ไทยเร่งแก้ปมปัญหาสินค้าต่างประเทศทะลักเข้าไทย

ไทยเร่งแก้ปมปัญหาสินค้าต่างประเทศทะลักเข้าไทย

กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาทันทีหลังคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.)  มีความกังวลกับปัญหาสินค้าราคาถูกที่เข้ามาทุ่มตลาดในประเทศไทย และในตลาดอาเซียน ทั้งจากสินค้าออนไลน์ (E-commerce) และการเข้ามาใช้ประโยชน์จาก Free Trade Zone เพื่อขายสินค้าในประเทศ รวมถึงการลักลอบนำเข้าสินค้าผ่านด่านศุลกากรโดยการสำแดงข้อมูลเท็จเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี ทำให้สินค้าราคาถูกรวมถึงสินค้าที่ไม่มีมาตรฐานทะลักเข้าตลาดภายในประเทศ ส่งผลกระทบต่อยอดขายสินค้าของผู้ประกอบการไทยโดยเฉพาะ SMEs ที่ไม่สามารถแข่งขันด้านต้นทุนได้

จึงเสนอภาครัฐทบทวนข้อยกเว้นการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) สำหรับการซื้อสินค้าออนไลน์ที่ไม่เกิน 1,500 บาท เพื่อให้เกิดความยุติธรรมกับผู้ประกอบการไทย ทบทวนนโยบายและเงื่อนไขในการใช้สิทธิประโยชน์ใน Free Trade Zone รวมทั้ง ออกมาตรการปกป้องผู้ประกอบการในประเทศ เช่น การนำมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุนตลาด (Anti-Circumvention: AC) มาบังคับใช้ การเพิ่มความเข้มงวดการตรวจจับสินค้าที่นำเข้าผ่านด่านศุลกากร และการเร่งออกมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมให้ครอบคลุม เป็นต้น

ตอกย้ำปัญหานี้ด้วยบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านค้าปลีก อย่าง บมจ. เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น หรือ ซีอาร์ซี  “ญนน์ โภคทรัพย์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฯ นายกสมาคมผู้ค้าปลีกไทย ออกโรงกระทุ้งรัฐบาลให้ออกกฎหมายควบคุมสินค้าจีนที่ขณะนี้ส่งออกสินค้าต่างๆ เข้ามาขายในประเทศไทย ‘ราคาถูกมาก’ จนทำให้ธุรกิจค้าปลีก ค้าส่ง และเอสเอ็มอีไทยแข่งขันด้านต้นทุนได้ยากขึ้น หลังสินค้าจีน มีความได้เปรียบด้านภาษี

ร้อนถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง ต้องออกมาชี้แจง โดยกระทรวงพาณิชย์ได้รับทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและได้มีการหยิบยกปัญหาดังกล่าวมาหารือกันในการประชุมผู้บริหารของกระทรวงเมื่อวันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมาและมีบทสรุปที่ชัดเจน คือ เสนอให้กระทรวงการคลังยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการซื้อสินค้าออนไลน์ไม่เกิน 1,500 บาท และให้ไปดูเรื่องของคุณภาพสินค้า ซึ่งมักมีปัญหาสินค้าไม่ได้มาตรฐาน โดยเสนอให้สินค้าต่างประเทศที่นำเข้าต้องมีมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.)

ล่าสุด นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง โพสต์ทวิตเตอร์ (X) ส่วนตัว ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาแนวทางแก้ปัญหา โดยการการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) เพื่อไม่ให้ผู้ประกอบการในประเทศเสียเปรียบ

ด้านกระทรวงการคลังได้มีการประชุมด่วนพิจารณาการจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาท   โดยเชิญ 4 หน่วยงาน ประกอบด้วย กรมสรรพากร กรมศุลกากร สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศมาร่วมประชุมมีนายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธานนั้น

โดยเฉพาะประเด็นหากจะมีการยกเว้นภาษี จะเป็นการกีดกันทางการค้าหรือขัดกับกับระเบียบการค้าระหว่างประเทศที่ไทยตกลงไว้หรือไม่ ซึ่งกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ  ชี้แจงว่า ไม่ขัด เพราะเป็นมาตรการภายในประเทศ และบังคับใช้กับทุกประเทศอย่างเท่าเทียมกัน

โดยผลประชุมมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปทบทวนอัตราภาษีใหม่แล้ว ทั้งการยกเว้นภาษีแวต และปรับอากรขาเข้าหรือภาษีศุลกากรสำหรับสินค้าที่มีราคาไม่เกิน 1,500 บาท เพื่อสร้างความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษี และสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้ประกอบการในประเทศ

ปัญหาสินค้าต่างประเทศที่เข้ามาไทยขายผ่านออนไลน์ โดยอาศัยมาตรการการยกเว้นภาษีนำเข้า ทำให้สินค้าต่างประเทศมีต้นทุนต่ำ ขายราคาถูก ทำให้ผู้บริโภคคนไทยสั่งซื้อสินค้าเหล่านี้เป็นจำนวนมาก เพราะราคาถูกกว่าสินค้าไทยหลายเท่าตัวทำให้สินค้าไทยถูกแย่งตลาดและทำให้ผู้ประกอบการไทยไม่สามารถสู้กับสินค้าต่างประเทศ นับเป็นปัญหาใหญ่สำหรับประเทศไทย ซึ่งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องรีบแก้ไขปัญหา ก่อนที่สินค้าจากต่างประเทศจะกลืนกินสินค้าไปจนหมดตลาด