว่าเมื่อเทียบกับการลดอัตราดอกเบี้ยหรือการซื้อสินทรัพย์ผ่านเครื่องมือทางการเงิน อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องส่งผ่านตัวกลางใด ๆ จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าเครื่องมือทางการคลังอื่น โดยเฉพาะกับประเทศที่มีความพร้อมด้าน Payment Ecosystem ที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบตรงประเด็น อย่างไรก็ดี เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบดังกล่าวมักถูกใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตรุนแรงหรือช่วงที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย เพื่อให้เกิดการจับจ่ายเป็นวงกว้างและนำไปสู่การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้หลาย ...
    See Details: สภาการพยาบาลออกประกาศ ห้ามให้ยาแก้ปวด Diclofenac ชนิดฉีด

OTHER NEWS

ถ้าไม่ไหวไปที่อื่น ! ไข่มุกหลงกล้อง-ทศกัณฐ์เดดแอร์ ศึกแข่งผู้ประกาศข่าวสุดเดือด!

ถ้าไม่ไหวไปที่อื่น ! ไข่มุกหลงกล้อง-ทศกัณฐ์เดดแอร์ ศึกแข่งผู้ประกาศข่าวสุดเดือด! รอบ Real Chance กับโจทย์ผู้ประกาศข่าวเที่ยงอมรินทร์ เดือดสุด !! เพราะเป็นรอบที่น้องๆ ทีมสีส้ม “ไข่มุก-ชาโอม-จอย” และทีมสีม่วง “ฟิว-ทศกัณฐ์-ปอนด์” ต้องมานั่งโต๊ะเป็นผู้ประกาศข่าวจริงๆ รอบ Real Chance กับโจทย์ผู้ประกาศข่าวเที่ยงอมรินทร์ ใน THE REAL NEXT GEN อมรินทร์เน็กซ์เจน Presented By est cola รายการเรียลลิตี้ ... Read more »

นายกฯ เผย ครม.เคาะขึ้นเงินเดือน ขรก.แล้ว รอฟังโฆษกแถลงได้เลย

ภาพประกอบข่าว นายกฯ เผย ครม.พิจารณาวาระขึ้นเงินเดือนแล้ว ให้โฆษก รบ.แถลง พร้อมเรียก รมต.เพื่อไทยถกต่อ เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 28 พฤศจิกายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์เพียงสั้นๆ ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ในวันนี้ที่ประชุม ครม.ได้มีการพิจารณาวาระการขึ้นเงินเดือนข้าราชการ ซึ่งมอบหมายให้โฆษกประจำสำนักนายกฯเป็นผู้แถลง ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ภายหลังนายกฯเป็นประธานการประชุม ครม.ชุดใหญ่แล้ว นายกฯได้เชิญรัฐมนตรีในส่วนของพรรคเพื่อไทย (พท.) ... Read more »

ศาลสั่งจำคุก 6 เดือน ‘เด่นนาโพธิ์’ ตะลึงว่าจ้างตัวเอง ‘ล้มมวย’!

ภาพประกอบข่าว ศาลสั่งจำคุก 6 เดือน ‘เด่นนาโพธิ์’ ตะลึงว่าจ้างตัวเอง ‘ล้มมวย’! จากรกรณีที่ เด่นนาโพธิ์ ส.ธัญญาลักษณ์ นักมวยไทย ขึ้นชกกับ ก้องนภา ศรีมงคล เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2565 ที่เวทีมวยวัดบ้านตากลาง ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ โดยการชกครั้งนี้ เด่นนาโพธิ์ แพ้น็อกไปอย่างกังขาในยกที่ 3 ทั้งที่ เด่นนาโพธิ์ เป็นฝ่ายฟันศอก ก้องนภา ... Read more »

พีพี วอนแฟนคลับไม่รุกล้ำเวลาส่วนตัว อยากเจอกันแบบสบายใจ

พีพี วอนแฟนคลับไม่รุกล้ำเวลาส่วนตัว อยากเจอกันแบบสบายใจ ก่อนแง้มข่าวดีกลางปีหน้า แม้ว่าก่อนหน้านี้ บริษัท PP Krit Entertainment ของศิลปินนักแสดงชื่อดัง พีพี กฤษฏ์ อำนวยเดชกร ได้ออกหนังสือชี้แจงมาตรการด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของศิลปิน หลังมีบุคคลบางกลุ่มพยายามละเมิดความเป็นส่วนตัว แต่ดูเหมือนว่ายังคงมีหลายคนที่ไม่ปฏิบัติตามกฎดังกล่าว จนเป็นเหตุให้คนใกล้ชิดต้องออกมาพูดเตือนสติเรื่องนี้อีกครั้งผ่านทางโซเชียล ล่าสุดเจอ พีพี ในงาน centralwOrld Light Up Christmas Tree Celebration ที่ ลานสแควร์A หน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เจ้าตัวให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นนี้ว่า ... Read more »

สมยศ เผยเซ็นสัญญา"อิชิอิ"คุมบอลไทยระยะสั้นแค่ช่วงวาระชุดบริหารปัจจุบัน

สมยศ เผยเซ็นสัญญา”อิชิอิ”คุมบอลไทยระยะสั้นแค่ช่วงวาระชุดบริหารปัจจุบัน จากกรณี “มาดามแป้ง”นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมฟุตบอลชายทีมชาติไทย ประกาศอย่างเป็นทางการแยกทาง มาโน่ โพลกิ้ง จากหัวหน้าผู้ฝึกสอน หลังผลงานคัดบอลโลก 2 นัดแรกไม่เป็นไปตามเป้าหมาย โดยตั้ง มาซาทาดะ อิชิอิ โค้ชชาวญี่ปุ่น อดีตกุนซือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มารับตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนคนใหม่ แทนทันที ล่าสุด “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้เผยว่าเรื่องการเลือกโค้ช เราให้เกียรติซึ่งกันและกัน มาดามแป้ง ... Read more »

ปุ้ย TPN อัปเดต มิสยูนิเวิร์ส 2023 หลังรัฐบาลนิการากัว สั่งห้ามเข้าประเทศ

หลังจากจบการประกวด Miss Universe 2023 แต่งานนี้ก็ยังมีเรื่องให้ ปุ้ย ปิยาภรณ์ หรือที่แฟนนางงามรู้จักในชื่อ ปุ้ย TPN ต้องมาชี้แจงหลายประเด็นที่เกิดขึ้น ทั้งเรื่องที่ Miss Universe คนล่าสุดเข้าประเทศไม่ได้ หรือประเด็นที่บริษัท TCG จะฟ้อง JKN ซึ่ง JKN เป็นบริษัทแม่ และ TPN เป็นบริษัทลูก จะโดนร่างแหไปด้วยหรือไม่ งานนี้เจ้าตัวก็ได้ตอบแบบเคลียร์ว่า “ข่าวที่ว่ามิสยูนิเวิร์สเขาเข้าประเทศไม่ได้น่ะเหรอ นี่ก็ได้คุยกับ ND ... Read more »

เจ้าหน้าที่คุมประพฤติซิ่งแจ๊ซเมาพุ่งชนคู่กรณีจนรถพลิกคว่ำ

เจ้าหน้าที่คุมประพฤติซิ่งแจ๊ซเมาพุ่งชนคู่กรณีจนรถพลิกคว่ำ เจ้าหน้าที่คุมประพฤติซิ่งรถแจ๊ซเมาหนักเดินเซขึ้นรถตำรวจ หลังจากพยายามขับรถพุ่งชนคู่กรณีจนรถพลิกคว่ำ แถมไม่สลดในมือยังถือกระป๋องเบียร์ วันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 เวลา 10.00 น. ตำรวจ สน.ท่าพระ รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์ เฉี่ยวชนกันจนเกิดพลิกคว่ำ บริเวณอุโมงค์ท่าพระ มุ่งหน้าจาก ถนน จรัญสนิทวงศ์ มุ่งหน้าถนน รัชดาท่าพระ จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสานอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณเชิงลาดขาลงทางลอดอุโมงข้ามแยกใต้แยกท่าพระ ทิศทางมุ่งหน้ามาจากถนนจรัญสนิทวงศ์ มุ่งหน้าไปทางถนน รัชดาท่าพระ แขวง วัดท่าพระ เขต บางกอกใหญ่ ... Read more »
Top List in the World